'เพื่อไทย' รับเงื่อนไขหลัก 3 ประการ 'ภูมิใจไทย' ไม่แตะม.112-ไม่เป็นเสียงข้างน้อย-ไม่มีก้าวไกล' จับมือตั้งต้นรัฐบาลใหม่ 212 เสียง ทำงานโปร่งใส-ตรวจสอบได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 7 ส.ค. 2566 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคภูมิใจไทยเป็นทางการ
"วันนี้ได้รับทราบว่าแนวทางทั้งสามของพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทยเห็นพ้องไปในทางเดียวกัน พรรคภูมิใจไทยให้คำยืนยันกับเพื่อไทยว่า ถ้ายังไม่เชิญพรรคอื่นมาหารือด้วย ให้รวมเสียงของพรรคภูมิใจไทยเป็น 212 เสียงได้ทันที เพื่อให้การพูดคุยกับพรรคอื่นมีความมั่นใจ ซึ่งการรวมเสียงนี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของระบอบประชาธิปไตย ส่วนการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีก็จะทำตามพรรคเพื่อไทย " นายอุนทินระบุ
ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอบคุณพรรคภูมิใจไทยที่ตอบรับคำเชิญและมาแถลงการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยที่เข้ามาร่วมแก้ไขวิกฤตของประเทศ โดยเฉพาะวิกฤตรัฐธรรมนูญ ซึ่งเงื่อนไขสามประการของพรรคภูมิใจไทยพรรคเพื่อไทยรับได้ 212 เสียงของพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยจะเป็นเสียงตั้งต้นของการจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีการจับกับขั้วรัฐบาลเดิม
จากนั้น นพ.ชลน่าน อ่านคำแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย ดังนี้
คำแถลงจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย
พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยการสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่เรายังคงต้องการเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว
รัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นในครั้งนี้ แม้จะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่เรายังต้องการการสนับสนุนจากทุกฝ่าย เนื่องจากปัญหาของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญอยู่นี้ มีความเดือดร้อนรุนแรง การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเท่าไรจะยิ่งแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น
เรามีความประสงค์จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งในสังคม และวิกฤตรัฐธรรมนูญก่อตัวเป็นปัญหาของประเทศ และประชาชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เราจึงต้องการเสียงสนับสนุนจากทุกพรรคการเมืองให้มาสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศ และประชาชนเป็นหลัก อาทิ เมื่อฝ่ายค้านเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม รัฐบาลพร้อมจะให้การสนับสนุน นอกจากนี้จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่
พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคภูมิใจไทย เห็นว่าทุกฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันได้ จึงกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนี้
1. ยึดวาระของประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และประชาธิปไตย นำความปรองดอง สมานฉันท์กลับคืนสู่ประเทศ
2. จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีในวาระแรก จะมีมติให้ทำประชามติขอจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการจัดตั้ง สสร.
3. ดำเนินงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์จะร่วมกันผลักดันให้สำเร็จ สิ่งใดที่เป็นปัญหาจะต้องถูกตรวจสอบและเร่งแก้ไขให้ถูกต้อง
4. จัดตั้งรัฐบาลที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้
5. การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้เปิดกว้างให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภามีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อผ่าทางตันระบบการเมืองของประเทศ และฝ่าวิกฤตรัฐธรรมนูญที่สร้างปัญหาอยู่ในปัจจุบัน
หลังจากนี้ เราจะเดินหน้าทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา เพื่อแสวงหาความร่วมมือ และกำหนดเจตนารมณ์ในการบริหารประเทศ จึงร้องขอการสนับสนุนจากทุกพรรคการเมือง ทุกฝ่าย ทุกคน มาร่วมกันกอบกู้วิกฤตของประเทศในครั้งนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีพรรคไหนมาร่วมและมีเงื่อนไขใดอีกหรือไม่
นพ.ชลน่าน ตอบว่า วันนี้ถือเป็นการเริ่มต้น เป็นสารตั้งต้น 212 เสียงที่แข็งแกร่ง ต่อไปก็จะไปเชิญหรือเข้าไปหาพรรคการเมืองอื่นๆ คาดว่าสัปดาห์นี้จะพบปะครบทั้งหมด ส่วนประเด็นเงื่อนไขต่าง ๆ ก็แถลงไปแล้ว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การที่พรรคภูมิใจไทยเสนอเงื่อนไขให้กับพรรคเพื่อไทยที่จะไม่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะไม่เกิดความมั่นคงใด ๆ ทางการเมือง ต้องให้ประเทศเดินต่อไป คำว่า 188 ต้องถือว่าไม่เคยมีในสมการตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่าเป็นรัฐบาลสมานฉันท์หรือไม่
นพ.ชลน่านตอบว่า เหตุการณ์ขณะนี้โดยเฉพาะวิกฤตของรัฐธรรมนูญที่ทำให้ไม่สามารถทำตามเจตนารมณ์ของประชาชนได้ ฉะนั้นการที่หันหน้าเข้าหากันในการตั้งรัฐบาลน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
นายภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวเสริมว่า ในแถลงการณ์ก็ชัดเจนแล้ว ฉะนั้นรัฐบาลนี้มีภารกิจหลัก 3 ด้าน แก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจเป็นลำดับแรก ส่วนวิกฤตรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ต้องทำต่อเนื่อง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีลุงหรือไม่
นายอนุทิน ตอบว่า มีเพียง 3 เงื่อนไขที่แจ้งเพื่อไทยไป เพื่อไทยจะดำเนินการอย่างไรก็ให้เพื่อไทยตัดสินใจ
เมื่อถามว่าจะจับมือกับสองลุงแล้วให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านหรือไม่
นพ.ชลน่าน ตอบว่า ต้องตอบตามที่แถลงไป เอาสองลุงหรือไม่ ในแถลงก็ชัดเจนว่าไม่มีสองลุง แต่ไม่ปฏิเสธเงื่อนไขถ้าจะมีสส. สว.ลักษณะเป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเข้ามาสนับสนุนในการเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นดุลยพินิจของแต่ละคน
@ ม็อบหลังแถลงข่าวจับมือ 'ภูมิใจไทย'
ภายหลังการแถลงข่าวร่วมจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ที่พรรคเพื่อไทย มวลชนกลุ่มทะลุวังจำนวนหนึ่งเดินทางมาขัดขวางการร่วมรัฐบาลระหว่างทั้งสองพรรค โดยกลุ่มทะลุวังมีการพ่นแอลกอฮอล์บริเวณพื้นหน้าพรรค, พ่นสีบนเสาหน้าพรรคเพื่อไทย, ขว้างปาสิ่งของ และโปรยใบปลิว
ทั้งนี้กลุ่มทะลุวังพยายามเข้าไปในพรรคเพื่อไทยแต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขวางไว้ จึงยืนอยู่บริเวณหน้าทางเข้าพรรคเพื่อไทย และเริ่มตะโกนต่อว่าพรรคเพื่อไทยที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย
ต่อมาเวลาประมาณ 17 นาฬิกากลุ่มทะลุวังเคลื่อนมวลชนไปขวางยังบริเวณทางเข้าออกอาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ หลังจากทราบว่าแกนนำของทั้ง 2 พรรคจะเดินทางออกที่บริเวณดังกล่าว โดยยืนดักหน้ารถตู้ พร้อมตะโกนต่อว่าและปาพลุควันใส่รถของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวฯ และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจ
ภาพม็อบประกอบข่าวจาก: แนวหน้า