สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทยจัดเวที 'ครูคิด วันปิดภาคเรียน' เสนอแนวคิดจากบุคลากรทางการศึกษาต่อพรรคการเมือง เด็กไทยเรียนฟรีมีคุณภาพตลอดชีพ-ทำร่างพ.ร.บ.การศึกษาฉบับใหม่-ทวงคืนสภาวิชาชีพ-ออกพรก.ตั้งกองทุนพัฒนาสร้างรายได้-คุณสมบัติรมว.กระทรวงศึกษาคนใหม่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2566 สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) เป็นองค์กรวิชาชีพและสังคมนำโดย ดร.วีรบูล เสมาทองประธานสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย ผู้นำองค์กรครู ประกอบด้วย สหพันธ์ครูภาคเหนือ,ชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,ชมรมครูภาคกลาง,สมาพันธ์ครูภาคใต้ เครือข่ายโรงเรียนขนาดเล็กแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้จัดเวที 'ครูคิด วันปิดภาคเรียน' ณ ห้องประชุมบุณยเกตุ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร เพื่อเสนอแนวความคิดร่วมของครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ ต่อพรรคการเมืองทุกพรรคการเมือง ดังนี้
1. เด็กไทยเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพตลอดชีพ นโยบายเรียนฟรีเป็นนโยบายที่ควรได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การศึกษากลายเป็นสวัสดิการพื้นฐานที่ทุกคนเข้าถึงได้จริง
2. จัดทำร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับครูและประชาชนฉบับใหม่ ปล่อยให้ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ค้างการพิจารณาวาระที่ 2 และ 3 ในรัฐสภาตกไป/แต่งตั้งคณะกรรมการยกร่างขึ้นมาใหม่ อย่างมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย โดยนำ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 พร้อมร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...(ฉบับครูและประชาชน) และร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...(ฉบับผู้ประกอบวิชาชีพครู)ที่นำเสนอโดยเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย
3. ทวงคืนสภาวิชาชีพครูและออกพรก.จัดตั้งกองทุนพัฒนาครูและสร้างรายได้
3.1 เสนอร่างพ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่งคสช.ดังนี้
1) ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 7/2558
2) ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 17/2560
3) ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2560
4) ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2561
3.2 รัฐบาลออก พรก.จัดตั้งกองทุนพัฒนาครูและสร้างรายได้ โดยใช้เงินกองทุนสนับสนุนกองทุน ชพค.เดิม จำนวน 25,000 ล้านบาท ที่ถูกยืดไปโดยคณะกรรมการสกสค.ในสมัยรัฐบาลคสช.
4. คุณสมบัติที่จำเป็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่
1. มีคุณธรรม จริยธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตโปร่งใส ตรวจสอบได้
2. มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ เคยดำรงตำแหน่งครู ทำงานทางด้านการศึกษา
3. เป็นผู้มีความมุ่งมั่นที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการปฏิรูปการศึกษา การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพเพื่อปวงชนชาวไทย
4. ให้ความสำคัญของวิชาชีพครู ต้องเป็นวิชาชีพควบคุม วิชาชีพชั้นสูง มีสภาวิชาชีพ มาตรฐานวิชาชีพ จรรยาบรรณวิชาชีพ เพื่อเป็นหลักประกัน สร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนและสังคม
5. ใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ ปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานเด็กไทย ตามหลัก สิทธิมนุษยชน เชื่อมั่นและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยสากล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อประเทศชาติและประชาชน
ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมการประชุมซึ่งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการบำนาญ และหน่วยงานทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยตัวแทนสถาบันราชภัฏสวนสุนันทา สมาคมผู้บริหารการศึกษา ตัวแทนศึกษานิเทศก์ ตัวแทนผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ตัวแทนผู้บริหารมัธยมศึกษา ตัวแทนครูอาชีวศึกษา และเครือข่ายภาคีด้านการศึกษา จำนวน 250 คน การประชุมได้ดำเนินการระดมความคิดและนำเสนอข้อสรุปเป็นเอกสาร จากเวทีครูคิด วันปิดภาคเรียน มอบแก่พรรคการเมือง ที่เข้าร่วมประชุมจนเสร็จสิ้นในเวลา12.00 น.