'แพรทองธาร ชินวัตร' ชี้แจงยุทธศาสตร์หาเสียงโค้งสุดท้าย-ย้ำนโยบายให้ประชาชนเข้าใจ ลั่น 'เพื่อไทย' คือคำตอบดีที่สุดของประชาชน ยันไม่จับมือ 'พลังประชารัฐ' เผย 'ทักษิณ' มีความหวังจะได้กลับบ้าน-ไม่เกี่ยวกับพรรค
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร แถลงข่าวยุทธศาสตร์เลือกตั้งโค้งสุดท้าย
นางสาวแพรทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเดินหน้าย้ำเรื่องนโยบายต่อไป ซึ่งตอนนี้นโยบายปล่อยไปหมดแล้ว อยากให้ประชาชนเห็นภาพชัดขึ้นมากกว่าว่าในนโยบายต่าง ๆ จะทำเมื่อใด อย่างไรบ้าง ส่วนประเด็นเรื่องโพลนั้นบางโพลก็เชื่อถือได้ บางโพลก็เชื่อถือไม่ได้ ประชาชนต้องใช้วิจารญาณในการพิจารณานโยบายของพรรค แล้วมองภาพรวมว่าพรรคใดที่จะสามารถเปลี่ยนอนาคตของประชาชนได้จริง เพราะประชาชนลำบากมาหลายปีแล้ว ฉะนั้นจะไม่รอแล้ว ต้องเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนประเทศ ไม่ต้องรออีก 4 ปีแล้วค่อยเปลี่ยน เลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะได้ถล่มทลาย เพื่อจะได้เปลี่ยนทันที ไม่ต้องไปรอลุ้นเหมือนปี 2562 ที่พรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากแต่จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ต้องขอฝากประชาชนว่านี่เป็นสิ่งที่ต้องทำแล้ว พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่เป็นคำตอบที่ดีที่สุดของประชาชน
"ถ้าออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ พร้อมลุยเต็มที่ เพราะว่าสิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือการนำเสนอตัวเองให้ประชาชนตัดสินใจ อิ๊งไม่สามารถทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการทุกครั้ง อิ๊งต้องการออกไปและพบพี่น้องประชาชนเท่าที่ทำได้ เต็มความสามารถ และส่งตัวแทนของพรรคด้วย เพราะพรรคมีแคนดิเดต 3 ท่านที่พร้อมจะเป็นนายก และพร้อมที่จะทำเพื่อประชาชน"
นางสาวแพรทองธาร กล่าวต่อว่า ส่วนข่าวที่จะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐไม่รู้ว่าเป็นกระแสจากคู่แข่งที่ต้องการปั่นว่าพรรคเพื่อไทยไม่ชัดเจน ทั้งที่ชัดเจนมาตลอดและทุกคนในพรรคพูดกันว่าจะไม่จับมือ ก็เข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นหนึ่งในเทคนิคทางการเมือง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสของพรรคก้าวไกลที่กำลังมาแรง อาจส่งผลต่อขั้วการเมือง นางสาวแพรทองธาร กล่าวว่า อย่างที่เคยประกาศไปหลายครั้งว่าไม่ว่าจะเป็นนโยบายหรือส.ว. ที่อาจจะเอาชนะได้ ไม่ใช่การเลือกตั้งแบบยุทธศาสตร์แล้ว แต่ครั้งนี้สำคัญมากต้องเลือกตั้งแบบยุทธศาสตร์ การที่โพลของเขาขึ้นในหลาย ๆ พรรคก็ดีเป็นเรื่องดี เพราะเขาก็ต้องทำเต็มที่ เราก็ต้องทำเต็มที่เช่นกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวการที่นายทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงการกลับประเทศไทย นางสาวแพรทองธาร กล่าวว่า ท่านก็พูดถึงอยู่ในหลายโอกาส เขาก็อยากกลับและก็มีความหวัง แต่สิ่งที่เขาพูดก็มีผลกระทบกับการเมือง แต่ในด้านครอบครัวตนมองว่าไม่ผิดที่จะหวัง โดยเฉพาะวันที่ที่บ้านมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น แต่ไม่ได้คุยกับพ่อว่าจะกลับมาวันไหน เมื่อใด อีกทั้งการที่พ่อของตนจะกลับบ้านไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับการหาเสียง อาจจะแยกยากเพราะพ่อของตนเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย หลาย ๆ คนที่เชื่อในตัวพ่อของตนก็ยังมีความหวัง ขณะที่ตนเป็นลูกก็ไม่สามารถตัดขาดไม่ได้อยู่แล้วจึงมีความหวังต่อเนื่องกันมา อันนี้เป็นสิ่งที่ตนไม่ได้กำหนด เป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้
"คุณพ่ออยากกลับมาเลี้ยงหลาน เขาพูดตลอด เขาไม่เคยพูดว่าเขาอยากกลับมาเป็นนายก เขาอยากกลับมาเลี้ยงหลาน เขาพูดทุกครั้งที่อยากกลับมา ความจริงแล้วมันไม่เกี่ยวกันเลย แต่คนชอบผูกให้เกี่ยวกัน ซึ่งก็ไม่แปลก อิ๊งคิดว่าการที่คนเราไปอยู่ต่างประเทศแบบนั้น นับว่า 17 ปีที่แล้ว แล้วคุณพ่อพูดว่าผมไม่มีวันได้กลับ จิตใจเขาจะเป็นยังไง อันนี้ขอแค่ความเข้าใจพื้นฐาน ความเป็นมนุษย์ว่ามนุษย์ต้องมีควมหวังไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม คุณพ่อก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความหวัง" นางสาวแพรทองธารระบุ