‘สมศักดิ์’ เยือนพิษณุโลก-เพชรบูรณ์ แก้ปัญหายาเสพติดเร่งทำความเข้าใจประมวลกฎหมายใหม่ พบผู้สมัคร ส.ส เพื่อไทยโผล่ร่วมงาน เจ้าตัวแจงเปิดกว้างใครก็มาฟังได้ ยังอุบเรื่องย้ายพรรค ชี้ยังไม่ถึงเวลา ทำหน้าที่รมต.อยู่ต้องให้เกียรติการเมืองด้วยกัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน โครงการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภาคเหนือตอนล่าง โดยมี นายวาทิต ปัญญาคม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ว่าที่ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ เครือข่ายเยาวชน คณะกรรมการชุมชน สมาชิกเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินและชาวบ้าน 700 คนร่วมงาน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ต้องขอบคุณนายนพพล ที่เป็น ส.ส.พิษณุโลก มาร่วมรับฟัง ทำความเข้าใจปัญหายาเสพติดและประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ ที่เน้นการยึดทรัพย์ตัดวงจรเครือข่าย และการสร้างงานสร้างอาชีพเพื่อทำให้ชาวบ้านห่างไกลและไม่กลับไปติดยา ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาให้กับชุมชน รวมทั้งทำให้อนาคตของลูกหลานดูดีมีอนาคตมากขึ้น การแก้ปัญหาหากได้รับความร่วมมือกับทุกฝ่ายเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะนายนพพล ก็รู้ดี ในการขับเคลื่อนแก้กฎหมายยาเสพติด 24 ฉบับ รวมเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่เคยอภิปรายในสภา และปรับแก้หลายเรื่องเพื่อให้สอดคล้องกับการป้องกันและปราบปรามแนวใหม่ เน้นการยึดทรัพย์ตัดวงจรเครือข่าย ซึ่งจะให้ ป.ป.ส.ทำแค่หน่วยงานเดียวไม่ได้ ต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกัน ซึ่งในอดีตการปราบยาเสพติดในเรื่องของทรัพย์สิน การยึดอายัดต้องใช้เวลาถึง 8 ปีกว่าจะจบ หากยังใช้รูปแบบเดิมประเทศจะเดินหน้าไม่ได้ ถอยหลังลงคลอง ดังนั้นรูปแบบใหม่จึงแยกคดีทรพย์ออกจากคดีอาญา ทำให้ยึดทรัพย์ได้ภายใน 2 ปี
จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้เปิดโอกาสให้ถามคำถาม โดยมีผู้ร่วมงานได้ลุกขึ้นสอบถามถึงโครงการน้ำแก้จนคนหมดหนี้ จะกลับมาอีกหรือไม่
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคที่เข้าถึงประชาชนคงต้องทำเรื่องนี้ แต่ขอให้รอดูว่าจะมีพรรคไหนทำเรื่องนี้หรือไม่ โดยตนเคยทำโครงการนี้ช่วยคนมาแล้วกว่า 1 แสนครอบครัว โดยหากเราเข้าใจเข้าถึงก็จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้จริง
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เมื่อถามถึง โครงการโคล้านตัวจะผลักดันเป็นนโยบายหาเสียงหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่า เรื่องนี้พรรคการเมืองใดจะมีนโยบายบ้าง แต่เท่าที่เห็นก็มีแล้ว 2 พรรคใหญ่ที่มีนโยบายในลักษณะแบบนี้ ซึ่งตนดีใจที่พรรคการเมืองให้ความสนใจและเห็นความสำคัญเรื่องนี่ เพราะจะเป็นการส่งเสริมการเสริมรายได้ให้กับเกษตรกร
เมื่อถามถึง แกนนำกลุ่มสามมิตรจะย้ายกลับพรรคเก่าหรือไม่ เพราะมีผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนเข้าร่วมงานนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หลายคนสามารถเดินทางมารับฟังได้เพราะไม่ได้จำกัด เป็นเรื่องเปิดเผย และเป็นงานเพื่อส่วนรวม เพื่อให้ทุกคนช่วยกันป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และให้เกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง เพื่อบูรณาการร่วมกันในการทำงาน
เมื่อถามว่าจะประกาศเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยเมื่อไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาตนจะพูดเอง แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเพราะยังเป็น รมว.ยุติธรรม อยู่ เราต้องให้เกียรติการเมืองด้วยกัน
จากนั้นนายสมศักดิ์ และคณะได้เดินทางด้วยรถยนต์ระยะทาง 159 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เพื่อเปิด โครงการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภาคเหนือตอนล่าง โดยมี นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ สมาชิกเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินและชาวบ้าน 700 คนร่วมงาน
นายสมศักดิ์ กล่าวย้ำว่า เรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องสำคัญ ที่ไม่ใช่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ทุกหน่วยงานต้องช่วยกัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดนตนเชื่อว่าหากเดินหน้ายึดทรัพย์จะช่วยให้ปัญหายาเสพติดลดลงไปได้มากเพราะเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงของวงจรเครือข่าย