คำพิพากษานายกเทศมนตรี จ.นครราชสีมา ซุกเงินกู้ 1 ล. - 3 รายจงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาคดี นายกเทศมนตรี ใน จ.นครราชสีมา ยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช.ซุกหนี้ 1 ล. อ้างหลงลืม สัญญาเงินกู้อยู่กับเจ้าหนี้ ให้พ้นตำแหน่งนับจากวันสั่งให้พักงาน จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี ขณะที่ 2 นายก อบต. จ.นครสวรรค์ -ปัตตานี รองนายก อบต.จ.ศรีสะเกษ ผิดด้วย จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่า นายอำพร มณีกรรณ นายกเทศมนตรี ต.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ กรณีไม่แสดงรายการกู้ยืมเงิน จำนวน 1 ล้านบาท โดยอ้างว่าหลงลืม มีรายละเอียดดังนี้
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ต.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2555 โดยผู้ถูกกล่าวหาแถลงนโยบายเพื่อเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2555 และดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบันตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 1/2557 ลงวันที่ 25 ธ.ค.2557 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 17 ม.ค.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณา
ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2555 ซึ่งพ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และไม่แสดงรายการหนี้สินการกู้ยืมเงิน ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่แสดงรายการหนี้สินการกู้ยืมเงินดังกล่าวแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงว่าหลงลืม
วินิจฉัยว่าผู้ถูกกล่าวหา ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบกรณีเข้ารับตำ แหน่งต่อผู้ร้องโดยไม่แสดงรายการกู้ยืมเงินจากนางศุภาณัน คงเกษมภิบาล จำนวน 1 ล้านบาท ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงว่า ได้เขียนจำนวนเงินและลงลายมือชื่อในฐานะผู้กู้ นางศุภาณันเป็นผู้กรอกรายละเอียดข้อความอื่น ๆ และเป็นผู้เก็บสัญญากู้ยืมเงินไว้ ผู้ถูกกล่าวหาจึงหลงลืมไม่ได้แสดงไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน แต่การกู้ยืมเงินของผู้ถูกกล่าวหานั้น เป็นการกู้ยืมเงินที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ลงลายมือชื่อในสัญญากู้ยืมและเขียนจำนวนเงินด้วยตนเอง ทั้งเป็นเงินจำนวนมาก โดยทำสัญญากู้ยืมเงินเมื่อวันที่ 13 ส.ค.2555 ก่อนที่ผู้ถูกกล่าวหาจะยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องไม่นาน คำชี้แจงที่อ้างว่าหลงลืมจึงไม่น่าเชื่อถือและเป็นการง่ายแก่การกล่าวอ้าง ไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟัง ประกอบกับในชั้นพิจารณาผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ พฤติการณ์ดังกล่าว มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ซึ่งการยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นหน้าที่สำคัญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติอันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้เกิดการตรวจสอบผู้ใช้อำนาจรัฐ จึงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ เมื่อผู้ถูกกล่าวหายังคงดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลาง จึงต้องพ้นจากตำแหน่งที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน
พิพากษาว่า นายอำพร มณีกรรณ์ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลาง ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลาง ที่ดำรงอยู่ในวันที่ 17 ม.ค.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสอง และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 12ก.ย. 2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.149/2561-12 ก.ย.2561)
จงใจไม่ยื่นบัญชฯ 3 ราย
ขณะเดียวกัน วันที่ 6 ก.ย.,7 ก.ย. และ 12 ก.ย.2561 ศาลฎีกาฯมีคำพิพากษา 3 นักการเมืองท้องถิ่นจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด
1.นายจักรพงษ์ ขุนพลนาควาส นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ชุมตาบง อ.ชุมตาบง จ.นครสวรรค์ ผู้คัดค้านจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งนายก อบต.ชุมตาบง ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 24 ส.ค.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษ ไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยกคดีหมายเลขแดงที่ อม.193/2559- 12 ก.ย.2561)
2.นายอับดุลฮารีส อดุลยศาสน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ระแว้ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งนายก อบต. ระแว้ง ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษ
จำคุกมาก่อน โท ษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.147/2561- 6 ก.ย.2561)
3.นายเกรียงไกร ธรรมบุตร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยตามอญ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ห้วยตามอญ ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งกั บมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.148/2561-7 ก.ย.2561)
อ่านประกอบ:
นายก อบต.จ.ราชบุรี ซุกโฉนด สลากออมสิน 1 ล. - 3 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีฯ
'เสงี่ยม' นปช.! ศาลฎีกาฯจำคุก 4 เดือน ไม่ยื่นบัญชีฯ นั่งสำนักเลขานายกฯ รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาฯออกหมายจับ แต่ตามรวบไม่ได้! ฟัน ส.ท.เมืองหัวหิน จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท 4 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
บรรทัดฐานคำวินิจฉัยศาลฎีกาฯคดี ปธ.อบจ.สมุทรสาคร ไม่แจ้งถือครองหุ้น 2 บริษัท
ศาลฟัน สท.จ.ปทุมฯ-ส.อบจ.นครนายก ยื่นเท็จ-นายก อบต.ชัยนาทซุกที่ดินชื่อ‘ลูกนอกสมรส’
ไม่มาตามนัด!ศาลฎีกาฯจำคุกจริงอีก 2 นักการเมืองท้องถิ่นคนละ 2-4 เดือน ซุกบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯฟัน 9 นักการเมืองท้องถิ่น 7 จว.ไม่ยื่นบัญชีฯ -1 รายยื่นเท็จอยู่นนทบุรี
ซื้อเงินสด-ใส่ชื่อเมียนอกสมรส-ปั้นสัญญากู้เท็จ! พฤติกรรมนายกเทศมนตรี ซุกทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯจำคุกจริง 2 เดือน นายกเทศมนตรี จ.ปทุมฯซุกทรัพย์สินในชื่อ‘เมียนอกสมรส’
ศาลฎีกาฯปรับ 4,000-12,000 บาท รอลงโทษจำคุก 7 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯฟัน ส.อบจ.เชียงใหม่ พังงา-10 นักการเมืองท้องถิ่น 8 จว.ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลจำคุก 2 เดือน นายก อบต.ใน จ.นครปฐม ยื่นบัญชีฯเท็จ ซุกหนี้สินเมีย 1.1 ล.
ศาลฎีกาฯฟัน 2 นักการเมืองท้องถิ่น ยื่นบัญชีฯเท็จ-รองนายก อบจ.สกลฯซุก 5 ครั้ง
ฟันอีก 5 ! ศาลฎีกาฯจำคุกจริง รองนายก อบต. จ.ปัตตานี ไม่ยื่นทรัพย์สิน นับโทษจากคดีเก่า
ชื่อหรา‘เสี่ยชูวิทย์’หุ้นใหญ่ ภัตตาคารซินกี่ โอนให้ลูกน้องปี 47 คดีจำคุก ซุก ป.ป.ช.
คำพิพากษาฉบับเต็ม!คดีจำคุก‘ชูวิทย์’ ที่แท้ซุกหุ้น‘ภัตตาคารซินกี่’ ใช้ลูกน้อง‘นอมินี’
ลอตใหญ่! ศาลฎีกาฯฟัน 17 นักการเมืองท้องถิ่น 14 จังหวัด จงใจไม่ยื่นทรัพย์สิน ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯฟันนักการเมือง จ.นครปฐม เจ้าของธุรกิจใหญ่ ยื่นเท็จ ซุกที่ดิน 36 แปลง
ศาลฎีกาฯฟัน 9 นักการเมืองท้องถิ่น! 8 คนไม่ยื่นบัญชีฯ-ส.อบจ.สุราษฎร์ฯซุกหนี้ ที่ดิน เงินฝาก
ศาลฎีกาฯฟัน ส.อบจ.สมุทรสาคร ซุกหุ้น 2 บ. – 7 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯฟัน 3 รองนายก อบต.-เทศบาล จ.ลพบุรี สกลนคร อุดรฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯฟัน 2 นักการเมืองท้องถิ่น จ.นครปฐม-นนทบุรี ซุกทรัพย์สินนับสิบรายการ
สมาชิกเมืองพัทยาจงใจซุกบ้าน! ศาลฎีกาฯฟัน 5 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีฯ