- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ชื่อหรา‘เสี่ยชูวิทย์’หุ้นใหญ่ ภัตตาคารซินกี่ โอนให้ลูกน้องปี 47 คดีจำคุก ซุก ป.ป.ช.
ชื่อหรา‘เสี่ยชูวิทย์’หุ้นใหญ่ ภัตตาคารซินกี่ โอนให้ลูกน้องปี 47 คดีจำคุก ซุก ป.ป.ช.
ดูชัดๆบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ห้างฯ ภัตตาคารซินกี่ ‘เสี่ยชูวิทย์’ หรา! หุ้นส่วนผู้จัดการ ปี 42 โอนให้ลูกน้องปี 47 ชนวนศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน ฐานจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ป.ป.ช. ช่วงนั่ง ส.ส.
สืบเนื่องจาก 21 มิ.ย.2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคชาติไทย จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ลงโทษจำคุก 2 เดือน ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน แต่นายชูวิทย์เคยได้รับโทษจำคุกเกินหกเดือนมาก่อน และพ้นโทษจำคุกมาไม่เกินห้าปี จึงไม่อาจรอการลงโทษจำคุกได้กระทั่งนายชูวิทย์พ้นโทษเมื่อวันที่ 21 ก.ค.2561
ชนวนเหตุแห่งคดีก็คือ ไม่แสดงรายการเงินลงทุนในห้างหุ้นส่วนจำกัด ภัตตาคารซินกี่ จำนวนเงิน 150,000 บาท นายชูวิทย์ชี้แจงว่าโอนหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวให้แก่ นายชุมสิน จิระนคร และนายสุเมธ เตชะผ่องพันธ์ ไปแล้ว ก่อนถึงกำหนดยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน แต่เมื่อคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.เรียก นายชุมสิน จิระนคร และนายสุเมธ เตชะผ่องพันธ์ มาสอบปากคำ ทั้งสองคน ให้ถ้อยว่าเป็นเพียงพนักงานของ สถานบริการไฮคลาส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งดำเนินกิจการโดยห้างหุ้นส่วนจำกัด ภัตตาคารซินกี่ พยานทั้งสองมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัด ภัตตาคารซินกี่ แทนนายชูวิทย์ เพื่อยื่นเรื่องขออนุญาตต่อใบอนุญาตสถานบริการไฮคลาส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ แทนนายชูวิทย์เท่านั้น แต่นายชูวิทย์ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นที่แท้จริงในห้างหุ้นส่วนจำกัด ภัตตาคารซินกี่ (อ่านประกอบ:คำพิพากษาฉบับเต็ม!คดีจำคุก‘ชูวิทย์’ ที่แท้ซุกหุ้น‘ภัตตาคารซินกี่’ ใช้ลูกน้อง‘นอมินี’)
เพื่อให้คลายข้อสงสัยว่า นายชูวิทย์เป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนฯและโอนหุ้นให้ลูกน้องทั้งสองคนตั้งแต่เมื่อใด?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมารายงาน
ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ภัตตาคารซินกี่ เดิมชื่อ หจก.โรงแรมจิวซินกี่ฮ่งไต้ จดทะเบียนจัดตั้งวันที่ 18 ต.ค. 2493 ทุน 150,000 บาท ประกอบธุรกิจโรงแรม ภัตตาคาร ที่ตั้งเลขที่ 1181,1183,1185,1187 ถ.ริมทางรถไฟสายปากน้ำ แขวงคลองตัน เขตพระโขนง กรุงเทพฯ มีผู้ถือหุ้น 4 คนคือ นายโชคชัย กอปทุมกาญจน์ นายพิทักษ์ มัศยานันท์ นายสมชัย ตั้งอาสนะวิทย์ และนายจงรักษ์ กอปทุมกาญจน์
นายชูวิทย์ เข้ามาถือหุ้นเมื่อ 6 ต.ค.2542 จำนวน 100,000 บาทและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ นายจงรักษ์ กอปทุมกาญจน์ 50,000 บาท และย้ายที่ตั้งเลขที่ 55/2 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร มีการเปลี่ยนแปลงอีกอย่างน้อย 4 ครั้ง
13 ม.ค.2543 นายชูวิทย์ ยังคงถือหุ้นใหญ่ 100,000 บาท นายชุมสิน จิระนคร เข้ามาถือหุ้น 50,000 บาท (แทนนายจงรักษ์ กอปทุมกาญจน์)
ปี 2546 นายชูวิทย์ลดสัดส่วนเงินลงทุนเหลือ 15,000 บาท นายชุมสิน 15,000 บาท บริษัท เดวิส เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (ของนายชูวิทย์) ถือ 85,000 บาท (ลดทุนจดทะเบียนเหลือ 115,000 บาท) (ดูเอกสาร)
23 พ.ย.2547 นายชูวิทย์หายไป มีถือหุ้น 2 คนคือ นายสรสรรค์ บุนนาค 105,000 บาท นายชุมสิน จิระนคร 45,000 บาท รวมทุน 150,000 บาท (ดูเอกสาร)
กระทั่ง 16 ก.พ. 2550 มีผู้เป็นหุ้นส่วน 3 คน ได้แก่ นายสรสรรค์ บุญนาค ลงทุนด้วยเงิน 85,000 บาท (56.66%) นายชุมสิน จิระนคร 45,000 บาท (30%) และ นายสุเมธ เตชะผ่องพันธ์ 20,000 บาท (13.33%) นายชุมสิน จิระนคร และ นายสุเมธ เตชะผ่องพันธ์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ กระทั่งจดทะเบียนเลิกห้างเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2556
จากข้อมูลเห็นได้ว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งนี้นายชูวิทย์เป็นเจ้าของในช่วงปี 2543 ต่อมาปี 2547 ก็โอนหุ้นให้ลูกน้องถือแทน
เป็นข้อมูลตามที่ปรากฎในเอกสาร ชนวนลงโทษนายชูวิทย์
อ่านประกอบ:
คำพิพากษาฉบับเต็ม!คดีจำคุก‘ชูวิทย์’ ที่แท้ซุกหุ้น‘ภัตตาคารซินกี่’ ใช้ลูกน้อง‘นอมินี’
พลิกบัญชีทรัพย์สิน‘เสี่ยชูวิทย์’ 3 ปี หาย 500 ล้าน
ป.ป.ช.ฟันเงียบ‘ชูวิทย์’คดีบัญชีทรัพย์สิน ศาลฎีกาฯ นัด 21 มิ.ย.61
สแกนทรัพย์สิน 347 ล. ‘เสี่ยชูวิทย์’ก่อนศาลสั่งจำคุก 2 ปีคดีรื้อบาร์เบียร์