ศาลฎีกาฯคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท 4 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
นายกเทศมนตรี จ.พิษณุโลก 2 รองนายกฯ จ.มหาสารคาม จ.เพชรบูรณ์ รองนายก อบต.จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ป.ป.ช. ศาลฎีกาฯสั่งห้ามเล่นการเมือง 5 ปี จำคุกคนละ 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค.,22 ส.ค. และ 23 ส.ค.2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษานักการเมืองท้องถิ่น 4 ราย มีความผิด คดีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี ปรับเงินคนละ 8,000 บาท จำคุกคนละ 2 เดือน โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 1 ปี
1.น.ส.รัตนดา สิงหรณ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลขามเรียง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 ส.ค. 2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 196/2560-22 ส.ค.2561)
2.นายจงรักษ์ คำสัมฤทธิ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สาคร อ.ท่าแพ จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.สาคร ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 ต.ค.2557 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือนและปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 137/2561-21 ส.ค.2561)
3.นายสุวิทย์ เพชรน่าชม รองนายกเทศมนตรี ต.สว่างวัฒนา อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ต.สว่างวัฒนา ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 ก.ค.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งกับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือนและปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 139/2561-23 ส.ค.2561)
4.นายบุญจิณณ์ ยศปัญญา นายกเทศมนตรี ต.เนินมะปราง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ต.เนินมะปราง ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 24 มิ.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาทรวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 140/2561-23 ส.ค.2561)
อ่านประกอบ:
บรรทัดฐานคำวินิจฉัยศาลฎีกาฯคดี ปธ.อบจ.สมุทรสาคร ไม่แจ้งถือครองหุ้น 2 บริษัท
ศาลฟัน สท.จ.ปทุมฯ-ส.อบจ.นครนายก ยื่นเท็จ-นายก อบต.ชัยนาทซุกที่ดินชื่อ‘ลูกนอกสมรส’
ไม่มาตามนัด!ศาลฎีกาฯจำคุกจริงอีก 2 นักการเมืองท้องถิ่นคนละ 2-4 เดือน ซุกบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯฟัน 9 นักการเมืองท้องถิ่น 7 จว.ไม่ยื่นบัญชีฯ -1 รายยื่นเท็จอยู่นนทบุรี
ซื้อเงินสด-ใส่ชื่อเมียนอกสมรส-ปั้นสัญญากู้เท็จ! พฤติกรรมนายกเทศมนตรี ซุกทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯจำคุกจริง 2 เดือน นายกเทศมนตรี จ.ปทุมฯซุกทรัพย์สินในชื่อ‘เมียนอกสมรส’
ศาลฎีกาฯปรับ 4,000-12,000 บาท รอลงโทษจำคุก 7 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯฟัน ส.อบจ.เชียงใหม่ พังงา-10 นักการเมืองท้องถิ่น 8 จว.ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลจำคุก 2 เดือน นายก อบต.ใน จ.นครปฐม ยื่นบัญชีฯเท็จ ซุกหนี้สินเมีย 1.1 ล.
ศาลฎีกาฯฟัน 2 นักการเมืองท้องถิ่น ยื่นบัญชีฯเท็จ-รองนายก อบจ.สกลฯซุก 5 ครั้ง
ฟันอีก 5 ! ศาลฎีกาฯจำคุกจริง รองนายก อบต. จ.ปัตตานี ไม่ยื่นทรัพย์สิน นับโทษจากคดีเก่า
ชื่อหรา‘เสี่ยชูวิทย์’หุ้นใหญ่ ภัตตาคารซินกี่ โอนให้ลูกน้องปี 47 คดีจำคุก ซุก ป.ป.ช.
คำพิพากษาฉบับเต็ม!คดีจำคุก‘ชูวิทย์’ ที่แท้ซุกหุ้น‘ภัตตาคารซินกี่’ ใช้ลูกน้อง‘นอมินี’
ลอตใหญ่! ศาลฎีกาฯฟัน 17 นักการเมืองท้องถิ่น 14 จังหวัด จงใจไม่ยื่นทรัพย์สิน ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯฟันนักการเมือง จ.นครปฐม เจ้าของธุรกิจใหญ่ ยื่นเท็จ ซุกที่ดิน 36 แปลง
ศาลฎีกาฯฟัน 9 นักการเมืองท้องถิ่น! 8 คนไม่ยื่นบัญชีฯ-ส.อบจ.สุราษฎร์ฯซุกหนี้ ที่ดิน เงินฝาก
ศาลฎีกาฯฟัน ส.อบจ.สมุทรสาคร ซุกหุ้น 2 บ. – 7 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯฟัน 3 รองนายก อบต.-เทศบาล จ.ลพบุรี สกลนคร อุดรฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯฟัน 2 นักการเมืองท้องถิ่น จ.นครปฐม-นนทบุรี ซุกทรัพย์สินนับสิบรายการ
สมาชิกเมืองพัทยาจงใจซุกบ้าน! ศาลฎีกาฯฟัน 5 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีฯ