นายก อบต.จ.ราชบุรี ซุกโฉนด สลากออมสิน 1 ล. - 3 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีฯ

เขียนวันที่

วันเสาร์ ที่ 17 พฤศจิกายน 2561 เวลา 20:30 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | บัญชีทรัพย์สิน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง | จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน | ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง | นักการเมืองท้องถิ่น | จงใจยื่นบัญชีเท็จ

เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาฯฟัน นายก อบต. จ.ราชบุรี ซุกโฉนดที่ดิน สลากออมสินคู่สมรส ขณะที่ ส.อบจ.ตาก -รองนายกเทศมนตรี 2 จังหวัด จงใจไม่ยื่น ประธาน นปช.จ.ประจวบฯโดนด้วย

161118 scoop2

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่าเมื่อวันที่ 30 ส.ค.2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่น 1 ราย ในจ.ราชบุรี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จและ 3 ราย ในจ.ตาก ร้อยเอ็ด และจ.ประจวบคีรีขันธ์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ประธาน นปช. จ.ประจวบคีรีขันธ์โดนด้วย

จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ

1.นางธัญญา สุตัณฑวิบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าหวาย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต. ป่าหวาย เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2551 โดยแถลงนโยบายเพื่อเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2551 และพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2555 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี โดยไม่แสดงรายการโฉนดที่ดินของนายอัคพล สุตัณฑวิบูลย์ คู่สมรส ส่วนกรณีพ้นจากตำแหน่ง ผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงรายการโฉนดที่ดินและสลากออมสินของคู่สมรส ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าวต่อผู้ร้องแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาได้มาชี้แจงต่อผู้ร้องสำหรับกรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่ง คดีขาดอายุความทางอาญาแล้ว

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของนายอัคพล สุตัณฑวิบูลย์ คู่สมรส คือ โฉนดที่ดินเลขที่ 13339 ต.อ่างทอง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ราคาประเมิน 140,400 บาท ส่วนกรณีพ้นจากตำแหน่ง ผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ โฉนดที่ดินเลขที่ 13339 และสลากออมสินของธนาคารออมสินจำนวน 1 ล้านบาท ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริง และเหตุผลของการไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าวต่อผู้ร้องแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงว่า ที่ดินมีชื่อนายอัคพล คู่สมรส เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม ยังไม่มีการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน ปัจจุบันที่ดินถูกเวนคืนเนื่องจากมีเสาไฟฟ้าแรงสูงผ่านที่ดิน ผู้ถูกกล่าวหาเข้าใจว่าที่ดินไม่น่าจะเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสอีกต่อไป ส่วนสลากออมสินยอดเงินไม่มีการเปลี่ยนแปลง คิดว่าใช้เอกสารร่วมกันกับในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตำแหน่งได้ แต่ ณ วันที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน คู่สมรสของผู้ถูกกล่าวหามีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินและเป็นเจ้าของสลากออมสิน คำชี้แจง ของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการง่ายแก่การกล่าวอ้าง ไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟัง ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ พฤติการณ์ดังกล่าวมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นหน้าที่สำคัญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติ อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อให้เกิดการตรวจสอบผู้ใช้อำนาจรัฐ จึงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่ง นายก อบต.ป่าหวาย

พิพากษาว่า นางธัญญา สุตัณฑวิบูลย์ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่ง นายก อบต.ป่าหวาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 20 เม.ย.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสองกับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.146/2561 -30 ส.ค.2561)

161118 s

จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ

1.นายธนนท์ หรือ ธนู ธำรงพนากุล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตาก จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งสมาชิก ส.อบจ. ตาก ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 มิ.ย.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34วรรคสอง ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าผู้คัดค้านได้รับเลือกตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2551 โดยปฏิญาณตนเพื่อเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2551 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2555 ผู้คัดค้านยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีเข้ารับตำแหน่ง แต่ผู้คัดค้านยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่ง พ้นเวลาที่กฎหมายกำหนดและไม่แนบเอกสารให้ถูกต้องครบถ้วน ได้แก่ สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารออมสินสำเนาบัญชีเงินฝากสหกรณ์การเกษตรและหนังสือรับรองภาระหนี้เงินกู้จากธนาคารออมสิน และผู้คัดค้านไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ผู้ร้องมีหนังสือ แจ้งให้ผู้คัดค้านชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่ยื่นเอกสารประกอบให้ถูกต้องครบถ้วนภายในเวลา ที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่ง และการไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี แต่ผู้คัดค้านเพิกเฉย

ผู้คัดค้านไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาครั้งแรก ถือว่าผู้คัดค้านให้การปฏิเสธตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 และศาลออกหมายจับผู้คัดค้านแล้วแต่ไม่สามารถจับผู้คัดค้านได้ภายในสามเดือนนับแต่ออกหมายจับ (คดีหมายเลขแดงที่ อม.189/2560 -31ส.ค.2561)

2.นางละเอียด วงท้าว รองนายกเทศมนตรี ต.หนองฮี อ.หนองฮี จ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ต.หนองฮี ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 30 เม.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหา เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.143/2561 -28 ส.ค.2561)

3.นางสุธิดา ตั้งบูรพาจิตร์ รองนายกเทศมนตรี ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ต.กุยบุรี ครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ต.กุยบุรี ครั้งที่ 2 ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ต.กุยบุรี ครั้งที่ 2 ที่ดำรงอยู่นับแต่วันที่ 26 ก.พ.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2560 มาตรา 17วรรคสอง และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 30 ส.ค.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัยกับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.145/2561 -30 ส.ค.2561)

นางสุธิดา ตั้งบูรพาจิตร์ เป็นประธาน แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

161118 scooppp1