ศาลฎีกาฯจำคุกจริง 2 เดือน นายกเทศมนตรี จ.ปทุมฯซุกทรัพย์สินในชื่อ‘เมียนอกสมรส’
ไม่รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี ยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช. ซุกอาคารพาณิชย์ 2 คูหาในชื่อเมียนอกสมรส-ลูกสาว อำพรางหนีตรวจสอบ ส่วน รองนายก อบต.ใน อ.บางบาล จ.พระนครศรีฯไม่แจ้งเงินฝาก 11 บัญชีเงินกู้ 3 บัญชี ให้พ้นตำแหน่งทันที
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2561 และ วันที่ 28 มิ.ย.2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษานักการเมือง 2 คนคือ นายประเสริฐ ค่ายทอง นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และ นายธนภัทร อุบลรัตน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กบเจา อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) โดยรายแรกให้ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 เดือน ไม่รอการลงโทษ มีรายละเอียดดังนี้
1.นายประเสริฐ ค่ายทอง นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ โดยปกปิดไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ อาคารพาณิชย์ เลขที่ 59/369 และเลขที่ 59/370 ต.คลองสอง รวม 2 หลัง กรณีพ้นจากตำแหน่ง ในการดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ครั้งที่ 1 ซึ่งยื่นเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2555 และกรณีเข้ารับตำแหน่ง นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ครั้งที่ 2 ซึ่งยื่นเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2555 ให้ นางจันทิพย์ ผ่องแผ้ว ภรรยาที่มิได้จดทะเบียนสมรส กับ น.ส.มาริษา ค่ายทอง บุตรของนายประเสริฐ เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน พิพากษาให้นายประเสริฐ ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 17 วรรคสอง และห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 3 ก.ค.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ครั้งที่ 1 จำคุก 2 เดือน ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก.
(คดีหมายเลขแดงที่ อม.116/2561-3 ก.ค.2561)
2.นายธนภัทร อุบลรัตน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กบเจา อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง
ข้อเท็จริงรับฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองนายก อบต.กบเจา ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2552 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2555 ต่อมา ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.กบเจา ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2555 และดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบันตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2557 ลงวันที่ 25 ธ.ค.2557 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 30 เม.ย.2561 ซึ่งเป็นวันที่มีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณา ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.กบเจา ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2556 โดยไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคารของผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 8 บัญชี รายการเงินกู้จากธนาคารจำนวน 3 บัญชี และเงินฝากธนาคารของคู่สมรสจำนวน 3 บัญชี ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่ดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วนดังกล่าว
ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงต่อผู้ร้องว่า บัญชีธนาคารบางรายการไม่มียอดเงินเคลื่อนไหว หรือมียอดเงินเล็กน้อย ประกอบกับเข้าใจว่าเปิดไว้เพื่อการขอกู้เงิน เมื่อกู้เงินไม่ได้และไม่ได้ใช้บัญชีนั้นธนาคารจะปิดบัญชีไปโดยอัตโนมัติ แต่ก็ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหายังมีบัญชีเงินฝากบางรายการที่ยังคงเคลื่อนไหวทางบัญชี ส่วนรายการเงินกู้ จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงว่าไม่ทราบว่าต้องแจ้งรายการหนี้สิน แต่ผู้ถูกกล่าวหา ก็ยอมรับว่าทราบดีถึงการมีอยู่ของทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวในขณะมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สิน คำชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหาจึงไม่น่าเชื่อถือ เป็นการง่ายแก่การกล่าวอ้าง ไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ พฤติการณ์ดังกล่าวมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหา มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นหน้าที่สำคัญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติ อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อให้เกิดการตรวจสอบผู้ใช้อำนาจรัฐ
พิพากษาว่า นายธนภัทร อุบลรัตน์ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายกอ อบต.กบเจา ครั้งที่ 1 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 7 ก.พ.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต. กบเจา ครั้งที่ 1 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง และให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต. กบเจา ครั้งที่ 2 ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสอง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก.
(คดีหมายเลขแดงที่ อม.115/2561-28 มิ.ย.2561)
ที่มา : คำพิพากษาของศาลฎีกาฯ, สำนักข่าวอิศรา รวบรวม