- Home
- Isranews
- ข่าว
- ศาลฎีกาฯฟัน 9 นักการเมืองท้องถิ่น! 8 คนไม่ยื่นบัญชีฯ-ส.อบจ.สุราษฎร์ฯซุกหนี้ ที่ดิน เงินฝาก
ศาลฎีกาฯฟัน 9 นักการเมืองท้องถิ่น! 8 คนไม่ยื่นบัญชีฯ-ส.อบจ.สุราษฎร์ฯซุกหนี้ ที่ดิน เงินฝาก
ลอตล่าสุด ศาลฎีกาฯฟัน ส.อบจ. สุราษฎร์ธานี ยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ซุกหนี้ ที่ดิน เงินฝาก จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี อ้างของเมีย เข้าใจผิดว่าไม่ต้องแสดง อีก 8 คนใน จ.อุทัยธานี อุบลฯ ร้อยเอ็ด ปทุมธานี กาญจนบุรี ชุมพร นครศรีฯ เลย จงใจไม่ยื่น ป.ป.ช.
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ,15 พ.ค. , 17 พ.ค.และ 21 พ.ค. 2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาให้นักการเมือง 1 รายมีความผิดในคดีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำนวน 8 ราย รวม 9 ราย ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี จำคุกคนละ 1-2 เดือน ปรับเงินคนละ 4,000 -8,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 1 ปี รายละเอียดดังนี้
1. นายบรรจง จันทร์ช่วง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) สุราษฎร์ธานี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง ที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่ง ส.อบจ.สุราษฎร์ธานี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ .ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหา ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 16 ธ.ค.2554 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ส.อบจ. สุราษฎร์ธานี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี นายบรรจง ผู้ถูกกล่าวหา ไม่แสดงรายการเงินเบิกเกินบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ของผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 92,611.98 บาท รายการเงินฝากธนาคารของคู่สมรสและบุตรของผู้ถูกกล่าวหารวม 4 บัญชี เป็นเงิน 51,254.49 บาท ที่ดิน 1 แปลง ราคา 2,500,000บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ราคา 500,000 บาท
ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงว่า กรณีไม่แสดงรายการเบิกเงินเกินบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากเป็นการกู้ยืมเงินจากสินเชื่อธนวัฏ ไม่ใช่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ จึงเกิด ความเข้าใจผิดว่าไม่ต้องแสดงในแบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีไม่แสดงรายการเงินฝาก ของคู่สมรสและบุตรของผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 4 บัญชี เนื่องจากเป็นของภรรยาและบุตร กรณีไม่แสดง รายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของคู่สมรสเนื่องจากมีชื่อภรรยาเป็นผู้ครอบครอง จึงเข้าใจผิดว่าไม่ต้อง แสดงในแบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน (คดีหมายเลขแดงที่ อม.74/2561-17 พ.ค.2561)
คดีจงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
1. นางณฐฌา ไม้สนธิ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เขากวางทอง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต. เขากวางทอง และกรณีเข้ารับตำแหน่งในการดำรงตำแหน่งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ) อุทัยธานี ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานีที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน นับแต่วันที่ 15 ก.พ.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัย และห้ามมิให้ ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัย กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.เขากวางทอง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.31/2561-15 พ.ค.2561)
2. นายอภิสิทธิ์ ทองมา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตะบ่าย อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจาก ตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ตะบ่าย ห้ามมิให้ ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.ตะบ่าย กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิด หลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือนและปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำ คุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี
(คดีหมายเลขแดงที่ อม.64/2561-10 พ.ค.2561)
3. นายอุไร ยาทุม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เมืองน้อย อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชี ฯ กรณีพ้นจากตำแหน่ง มาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งนายก อบต.เมืองน้อย ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหา พ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.62/2561-10 พ.ค.2561)
4. นายธวัฒน์ เชื้อเชียง รองนายกเทศมนตรี ต. บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จงใจไม่ยื่นบัญชี ฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ต.บางเตย ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 เม.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม เป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.63/2561-10 พ.ค.2561)
5. นายวิศาล ฝอยทอง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชี ฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต. แก่งเสี้ยน ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือนและปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอ การลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.65/2561-10 พ.ค.2561)
6. นายนิยม เรืององอาจ รองนายกเทศมนตรี ต.บางหมาก อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร จงใจไม่ยื่นบัญชี ฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ต.บางหมาก มาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 18 ต.ค.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2541 มาตรา 119 ๙ จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.73/2561-17 พ.ค.2561)
7. นายกฤษฎา นาคเนตร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต. นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช จงใจไม่ยื่นบัญชี ฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต. นาสาร ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 7 ก.ย.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษ จำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.71/2561-17 พ.ค.2561)
8.นายไสว สุธรรมมา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ภูหอ อ.ภูหลวง จ.เลย จงใจไม่ยื่นบัญชี ฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ภูหอ ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 6 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.75/2561-21 พ.ค.2561)
ทั้งนี้คดีความผิดการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งนักการเมืองท้องถิ่นและนักการเมืองระดับชาติ
อ่านประกอบ:
ศาลฎีกาฯฟัน ส.อบจ.สมุทรสาคร ซุกหุ้น 2 บ. – 7 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯฟัน 3 รองนายก อบต.-เทศบาล จ.ลพบุรี สกลนคร อุดรฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯฟัน 2 นักการเมืองท้องถิ่น จ.นครปฐม-นนทบุรี ซุกทรัพย์สินนับสิบรายการ
สมาชิกเมืองพัทยาจงใจซุกบ้าน! ศาลฎีกาฯฟัน 5 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีฯ