ผอ.สนข.แจงปมเอกสารโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ที่ปรึกษาดูแล

เขียนวันที่

วันอังคาร ที่ 21 มีนาคม 2560 เวลา 17:15 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Tags

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม(สนข) | โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟรางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่

‘ชัยวัตน์' ผอ.สนข. แจง ไม่ปลอมแปลงเอกสาร รถไฟรางคู่ เด่นชัย-เชียงใหม่’ยันข้อมูลล่าสุด เป็นผลสรุปสัมมนาความคิดเห็น ปชช.-ประชุมกลุ่มย่อยผู้ได้รับผลกระทบตามแนวเส้นทางครั้งที่ 3 ย้ำเว็บไซต์โครงการฯ ที่ปรึกษาเป็นผู้จัดทำ ดูแลเอง ไม่ใช่ จนท.

21360 train otp

กรณีวิศวกรโยธาชำนาญการ สังกัดกลุ่มมาตรฐานระบบราง สำนักงานโครงการพัฒนาระบบราง ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุการจ้างที่ปรึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ในความรับผิดชอบของ สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ส่อมีปัญหาในเรื่องการปลอมแปลงเอกสาร เนื่องจากการเปรียบเทียบเอกสารรายงานพบว่า เอกสารของ สนข. ได้ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงความในเอกสารรายงานให้ต่างออกไปจากเอกสารายงานเดิมที่เคยให้ไว้กับ สปน. นานแล้ว (อ่านประกอบ : ร้อง'บิ๊กตู่'สอบพิรุธเอกสารโครงการรถไฟรางคู่ เด่นชัย-เชียงใหม่)

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2560 เว็บไซต์สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (www.otp.go.th) หรือ สนข. ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ชี้แจงกรณีมีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับการตรวจพบความผิดปกติของเอกสารโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงเด่นชัน-เชียงใหม่ ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์โครงการฯ ซึ่งอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 และ 268

โดย นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (ผอ.สนข.) ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า สนข. ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟรางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ครอบคลุมงาน 4 ส่วน คือ

1.งานสำรวจ รวบรวมข้อมูล ผลการศีกษาและการดำเนินงานของโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2.งานวิเคราะห์และศึกษาความเหมาะสมด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ สังคม การเงิน และแนวทางการลงทุนที่เหมาะสม

3.งานออกแบบรายละเอียดและจัดทำเอกสารประกวดราคา และ

4.งานจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งเเวดล้อมและการมีส่วนร่วมของประชาชน

ซึ่งรวมทั้งงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนและการประชาสัมพันธ์ โดยได้กำหนดให้ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548 ซึ่งรวมถึงการลงประกาศและเผยแพร่ข้อมูลการศึกษาที่ สนข. ตรวจสอบแล้ว และข้อมูลจากการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน และการประชุมกลุ่มย่อยลงในระบบเครือข่ายสารสนเทศของสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ สำหรับการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ โครงการได้จัดทำเว็บไซต์ โดเมนเนม www.denchai-chiangmai-doubletrack.com เพื่อเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข้อมูลโครงการฯ และสื่อสารกับประชาชนให้ได้รับทราบข้อมูลด้านต่าง ๆ ของโครงการฯ อย่างเป็นปัจจุบัน

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาดำเนินการศึกษาโครงการ มีการจัดกิจกรรมสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนมาแล้วทั้งสิ้น 3 ครั้ง การประชุมกลุ่มย่อยกับผู้ได้รับผลกระทบตามแนวเส้นทาง รวมทั้งสื้น 3 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งจะมีการนำเสนอข้อมูลที่มีความก้าวหน้าตามผลการศึกษาที่แล้วเสร็จ ซึ่งข้อมูลล่าสุดในระบบเครือข่ายสารสนเทศของสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ เป็นข้อมูลที่มีการนำเสนอและผลสรุปจากการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 และการประชุมกลุ่มย่อยกับผู้ได้รับผลกระทบตามแนวเส้นทาง ครั้งที่ 3 เมื่อช่วงเดือน พ.ค.2559 และมีการนำลงเผยแพร่เมื่อเดือน มิ.ย.2559 แต่สำหรับเว็บไซต์โครงการฯ ซึ่งที่ปรึกษาเป็นผู้จัดทำและดูแลอยู่นั้น เนื่องจากการศึกษายังดำเนินการอยู่ และมีข้อมูลผลการศึกษาเพิ่มเติมเป็นระยะ ๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจให้ผู้ติดตามโครงการในเบื้องต้น ที่ปรึกษาจึงจะมีการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันตลอดเวลา โดยเป็นข้อมูลทั่วไป ณ เวลาหนึ่ง จึงทำให้ข้อมูลบางส่วนของหน้าเว็บไซต์โครงการฯ ในปัจจุบันไม่ตรงกับเอกสารที่เผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงข้อมูล มิใช่การปลอมแปลงข้อมูล และเอกสารที่เผยแพร่ทั้งทางระบบสารสนเทศของสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ และทางเว็บไซต์ของโครงการที่จัดทำขึ้นโดยที่ปรึกษา เป็นเอกสารที่มิได้จัดทำขึ้นโดยเจ้าพนักงาน และมิได้เป็นเอกสารแห่งการก่อสิทธิ ดังนั้น จึงไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 265 และมาตรา 268 แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศรารายงานแล้วว่า ดร.อรุณ ได้ทำหนังสือถึง รมว.คมนาคม และปลัดกระทรวงฯ โดยขอทราบคำชี้แจงกรณีขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้บริหารของ สนข. หลังเวลาล่วงเลยไปมากกว่า 200 วัน นับจากวันที่มีหนังสือแจ้งข่าวให้ทราบอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ค.2559 แต่ทว่า จนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวมีมูลความผิดจริงหรือไม่ อย่างไร

อ้างอิงข้อมูลจาก : http://www.otp.go.th/index.php/post/view?id=1638

อ่านประกอบ :

ร้อง'บิ๊กตู่'สอบพิรุธเอกสารโครงการรถไฟรางคู่ เด่นชัย-เชียงใหม่

ซี 7 ยื่นนายกฯ เอาผิด รมว.คมนาคม-ปลัดฯ นิ่งเฉย ปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่

ไทม์ไลน์ 200 วัน ปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่ ยื่นบิ๊กตู่ ซัดปลัดฯคมนาคม เพิกเฉย?

200 วันยังไม่คืบ!ซี 7 สนข.โวย ปลัด'คมนาคม' ไม่แจงปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่

ซี 7 ยื่นร้องนายกฯโดน ย้ายไม่เป็นธรรม ปมปูดจ้างที่ปรึกษารถไฟฯ 117.6 ล.

ปธ.กก.ตรวจจ้าง'ที่ปรึกษา’ 117.6 ล.ขึ้นซี 9 !ปลัดก.คมนาคมตั้งเอง เหตุว่าง 1 อัตรา

ยุคบุกเบิก บ.ทีมฯ ‘10 วิศวกร-ขรก.’ก่อตั้ง ‘ทนง’ โผล่-อดีตอธิบดีกรมโยธาฯร่วมหุ้น

โยน สนข.แจง! ปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่ 117.6 ล. 2 กก.กำกับฯยันเป็นแค่คนนอ

ยื่น8อธิบดี-หน.ส่วนราชการ แจ้งลูกน้อง สื่อตีข่าว‘จ้างที่ปรึกษา’รถไฟรางคู่117.6ล.

เปิด'ตารางทำงาน' วิศวกร คนเดียว ชื่อโผล่ 2 โครงการ ปม‘จ้างที่ปรึกษา’รถไฟฯ117.6 ล.