ร้อง'บิ๊กตู่'สอบพิรุธเอกสารโครงการรถไฟรางคู่ เด่นชัย-เชียงใหม่

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 16 มีนาคม 2560 เวลา 13:30 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Tags

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม(สนข) | โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟรางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ | สนข.

ไม่ถอย!ขรก.ซี 7 ส่งหนังสือถึงนายกฯ อ้างข้อมูลส่อปลอมแปลงเอกสาร โครงการศึกษา รถไฟรางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ หลังผ่าน 288 วัน ยันมีเอกสารพยานหลักฐานจาก สปน.-สนข. ชง ฟัน รมว.คมนาคม-ปลัดฯ

16360 fakepaper 0

สืบเนื่องจากการจ้างที่ปรึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ในความรับผิดชอบของ สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ที่ ดร.อรุณ อังศุยานนท์ วิศวกรโยธาชำนาญการ สังกัดกลุ่มมาตรฐานระบบราง สำนักงานโครงการพัฒนาระบบราง ได้ทำหนังสือถึง รมว.คมนาคม และปลัดกระทรวงฯ โดยขอทราบคำชี้แจงกรณีขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้บริหารของ สนข. หลังเวลาล่วงเลยไปกว่า 200 วัน นับจากวันที่มีหนังสือแจ้งข่าวให้ทราบอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ค.2559 ทว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ข้อกล่าวหามีมูลความผิดจริงหรือไม่ อย่างไร (อ่านประกอบ : 200 วันยังไม่คืบ!ซี 7 สนข.โวย ปลัด'คมนาคม' ไม่แจงปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่)

ล่าสุด ดร.อรุณ องศุยานนท์ วิศวกรโยธาชำนาญการ สังกัดกลุ่มมาตรฐานระบบราง สำนักงานโครงการพัฒนาระบบราง เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2560 ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุตามหนังสือที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้แจ้งตนทราบผลการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการประพฤติทุจริตโครงการดังกล่าวของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งผลการพิจารณากรณีที่ขอให้มีการดำเนินการทางอาญากับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และปลัดกระทรวงฯ ที่เพิกเฉยต่อกรณีดังกล่าว

ทั้งนี้ แม้ว่าเวลาได้ล่วงผ่านไปนานถึง 288 วันแล้วก็ตาม (นับแต่กระทรวงคมนาคมทราบข่าวการทุจริตข้างต้นเมื่อ 30 พ.ค. 2559) กระทรวงฯ ก็ยังไม่สามารถดำเนินการชี้มูลความผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เลยแม้แต่รายเดียว ในทางกลับกัน สำนักนายกฯ ก็ได้แจ้งให้ทราบแต่เพียงว่า "กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง" โดยไม่เคยแจ้งกำหนดวันดำเนินการแล้วเสร็จ แต่อย่างใด

"ขณะนี้ผมได้เอกสารพยานหลักฐาน (พร้อมคำรับรองสำเนาถูกต้อง) โครงการดังกล่าวจาก 2 หน่วยงานราชการแล้ว คือ สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ (สปน.) และ สนข. โดยจากการเปรียบเทียบเอกสารรายงานที่ได้รับแบบรายการต่อรายการ พบว่าการที่เอกสารของ สนข. ได้ถูกแก้ไข เปลี่ยนแปลงความในเอกสารรายงานให้ต่างออกไปจากเอกสารายงานเดิมที่ สนข. เคยให้ไว้กับ สปน. นานแล้วนั้น ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 และ 268 หรือไม่" ดร.อรุณ กล่าวและว่า ความในเอกสารรายงานของทั้ง 2 หน่วยราชการมีความแตกต่างกันสรุปได้เป็น 4 กรณี ดังนี้

1.ภาพที่ปรากฏอยู่ในเอกสารรายงานของ สปน. ที่มีรูป บุคคลนอกสัญญาจ้าง เข้าร่วมเป็นองค์ประกอบของภาพอยู่ด้วย ภาพนั้นได้ถูกลบออกไปจากการปรากฏอยู่ในเอกสารรายงานของ สนข. และได้ถูกแทนที่ด้วยภาพอื่นที่ไม่มีรูปบุคคลดังกล้าว เข้าร่วมเป็นองค์ประกอบของภาพด้วย

2.ภาพที่ปรากฏอยู่ในเอกสารรายงานของ สปน. ที่มีรูปบุคคลนอกสัญญาจ้างรายอื่นเข้าร่วมเป็นองค์ประกอบของภาพอยู่ด้วย ภาพนั้นได้ถูกลบออกไปจากเอกสารรายงานของ สนข. และได้ถูกแทนที่ด้วยภาพอื่นที่ไม่มีรูปบุคคลนอกสัญญาจ้างรายอื่นเข้าร่วมเป็นองค์ประกอบของภาพอยู่ด้วย

3.ภาพที่ปรากฏอยู่ในเอกสารรายงานของ สปน. ที่มีรูปบุคคลนอกสัญญาจ้างรายอื่นหรือที่คาดว่าเป็นรูปบุคคลนอกสัญญาจ้างรายอื่น เข้าร่วมเป็นองค์ประกอบของภาพอยู่ด้วย และภาพนั้นได้ถูกลบออกไปจากการปรากฏในเอกสารรายงานของ สนข. โดยไม่ได้ถูกแทนที่ด้วยภาพอื่นที่ไม่มีรูปบุคคลนอกสัญญาจ้างรายอื่นเข้าร่วมเป็นองค์ประกอบของภาพอยู่ด้วยเฉกเช่นกรณีที่ 1 และ 2

4.ภาพจากเดิมที่ไม่เคยปรากฏอยู่ในเอกสารายงานของ สปน. มาก่อนหน้า ได้ถูกผนวกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารรายงานของ สนข.

ทั้งนี้ ดร.อรุณ ยังระบุด้วยว่า ได้แจ้งการกระทำดังกล่าวนี้ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแล้ว ตั้งเเต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่นับจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เคยได้รับการแจ้งตอบกลับใดจากรัฐมนตรีฯ ว่าได้สั่งให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องใดไปแล้วบ้าง หรือไม่ ประการใด และขอให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พิจารณาสั่งการให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการชี้มูลวามผิดผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยพลัน ตลอดจนขอให้เอาผิดทางอาญามาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญากับ รมว.คมนาคม โดยเร่งด่วนต่อไปด้วย (ดูเอกสารประกอบ)

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศรารายงานแล้วว่า เมื่อ 14 ธ.ค. 2559 นายไพโรจน์ งามจรัส ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ได้มีหนังสือถึง ดร.อรุณ โดยระบุว่า กรณีร้องเรียนดังกล่าว กองการเจ้าหน้าที่ได้รับมอบหมายจากปลัดฯ คมนาคม ให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นขั้นตอนก่อนการดำเนินการทางวินัย เพื่อตรวจสอบข้ออ้างหรือข้อกล่าวหา ก่อนจะพิจารณาเสนอว่าสมควรที่จะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไปหรือไม่ อย่างไร ซึ่งเป็นกระบวนการที่ถูกต้องเป็นไปตามแนวทางของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 หมวด 7 การดำเนินการทางวินัยและเป็นไปตามกฎ ก.พ. ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น หากผลพิจารณาแล้วเสร็จเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง โดย สำนักนายกฯ ได้มีหนังสือแจ้งกระทรวงฯ ให้เป็นผู้แจ้งผลการพิจารณาไปยังสำนักนายกฯ ดังนั้น หากผลพิจารณาแล้วเสร็จเป็นประการใด กระทรวงฯ จะดำเนินการแจ้งไปยังสำนักนายกฯ ตามหน้าที่ต่อไป

16360 fakepaper 1