ข่ายผิด 45 คน! ผลสอบลับชุดรองผู้ว่าการฯ ปมขายที่ดิน ‘ไม่มีใครตอบได้ไฉนกว้าง 22 ม.’
เปิดผลสอบลับปมขายที่ดินการเคหะฯ 28.8 ล.เอื้อเอกชน กก.ชุด‘บัญชา บัญชาดิฐ’รองผู้ว่าการฯ ชัดอยู่ในข่ายผิดกราวรูด 45 คน ระดับ 7 ผอ. ผู้ช่วยฯ 6 รองฯ 4 ยันผู้ว่าฯ ‘ไม่มีใครตอบได้ขายที่เพื่อทำทางเข้า-ออก ไฉนหน้ากว้าง 22 เมตร’ เกินปกติ 4.89 เท่า ชงวินัย ค่าเสียหายทางละเมิด ส่ง ป.ป.ช.
กรณีการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ตัดขายที่ดินบางส่วนของโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนหารายได้ร่มเกล้า ระยะที่ 10 (พาร์ควิลล์ร่มเกล้า) เนื้อที่ 0-2-83.4 ไร่ (22 x 47 เมตร) ให้แก่ชาวบ้าน 8 รายในราคารวมทั้งสิ้น 28,897,000 บาท อ้างว่าเป็นทางเข้าออกที่ดินตาบอด 10 ไร่ และชาวบ้านโอนกรรมสิทธิ์ต่อให้บริษัทในเครือแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ทันที ทำให้ถูกร้องเรียนว่าเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนเจ้าของหมู่บ้านจัดสรร และอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอย่างน้อย 6 ชุด นับแต่ปี 2559 ผ่านมาเกือบ 3 ปี จนถึงขณะนี้กระทรวง พม.ยังไม่สามารถเอาผิดใครได้
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานไปแล้ว รายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจิงที่มี น.ส.อุบลวรรณ สืบยุบล รองผู้ว่าการฯ (ต่อมา รักษาการ ผู้ว่าการฯ) เป็นประธานกรรมการ ,นายจิระ อุณหปาณี ,นายชมชนม์ เธียรกนิษฐ์ กรรมการ และ นายธีรพงศ์ ดำรงศักดิ์ศิริ เป็นกรรมการและเลขานุการ ส่งให้นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการฯ คนปัจจุบันเมื่อเดือน มิ.ย.2560 สรุปว่า เห็นควรให้ยุติเรือง โดยอ้างว่า ขั้นตอนกระบวนการโดยรวมทั้งหมดที่เกี่ยวกับการขายที่ดิน แปลงนี้เป็นขั้นตอนกระบวนการดําเนินงานตามภาระงานภายใต้กรอบอํานาจหน้าที่ เป็นการซื้อขายปกติที่ให้อํานาจการเคหะฯสามารถกระทําได้ภายในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของการเคหะฯโดยคํานึงถึง ผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุดที่การเคหะฯพึงได้รับ การที่ผู้ซื้อได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ต่อไปให้กับบริษัทแอตแลนติก เรียลเอสเตท จำกัด จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดหมายและอยู่นอกเหนือที่การเคหะฯจึงจะรับรู้หรือทราบได้ว่าผู้ซื้อแสดงเจตนาเพื่อให้ได้มาเพราะใช้อุบายหลอกลวงกล่าวข้อความเท็จหรือแกล้งปกปิดความจริงเอาไว้เพื่อให้การเคหะฯหลงเชื่อแสดงเจตนาทํานิติกรรม
คราวนี้มาดูรายงานผลการสอบสวนของคณะกรรมการอีกชุด
ชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งตามคำสั่งลับที่ ก.006/2560 ลงวันที่ 20 เม.ย.2566 ประกอบด้วย นายบัญชา บัญชาดิฐ ผู้ช่วยผู้ว่าการ (ต่อมาเป็นรองผู้ว่าการฯ) เป็นประธานกรรมการ นางฐิตาภรณ์ ลาภเกียรติเสรี ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการเงินและการลงทุน กรรมการ นางชฎารัตน์ ไชยเสน ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย กรรมการ และนายชมชนม์ เธียรกนิษฐ์ นิติกร 7 กองนิติการฝ่ายกฎหมาย กรรมการและเลขานุการ (คนเดียวกับ กรรมการ ชุด น.ส.อุบลวรรณ สืบยุบล)
คณะกรรมการฯชุดนี้ได้รายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ผู้ว่าการฯ (นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการฯ) เมื่อเดือน ส.ค.2560 โดยสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง 31 คน ตั้งแต่สถานปนิก พนักงานระดับ 7 ผู้อำนวยการ ผู้ช่วยผู้ว่าการฯ รองผู้ว่าการฯ
ตั้งประเด็นสอบสวนไว้ 2 ประเด็นคือ 1.การขายที่ดินบางส่วนของโครงการเคหะชุมชนฯ เป็นเหตุให้ต้องปรับลดหน่วยก่อสร้างโดยไม่ขออนุมัติ 2.การพิจารณาขายที่ดินเป็นไปโดยความรอบคอบถูกต้องหรือไม่
@ไม่มีใครตอบได้ เหตุใดขายหน้ากว้าง 22 เมตร?
ผลการสอบสวนระบุว่า
“จากการแสวงหาข้อเท็จจริงถึงสภาพปัจจุบันของพื้นที่ที่นำไปขายเนื้อที่ 260 ตารางวา (22x47 เมตร) ได้ความว่า
1.ไม่มีผู้ใดตอบหรือสามารถให้เหตุผลได้ว่า เพราะเหตุใดจึงให้ทางกว้างขนาด 22 เมตร
2.ที่ดินที่ซื้อขายได้มีการโอนกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือไปในวันเดียวกันซึ่งเรื่องนี้ฝ่ายตรวจสอบภายในได้รายงานให้คณะกรรมการการเคหะแห่งชาติทราบแล้ว
3.ได้มีการถือกรรมสิทธิ์เป็นสัดส่วนร่วม และแบ่งเป็นทางเข้า-ออก ให้ 8 ราย (ชาวบ้าน) ไปใช้ทางร่วมกันความกว้าง 4.5 เมตร ผู้อาศัยบางรายเป็นผู้มีอาชีพรับจ้างขนส่ง รถขนส่งเข้า-ออกได้
4.ส่วนที่เหลือถูกแบ่งออกเป็น 3 โฉนด (3 เส้น) เป็นแนวตั้งป้ายโครงการ 1 แปลง แบ่งเป็นตะเข็บด้านริม 1 แปลง ส่วนแปลงกลางทำเป็นทางเข้า-ออก สำหรับเข้าไปด้านฝั่งตรงข้ามคลองำอ้ายโส 1 เส้นทางทำสะพานข้ามไปกว้างประมาณ 12 เมตร
5.พื้นที่ดังกล่าวจดทะเบียนในนามบริษัท แอตแลนติก เรียลเอสเตท
6.มีการจดภาระจำยอมเป็นทางผ่านให้ที่ดินด้านฝั่งข้ามคลองลำอ้ายโส 51 แปลง เนื้อที่ 206 ไร่ และอาจมีเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต เป็นการซื้อเพิ่มจากชาวบ้าน
7.ปัจจุบันมีการสร้างบ้านเดี่ยวบริเวณหน้าสโมสร 304 หลัง (ด้านขวา)
8.เมื่อเข้าไปทางด้านซ้ายกำลังมีการก่อสร้างทาวน์โฮม เฟสแรกประมาณ 300 หน่วย
9.ด้านซ้ายมีผ้าปิดบังไว้ กำลังปรับพื้นที่อีกประมาณ 80 ไร่
10.ตามประมาณการของฝ่ายบริหารสินทรัพย์ คิดเป็นบ้าน 6 หลัง/ไร่ จะได้ประมาณ 1,236 หลัง หากคิดค่าผ่านทางจะได้ 30,000 x 1,236 ได้เท่ากับ 37,080,000 บาท โดยที่กรรมสิทธิ์ในที่ดินไม่เสียไป และอาจได้มากขึ้นตามสถานการณ์ที่ขยายเพิ่ม"
@ ขายเกินความจำเป็นใช้เป็นทางเข้า-ออกถึง 4.89 เท่า
คณะกรรมการฯสรุปว่า ในชั้นการสอบข้อเท็จจริงนี้ ในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการ ปรับปรุงโครงการด้านกายภาพ (คณะที่หนึ่ง) ผู้เข้าประชุมแทนไม่มีการขอข้อมูลจากผู้สั่งการให้เข้าประชุมแทน รวมถึงไม่ขอข้อมูลเพิ่มเติมจากกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการพิจารณาการปรับปรุง โครงการด้านกายภาพ (คณะที่หนึ่ง) เพื่อนํามาประกอบการพิจารณาในส่วนของตน อันทําให้การพิจารณา ในเรื่องนั้นไม่เป็นไปด้วยความรอบคอบ ขาดความเข้าใจ พิจารณาจากเอกสารโดยไม่รู้ว่าเอกสารนั้น ถูกต้องสมบูรณ์ครบถ้วนหรือไม่
ในส่วนของกรรมการที่มอบหมายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าประชุมแทนตน ไม่นําส่งเอกสารข้อมูลเอกสารประกอบการประชุมให้กับผู้ที่ได้รับสั่งการให้เข้าประชุมแทน ไม่ติดตามหรือทวงถามผลการประชุมซึ่งรวมถึงไม่สั่งการให้รายงานผลการประชุม
ในส่วนของการประชุมไม่แจก เอกสารที่จําเป็นแก่ผู้เข้าประชุม ทําให้ผู้เข้าประชุมขาดข้อมูลในการพิจารณา ส่วนการขายที่ดินโฉนด เลขที่ 48160 ติดแนวรั้วสถานีบริการน้ำมันบางจาก เนื้อที่ประมาณ 0-2-83.40 ไร่ (22X47 เมตร) และเป็นบางส่วนของที่ดินโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนหารายได้ร่มเกล้า ระยะที่ 10 (พาร์ควิลล์ ร่มเกล้า) เพื่อเป็นทาง เข้า-ออก เป็นการขายโดยขัดมติที่ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ การเคหะแห่งชาติ อีกทั้งยังได้ผ่านความเห็นชอบและอนุมัติให้จัดทําโครงการจากคณะรักษาความสงบ แห่งชาติในขณะนั้นแล้ว การขายที่ดินขนาด 22x47 มตร (เนื้อที่ 0-2-83.40 ไร่) ให้กับผู้ซื้อ จํานวน 8 ราย ( 8 โฉนด) เพื่อเป็นทางเข้า-ออกที่ดินตาบอด เนื้อที่ 10-3-50 ไร่ ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ขนาดทาง โดยกว้างเท่าที่ควรจะเป็นถึง 4.89 เท่า ทั้งที่ พื้นที่ 10-3-50 ไร่ เหมาะสมใช้จริงเพียง 4.5 เมตร เห็นจากโฉนดที่ถูกโอนกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือ แยกเป็นทางเข้า-ออก ให้กับเจ้าของที่ดิน 8 ราย พื้นที่ 10-3-50 ไร่ กว้างเพียง 4.5 เมตร เท่านั้น ส่วนที่เหลือถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ตามแนวขนานกับ ทางเข้า-ออกทั้งหมดและใช้ประโยชน์ตามเจตนาต่างกันไป เจตนาของผู้ซื้อมิใช่มีวัตถุประสงค์แต่เพียงเพื่อเป็นทางเข้า-ออก แต่มีวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือ คือ เพื่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร
@พฤติกรรมไม่ปกติ-ขัดมติครม.-เอื้อเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่
และจากการแสวงหาข้อเท็จจริงแม้ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นจะได้มาภายหลังก็ตาม แต่การเคหะแห่งชาติประกอบด้วย ผู้ปฏิบัติงานด้านนี้ และมีฝ่ายจัดประโยชน์ซึ่งสามารถรู้ได้ วิเคราะห์ได้ ประกอบกับพฤติกรรมที่ไม่ปกติ ของผู้ซื้อผู้รับมอบอํานาจมาที่แจ้งแล้วว่าจะทําโครงการซึ่งอยู่ฝั่งข้ามคลองไป มีการเสนอเรื่องเข้ามา เป็นลําดับต่อเนื่องตลอดมา ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องทราบว่าขายไม่ได้ หรือหากจําเป็นต้องขายจะต้องคิดเป็น ค่าผ่านทางจะได้ประโยชน์มากกว่า และไม่เสียกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ประกอบกับการใช้ข้อมูลในการพิจารณา บกพร่อง ใช้เอกสารที่ไม่ถูกต้องสมบูรณ์ ใช้พิจารณาต่อเนื่องโดยไม่ตรวจสอบ การเปลี่ยนจากผู้รับมอบอํานาจจากเจ้าของที่ดินมาให้ซื้อ เป็นการให้เจ้าของที่ดินมาซื้อเอง ไม่มีความแตกต่างกันและเกินคําขอ อันเป็นการเอื้อให้มีการขายเกิดขึ้น การขายที่ดินแปลงนี้มีลําดับความเป็นมาหลายขั้นตอนปฏิบัติต่อเนื่องเชื่อมโยงสอดคล้องกัน ไม่ว่าจะเป็นการเสนอขอซื้อที่ดินบริเวณแนวสันเขื่อน การเสนอขอซื้อที่ดิน บริเวณข้างสถานีบริการน้ำมันบางจาก การยื่นข้อเสนอขอซื้อเข้ามาของนายธรรมนาถ โยธาบริบาล และ การขอยกพื้นที่บางส่วนให้เป็นสาธารณะประโยชน์จนเกิดการรวมโฉนดที่ดิน ไม่อ้างอิงถึงระเบียบและ ยังขัดมติคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ มติคณะรัฐมนตรี อีกทั้งต้องทราบแล้วว่ามีการทําโครงการและ มีการขายอาคารล่วงหน้าแล้ว แต่ยังคงฝืนขายอ้างว่าขายให้กับเจ้าของที่ดิน 8 ราย และยังปรากฏตาม มติที่ประชุมหลายครั้งว่าเป็นการซื้อเพื่อทําทางผ่านให้ที่ดินแปลงใหญ่ด้านหลังฝั่งตรงข้ามอันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้อื่น
@การเคหะฯภาพลักษณ์พัง-เสียกรรมสิทธิ์ที่ดิน
เพื่อพิจารณาในแง่ของความเสียหาย ภาพลักษณ์ขององค์กรในฐานะหน่วยงานที่มี บทบาทหน้าที่สําคัญในการพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่กลับไม่สามารถจัดทําโครงการได้ตามเป้าหมายมาตั้งแต่ ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน ทั้งที่โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนหารายได้ร่มเกล้า ระยะที่ 10 (พาร์ควิลล์ร่มเกล้า) มีผู้สนใจจองเป็นจํานวนมาก และค่าเสียหายจากการขาดประโยชน์ในการเรียกเก็บ ค่าผ่านทางทั้งปัจจุบันและที่จะมีต่อไปในอนาคต รวมทั้งการเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดิน โดยการเคหะแห่งชาติ ไม่ได้รับประโยชน์เพิ่ม ได้รับค่าตอบแทนเพียงครั้งเดียว
ผลการสอบสวนของคณะกรรมการชุดนี้ระบุว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เอื้อประโยชน์ให้กับผู้อื่นเป็นเหตุให้การเคหะฯได้รับความเสียหาย เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดวินัยและอาญา รวม 45 คน แบ่งเป็น
1.รับราชการ 31 คน (ขณะนั้น) ประกอบด้วย พนักงานจัดการทรัพย์สิน 7, เศรษฐกร 7 ,หัวหน้าสำนักงานเคหะชุมชนกบินทร์บุรี 7, หัวหน้าสำนักงานเคหะฯร่มเกล้า 1 ,พนักงานวิเคราะห์นโยบายและแผน 8 ,วิศวกร 8 กองบริหารงานโครงการ,พนักงานบริหารงานออกแบบก่อสร้าง 8 ,ผู้ตรวจการ 8 ,ผู้อำนวยการกองบริหารโครงการ1 ,ผู้อำนวยการกองบริหารชุมชน,ผู้อำนวยการกองรังวัด,ผู้อำนวนการกองพัฒนาชุมชน,ผู้อำนวยการกองบริหารสินเชื่อ,พนักงานจัดการทรัพยสิน 9 ,วิศวกร 9,รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสินทรัพย์,รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานชุมชน,รองผู้อำนวยการสำนักบริหารชุมชนดินแดง ,ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและแผน,ผู้อำนวยการฝ่ายพัสดุฯ ผู้อำนวยการฝ่ายปรับปรุงฯ ,ระดับผู้ช่วยผู้ว่าการฯ 5 คน และระดับรองผู้ว่าการฯ 2 คน
2.เกษียณอายุ 14 คน ได้แก่ สถาปนิก 8 (เสียชีวิตแล้ว) ระดับผู้อำนวยการ 9 คน ระดับผู้ช่วยผู้ว่าการฯ 1 คน ระดับรองผู้ว่าการฯ 2 คน และผู้ว่าการฯ
คณะกรรมการชุดนี้มีความเห็นสรุปว่า
1.แต่งตั้งกรรมการสอบสวนและพิจารณาโทษผู้กระทำผิดวินัย บุคคล 31 คน และพิจารณาความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ทั้ง 44 คน (ยกเว้นผู้เสียชีวิต 1 ราย)
2.ส่งสำนวนการสอบสวนข้อเท็จจริงให้แก่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจาก พฤติการณ์ของผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่หรือเกษียณอายุราชการแล้ว มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงเจตนาเอื้อประโยชน์ให้กับผู้อื่น เป็นเหตุให้การเคหะฯได้รับความเสียหาย เข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (ดูเอกสาร)
แหล่งข่าวจากอดีตผู้บริหารการเคหะฯรายหนึ่งเปิดเผยว่า ไม่มีระเบียบข้อไหนของการเคหะฯที่จะขายที่ดินให้ที่ดินตาบอดทำเป็นถนนเข้า-ออก การเคหะฯ เมื่อทำโครงการเสร็จ ยังต้องทำตะเข็บที่ดินรอบโครงการโดยตลอดไว้ 20 ซ.ม.เพื่อป้องกันการซื้อบ้านแปลงริมแล้วเปิดเป็นทางเข้าออกที่ดินตาบอดหลังโครงการ
“กรณีนี้ต้องถามว่ามีความจำเป็นอะไรที่ต้องขายเพื่อเงิน 28 ล้าน และการจะใช้ทางผ่านเคหะฯมีระเบียบรองรับอยู่แล้ว ไม่ต้องขายให้คนภายนอกมาใช้ถนนเป็นทางผ่าน สร้างความแออัดและเดือดร้อนแก่คนในชุมชนต่อไปจะไม่สงบเหมือนเดิม ค่าถนนก็เงินเคหะฯ การขายก็ไม่ได้ขออนุมัติลดหน่วยก่อน จำไม่ได้ว่าการตั้งคณะกรรมการขาย และ การประเมินถูกต้องหรือไม่ เงินค่าที่ดินก็ของ แลนด์ แอนด์ เฮาส์”
ติดตามกันต่อไป
อ่านประกอบ :
ผลสอบชุด‘อุบลวรรณ’: ผู้ซื้อที่ดินการเคหะฯ นำขายต่อ บ.อสังหาฯ‘เป็นสิทธิ-ให้ยุติเรื่อง’
เปิดผลสอบดีเอสไอ ที่ดินการเคหะฯ 28.8 ล.'นายหน้า' 3 คนจัดการ ชาวบ้านซื้อแทนกลุ่มทุน
แคชเชียร์เช็ค-ใบเสร็จรับเงิน 5.8 ล. ค่ามัดจำซื้อที่ดิน บ.แลนด์ฯสั่งจ่ายการเคหะฯ
ดีเอสไอส่ง ป.ป.ช.สอบปมขายที่ดินการเคหะฯ 28.8 ล.-พบออกเช็ควันเดียวกว่า 100 ล.
ที่แท้ นายหน้า-เอกชน ทำข้อตกลง ก่อนซื้อที่ดินการเคหะฯ 28.8 ล.?
มัดการเคหะฯขายที่ดินพาร์ควิลล์ร่มเกล้า! สัญญาระบุชัด‘ห้ามโอนสิทธิเด็ดขาด’
ข้อมูลซื้อขายที่ดิน-เส้นทางจ่ายเงิน 28.8 ล. พาร์ควิลล์ร่มเกล้า ‘การเคหะฯ-ชาวบ้าน-บ.แลนด์ฯ’
เปิดเอกสารจดทะเบียนซื้อขายที่ดิน-เส้นทางจ่ายเงิน บ.แลนด์ฯ - การเคหะฯ 28.8 ล.
นายหน้ายอมรับ ค่าซื้อที่ดินการเคหะฯ - ชาวบ้าน 28.8 ล. เงินจาก บ.แลนด์ฯ
ค่าซื้อที่ดินการเคหะฯ 23 ล.ชำระด้วยเช็คเงินสด ธ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
บ.แอตแลนติกฯ ผู้ซื้อที่ดินการเคหะฯจากชาวบ้าน 28.8 ล. เป็นใคร?
ดูชัดๆ หลังโฉนดที่ดินการเคหะฯพาร์ควิลล์ ชาวบ้านซื้อปุ๊บ ขาย บ.อสังหาใหญ่ทันที
ปริศนา! ลายเซ็น ชาวบ้านหรา 8 รายในสัญญาซื้อขายที่ดินการเคหะฯ 28.8 ล.
ตามขอสัมภาษณ์ 'นายหน้า' ชาวบ้านอ้างติดต่อซื้อที่ดินการเคหะฯ ม.พาร์ควิลล์ฯ
มีแต่ขายให้นายหน้า บ.เอกชน! เปิดคำชี้แจงชาวบ้านยันไม่เคยซื้อที่ดินการเคหะฯ ม.พาร์ควิลล์ฯ
'อนันตพร' ยันผลสอบการเคหะฯตัดขายที่ดินให้เอกชนถึงมือแล้ว-รอฝ่ายกม.ตีความอำนาจเพิ่ม
ไทม์ไลน์ ปมขายที่ดินการเคหะฯร่มเกล้า 28.8 ล. ‘ผู้รับมอบอำนาจ’ยื่นข้อเสนอ 2 ครั้ง
เปิดสัญญาขายที่ดิน การเคหะฯ-ชาวบ้าน 8 ราย 28.8 ล. ชนวนสอบเอื้อเอกชน?
ตามไปดูที่ดินแปลงปัญหา ม.พาร์ควิลล์ฯ การเคหะฯตัดขายให้เอกชน-อยู่ริมหมู่บ้านดัง
เผยโฉมคำสั่งผู้ว่า กคช. ตั้ง กก.สอบ 3 ชุดปมขายที่ดินเอื้อเอกชน 26 คน เหลือผิด 3 คน
เปิดหนังสือ พล.ต.อ.อดุลย์ จี้ปธ.บอร์ด 2 รอบ บิ๊กการเคหะฯขายที่ดินส่อไม่สุจริต
ผู้ว่าฯ กคช.แจงปมขายที่ดินเอื้อเอกชน ผิด 3 คน ส่ง พล.อ.อนันตพร แล้ว
ร้องยื้อฟันบิ๊กการเคหะฯ-พวก 45 คน ปมขายที่ดินเอื้อเอกชนราคาถูก-ไม่ผ่าน ครม