ผู้ว่าฯ กคช.แจงปมขายที่ดินเอื้อเอกชน ผิด 3 คน ส่ง พล.อ.อนันตพร แล้ว
ผู้ว่าการ การเคหะฯ ปฏิเสธเปิดผลสอบปมตัดขายที่ดินโครงการเอื้อ ปย. เอกชน ย่าน ถ.ร่มเกล้า เผยทำผิด 3 คน เกษียณอายุหมดแล้ว จากเดิม 45 คน ยันขายถูกต้อง ไม่เสียหาย มี กก. 3 ชุด เร่งรัดต่อเนื่อง ล่าสุดส่ง รมว.พม. อยู่ระหว่างพิจารณารับทราบ รับ ป.ป.ช.ขอข้อมูลเชิงลึก
ความคืบหน้ากรณีการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ถูกร้องเรียนว่าตั้งคณะกรมการสอบสวนและดำเนินการเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขายที่ดินในโครงการที่การเคหะฯ มีแผนดำเนินโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนหารายได้ร่วมเกล้า ระยะที่ 10 (พาร์ควิลล์ร่มเกล้า) ให้เอกชนเพื่อใช้เป็นทางเข้าออกหมู่บ้านจัดสรรของนักธุรกิจชื่อดังในราคาต่ำกว่าปกติและไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยปัจจุบันยังไม่ดำเนินการลงโทษผู้ใด
(อ่านประกอบ:ร้องยื้อฟันบิ๊กการเคหะฯ-พวก 45 คน ปมขายที่ดินเอื้อเอกชนราคาถูก-ไม่ผ่าน ครม.)
ล่าสุด วันที่ 4 ก.ย. 2561 นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ยืนยันที่ผ่านมาได้เร่งรัดการดำเนินการลงโทษผู้มีส่วนกระทำความผิดมาโดยตลอด ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเป็นผู้ว่าการการเคหะฯ เมื่อปลายปี 2559 ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด 3 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 มีนายบัญชา บัญชาดิฐ เป็นประธานคณะกรรมการ ชุดที่ 2 มีนายบัญชา บัญชาดิฐ เป็นประธานคณะกรรมการ และชุดที่ 3 มีน.ส.อุษณี กังวารจิตต์ เป็นประธานคณะกรรมการ
“ช่วงต้นปี 2560 ผมได้รับรายงานให้ทราบผลสอบของชุดที่ 1 ว่า คณะกรรมการที่ดูแลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินมีความผิด แต่ภายหลังคณะกรรมการชุดดังกล่าวร้องเรียนว่า การสอบข้อเท็จจริงนั้นไม่ครบทุกประเด็น ดังนั้น ตนเองจึงเห็นว่า เพื่อความยุติธรรม จึงพักไว้ก่อน แล้วแต่งตั้งคณะกรรมการที่มีนายบัญชา บัญชาดิฐ เป็นประธานคณะกรรมการอีกครั้ง เพื่อสอบเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทุกประเด็น ใช้ระยะเวลาหลายเดือน จนผลสอบออกมาว่า มีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ถูกชี้มูลว่ามีความผิดทั้งหมด 45 คน”
อย่างไรก็ตาม จากผลการสอบข้อเท็จจริงของชุดที่ 2 นายธัชพล ระบุรู้สึกยังไม่ถูกต้อง เพราะตามวิจารณญาณควรจะยืนยันให้ชัดเจนว่าใครมีความผิด ทำให้ต้องกลับมาตรวจสอบข้อมูลใหม่ แล้วพบว่า บางคนใน 45 คน ที่ถูกชี้มูลว่ามีความผิดในคราวแรกไม่รู้เรื่อง เพราะเข้าประชุมเพียงครั้งเดียว หรือบางคนมีชื่อ แต่ไม่ได้เข้าประชุม กลับมีความผิดไปด้วย จึงแต่งตั้งชุดที่ 3 ขึ้นมา ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ในขณะนั้น เสนอให้แต่งตั้งคนนอก ซึ่งเป็นคนในกระทรวง พม.เป็นประธานคณะกรรมการฯ
“ปัจจุบันผลการสอบออกมาแล้ว มีผู้กระทำความผิด 3 คน ซึ่งทุกคนเกษียณแล้ว” นายธัชพล กล่าว และระบุถึงขั้นตอนได้เสนอผลสอบไปยัง พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณารับทราบ
เมื่อสอบถามถึงความผิดที่ตรวจสอบพบ ผู้ว่าการการเคหะฯ ปฏิเสธที่จะระบุถึงรายละเอียด แต่ระบุเพียงว่า การขายที่ดินในโครงการฯ ไม่ผิด เพราะปฏิบัติถูกต้องตามขั้นตอน และราคาที่ขายไม่ก่อให้การเคหะฯ เสียหาย ส่วนจะสอบลึกกว่านั้นไม่ใช่หน้าที่เรา แต่เป็นเรื่องของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะดูว่ามีเจตนาทุจริตหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันเรื่องยังอยู่ที่ ป.ป.ช. และกำลังขอข้อมูลจากการเคหะฯ
นายธัชพล ยังกล่าวถึงประเด็นการขายที่ดินไม่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. กรณีส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของโครงการ หน่วยก่อสร้างถูกปรับลดลงไป 5 หน่วย ว่าฝ่ายหนึ่งตีความลักษณะดังกล่าวควรผ่านความเห็นชอบจาก ครม. อีกครั้ง แต่อีกฝ่ายกลับตีความว่า การปรับลดลงดังกล่าวไม่ใช่สาระสำคัญ ประกอบกับกฎหมายเวลานั้นยังไม่ได้ระบุว่า ต้องส่งเรื่องกลับไปยังครม.เพื่อเห็นชอบ
"ส่วนเรื่องมีมูลเอื้อประโยชน์ให้เอกชนหรือไม่ ต้องไปสอบถามกับ ป.ป.ช. เพราะการเคหะฯ ตรวจสอบเฉพาะปฏิบัติตามกฎระเบียบถูกต้องและทำให้การเคหะฯ เกิดความเสียหายหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่า ไม่เสียหาย แม้จะหายไป 5 หน่วย เพราะเราขายที่ดินในส่วนนี้ได้” ผู้ว่าการเคหะฯ กล่าวในที่สุด
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่หน้าห้องของ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. ก่อนจะโอนสายให้ฝ่ายงานที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ได้รับคำตอบว่า ปัจจุบัน รมว.พม. ยังไม่เห็นผลสอบใด ๆ .
อ่านประกอบ:เปิดหนังสือ พล.ต.อ.อดุลย์ จี้ปธ.บอร์ด 2 รอบ บิ๊กการเคหะฯขายที่ดินส่อไม่สุจริต