ร้องยื้อฟันบิ๊กการเคหะฯ-พวก 45 คน ปมขายที่ดินเอื้อเอกชนราคาถูก-ไม่ผ่าน ครม.
ร้อง‘อิศรา’ยื้อฟันบิ๊ก การเคหะฯ พวก 45 คน ปมขายที่ดินเอื้อ ปย.เอกชนย่าน ถ.ร่มเกล้า ราคาถูก-ไม่ผ่าน ครม. ผู้ซื้อจดทะเบียนโอนต่อ บ.อสังหาฯใหญ่ในวันเดียวหลังโอนกรรมสิทธิ์ เผย ครม. ยุค พล.ต.อ.อดุลย์ รมว.พม. ส่งหนังสือเร่งรัด 2 ครั้ง ด้านผอ.ฝ่าย กม. บอกสอบเสร็จส่ง รมต.แล้ว ผู้ว่าฯยังไม่แจง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการร้องเรียนว่า การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง กรณีขายที่ดินในโครงการที่การเคหะฯมีแผนดำเนินโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนหารายได้ร่วมเกล้า ระยะที่ 10 (พาร์ควิลล์ร่มเกล้า) ให้เอกชนเพื่อใช้เป็นทางเข้าออกหมู่บ้านจัดสรรของนักธุรกิจชื่อดังในราคาต่ำกว่าปกติและไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีการตั้งกรรมการสอบสวนชุดแรกตั้งแต่ปี 2559 มีผู้เกี่ยวข้องระดับบริหารและพนักงานอย่างน้อย 45 คน ปัจจุบันยังไม่ดำเนินการลงโทษผู้ใด
สำนักข่าวอิศรารายงานความเป็นมาในกรณีนี้ มีบุคคลอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากชาวบ้านติดต่อขอซื้อที่ดินในโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนหารายได้ร่วมเกล้า ระยะที่ 10 (พาร์ควิลล์ร่มเกล้า) 2 ครั้ง ครั้งแรกในช่วงปี 2557 แต่ได้รับการปฏิเสธ ต่อมาวันที่ 28 ก.ย.2558 การเคหะฯ ได้ขายที่ดินบางส่วนของโครงการฯ เนื้อที่ 260 ตารางวา (22 x 47 เมตร) ในราคา รวมทั้งสิ้น 28,897,000 บาท ให้แก่ชาวบ้านผู้ซื้อ 8 ราย เพื่อใช้เป็นทางเท้าเข้า-ออก ของที่ดินที่อยู่หลังโครงการ จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เมื่อ 5 พ.ย.2558 หลังจากจดทะเบียนแล้วผู้ซื้อได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ไปให้บริษัทเอกชนซึ่งเป็นเจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรทันทีในวันเดียวกัน
ต่อมา เอกชนรายดังกล่าวไปจดภาระจำยอมให้ที่ดินด้านในอีก 50 แปลง เนื้อที่กว่า 200 ไร่ ใช้เป็นทางผ่านเข้า-ออกที่ดินทางเท้าดังกล่าว
ผู้ร้องเรียนระบุว่า ที่ดินที่ขายให้เอกชนโดยอ้างว่าเพื่อเป็นทางเข้า-ออกที่ดินตาบอด 10 ไร่ (ที่ดินที่ไม่มีทางเข้าออกทางสาธารณะ) มีหน้ากว้างถึง 22 เมตร ควรจะใช้ที่ดินขนาดหน้ากว้างเพียง 4-5 เมตรก็น่าจะเพียงพอ และราคาซื้อขายให้เอกชนสูงกว่าราคาประเมินเพียง 20%
สำนักข่าวอิศรารายงานกรณีนี้มีการตั้งคณะกรรรมการขึ้นมาตรวจสอบตั้งแต่ปี 2559-2561 อย่างน้อย 4 ชุด มีผู้เกี่ยวข้องในระดับปฏิบัติการและระดับบริหารที่รับราชการและเกษียนอายุรวม 45 คน ในยุค พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุยษ์ (พม.) ซึ่งกำกับการเคหะฯ พล.ต.อ.อดุล์ ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ การเคหะฯ (นายไมตรี อินทสุต) ขอให้สอบสวนและรายงานความคืบหน้าถึง 2 ครั้ง กระทั่งมีการปรับ ครม. มี พล.อ. อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นรัฐมนตรี พม. ล่าสุดยังไม่มีผลสรุปว่าเอาผิดแก่บุคคลใด
เมื่อเวลาประมาณ 14.20 น.วันที่ 31 ส.ค.2561 สำนักข่าวอิศราได้โทรศัพท์สอบถามนายเดช ศิริเดช ผู้อำนวยการกองนิติการ ฝ่ายกฎหมาย การเคหะฯ ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งผู้ว่าการฯ ลงวันที่ 14 มี.ค.2561 ซึ่งเป็นกรรมการชุดล่าสุด นายเดชชี้แจงสั้นๆว่า คณะกรรมการฯสรุปผลสอบเสร็จและรายงานไปยังกระทรวง พม.และรัฐมนตรีว่าการฯเมื่อประมาณเดือน ก.ค.2561 โดยมีผู้อยู่ในข่ายกระทำความผิดจำนวนหนึ่งแต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดจำนวนได้ หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงฯเป็นผู้พิจารณา
เมื่อถามว่า คณะกรรมการชุดนี้ตั้งประเด็นในการสอบสวนกี่ประเด็น?
นายเดชกล่าวว่า ประเด็นหลัก การขายที่ดินต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีหรือไม่ และมีความเสียหายหรือไม่
“คณะกรรมการชุดนี้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง เพราะกรรมการมาจากคนนอกทั้งหมด ไม่มีคนในหน่วยงาน ผมไม่สามารถบอกอย่างอื่นได้เพราะเป็นเพียงเลขานุการ ไม่ได้เป็นกรรมการ มีหน้าที่รวบรวมข้อมูล และอยู่ในชั้นความลับทางราชการ” นายเดชกล่าว
รายงานข่าวระบุว่า คณะกรรมการสอบสวนชุดนี้ มี จำนวน 3 คน นางสาวอุษณี กังวารจิตต์ กรรมการ รองปลัดกระทรวง พม. ประธานกรรมการ ตัวแทนจากสำนักงานอัยการ และ ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีฝ่ายเลขาฯ 1 คน และผู้ช่วยเลขาฯอีก 1 คน ผลสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการชุดนี้ได้ข้อเท็จจริงว่าการขายที่ดินให้เอกชน ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการคือไม่ได้ขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรี และมีความเสียหายเกิดขึ้นจริง
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศราติดต่อไปยังนายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการ การเคหะฯ แต่ยังไม่ได้รับการชี้แจงในทันที แจ้งว่าให้ทำหนังสือสอบถามอย่างเป็นทางการ และจะนัดหมายชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้ง