สารพัดเหตุผล ทร.แจงทำไมไทยต้องมีเรือดำน้ำ-ปัดเป็นภาระประเทศ
คำชี้แจงชัด ๆ จาก ‘บิ๊กทหารเรือ’ ปมซื้อเรือดำน้ำ ยันอ่าวไทยปฏิบัติงานได้ ศึกษากว่า 30 ปี ต้อง S26T ชี้คุณภาพของประเทศจีนเชื่อถือได้ ทำสัญญาจีทูจีเพื่อลดความเสี่ยง จัดซื้อจากงบกองทัพเรือเอง ปัด ปชช.เดือดร้อน-เป็นภาระประเทศ ผ่อนจ่าย 7 ปี 17 งวด เฉลี่ยงวดละ 2.1 พันล้านบาท มี กก.พิจารณาเกือบร้อยคน โปร่งใสแน่นอน ประสิทธิภาพสูง ยิงจรวดจากชลบุรีได้ไกลถึงชุมพร !
นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่สังคมกำลังให้ความสนอยู่ขณะนี้!
กรณีคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กองทัพเรือเสนอในการจัดซื้อเรือดำน้ำรุ่น S26T โดยเป็นการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับประเทศจีน รวม 3 ลำ วงเงินกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท โดยเบื้องต้นจะซื้อก่อน 1 ลำ วงเงินประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า คณะรัฐมนตรี ‘มุบมิบ’ แอบเห็นชอบตามที่กองทัพเรือเสนอ โดยไม่ชี้แจงต่อสื่อมวลชน รวมถึงประชาชนโดยทั่วไป จนเรื่องแดงขึ้นมาว่า คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2560 จน ‘บิ๊กทหาร’ ในรัฐบาลต้องออกมาชี้แจงกันพัลวัน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2560 กองทัพเรือ นำโดย พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดหาเรือดำน้ำ พร้อมด้วยนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ จัดแถลงข่าวชี้แจงที่เรือจักรีนฤเบศวร ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เกี่ยวกับประเด็นการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีนดังกล่าว
เบื้องต้น เสนาธิการทหารเรือ ยืนยันหนักแน่นว่า การจัดซื้อครั้งนี้ตั้งอยู่บนหลัก ‘โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม ยึดผลประโยชน์’ เป็นหลัก และปฏิเสธในเรื่องมีผลประโยชน์แอบแฝง ก่อนที่จะให้บรรดานายทหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้ชี้แจงแก่สื่อมวลชน
(อ่านประกอบ : ปัดผล ปย.แอบแฝง! ทร.แจงปมซื้อเรือดำน้ำจีน 3.6 หมื่นล.-ลั่นไม่เบียดบังงบอื่น)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมการชี้แจงของ ‘บิ๊กทหารเรือ’ ถึงเหตุผลในการซื้อเรือดำน้ำดังกล่าว สรุปได้ ดังนี้
@ยันอ่าวไทยเรือดำน้ำจีนปฏิบัติงานได้
พล.ร.ท.พัชระ พุ่มพิเชฏฐ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างเรือดำน้ำฯ อธิบายว่า อ่าวไทยเป็นก้นถุง ปากอ่าวแคบ อาจถูกเรือรบ หรือเรือดำน้ำปิดอ่าวได้ง่าย ผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้นมากมายถึงขนาดที่กระทบต่อเศรษฐกิจ และความอยู่รอดของประเทศ สิ่งที่ตอบโจทย์คือต้องมีเรือดำน้ำ ซึ่กองทัพเรือเห็นประเด็นนี้
เรื่องความลึกของอ่าวไทยนั้น ไม่อยากให้พูดว่าน้ำตื้น ทุกคนทราบดีว่าอ่าวไทยมีความลึกประมาณ 50 เมตร เรือดำน้ำขนาดกลางสามารถปฏิบัติงานได้แบบสบาย ๆ โดยมีสิ่งที่ยืนยันได้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือดำน้ำฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ามาอ่าวไทยสร้างความเสียหายแก่ไทยหลายครั้ง นอกจากนี้ตนเคยร่วมฝึกกับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา และเรือดำน้ำของสหรัฐฯ เห็นได้ว่า มีความยากที่จะค้นหาเรือดำน้ำให้เจอ นอกจากนี้เรือดำน้ำสหรัฐฯมีขนาด 6 พันตัน ใหญ่กว่าที่กองทัพเรือจะซื้อ 2-3 เท่า ยังไม่เห็นมีข้อจำกัดอะไรมากในการปฏิบัติที่อ่าวไทย เพียงแต่บางพื้นที่จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ส่วน พล.ร.ต.วิสาร ปัณฑวังกูร ผบ.กองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ ยืนยันเช่นกันว่า ข้อกังวลที่ว่า เรือดำน้ำที่จัดซื้อครั้งนี้ใหญ่มาก จะสามารถใช้งานในอ่าวไทยได้หรือไม่ ต้องดูว่าการใช้งานไปสู่พื้นที่ที่ทำงาน สามารถดำได้ที่ความลึกที่สามารถเดินเรือได้อย่างปลอดภัย และชักปล้องตาเรือขึ้นผิวน้ำเพื่อตรวจการณ์ได้ ดังนั้นเรือดำน้ำนี้ ถ้ามีความลึกตั้งแต่ 30 เมตรขึ้นไป สามารถออกเรือดำน้ำไปทำงานที่อ่าวไทยได้อย่างปลอดภัย และอ่าวไทยมีที่เหลือเพียงพอเหลือเฟือที่เป็นท่ำงานของเรือดำน้ำ แต่วัตถุประสงค์หลักคงไม่ได้ใช้ที่อ่าวไทยเป็นหลัก ขณะเดียวกันถ้าเป็นที่ฝั่งอันดามัน มีพื้นที่ความลึกของทะเลมาก ไม่มีอุปสรรคในการใช้งานแต่อย่างใด
@ศึกษามายาวนานกว่า 30 ปี สุดท้ายเลือกแล้วต้อง S26T
พล.ร.ท.พัชระ ระบุว่า กองทัพเรือศึกษาเรื่องนี้มายาวนานกว่า 30 ปี เกือบได้แล้ว 2-3 ครั้ง ครั้งแรกในปี 2538 ครั้งที่ 2 ในปี 2535 และครั้งสุดท้ายในปี 2554 ที่กองทัพเรือเสนอจัดหาเรือดำน้ำใช้แล้วรุ่น S206A จากเยอรมัน แต่ที่ผ่านมามีเหตุผลที่ต้องเลื่อนการจัดหามาโดยตลอด แต่ครั้งนี้การจัดหาไม่ได้เริ่มในปีงบประมาณ แต่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 กองทัพเรือได้รับอนุมัติให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดหาเรือดำน้ำที่มีความเหมาะสมกับยุทธการ และภารกิจของกองทัพเรือ หลังจากนั้นได้ศึกษาเรือดำน้ำใน 6 ประเทศ บางประเทศให้แต่ตัวเรือ ไม่แถมอาวุธ บางประเทศไม่สนับสนุนการฝึกอบรมเทคโนโลยีและองค์ความรู้ เป็นต้น ต่อมาปี 2559 ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาทบทวนอีกครั้ง พบว่า เรือดำน้ำ S26T ของประเทศจีน มีความเหมาะสมที่สุดที่จะเข้ามาใช้งาน เนื่องจากมีความพร้อมด้านยุทโธปกรณ์ ความสามารถ ความต่อเนื่องในการใช้งาน ตลอดอายุการใช้งาน สุดท้ายที่สำคัญคืองบประมาณในการจัดหา และการซ่อมบำรุงตลอดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงด้านสมรรถนะ และความเงียบ มีอุปกรณ์เพิ่มระยะเวลาการดำน้ำได้นานขึ้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เรือดำน้ำต้องการมากที่สุด มีการพัฒนาระบบอาวุธ ประสิทธิภาพความแม่นยำ และทำลาย ซึ่งเป็นประโยชน์ที่กองทัพเรือต้องการมานาน
@ยันคุณภาพของประเทศจีนเชื่อถือได้
พล.ร.ท.พัชระ ยืนยันอีกว่า การวิจัยพัฒนาและการสร้างต่อเรือของประเทศจีน มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว มีคุณภาพที่เชื่อถือได้ เพราะประเทศจีนมีกองเรือดำน้ำใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก มีเรือดำน้ำประจำการกว่า 50 ลำ ปฏิบัติการจริงในทะเลมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก นอกจากนี้มีหลายประเทศที่สนใจจะซื้อจากจีน เช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ ประเทศปากีสถาน เตรียมสั่งซื้อเรือดำน้ำรุ่นดังกล่าวจากประเทศจีนอย่างน้อย 8 ลำ จากเดิมที่ใช้ของประเทศฝรั่งเศส และตนเคยเยี่ยมชนศูนย์วิจัยเรือดำน้ำของประเทศจีนมาแล้ว ซึ่งการจัดซื้อครั้งนี้จะเปิดพื้นที่ให้กำลังพลของไทยไปร่วมฝึกกับประเทศจีน ทั้งด้านกำลังพล ด้านเทคนิค และด้านบังคับบัญชาด้วย จึงถือว่าคุ้มค่า รวมถึงกระทรวงกลาโหมประเทศจีน และกองทัพเรือประเทศจีน ยินดีที่จะร่วมกับกองทัพเรือไทย ในการตรวจสอบยืนยันคุณภาพทุกขั้นตอนของการดำเนินการ เพื่อให้มีมาตรฐานตามที่ต้องการ ตั้งแต่การรับรองการออกแบบเรือดำน้ำ การตรวจรับรองแผ่นเหล็ก วัสดุในการสร้าง การทดสอบขั้นโรงงาน การทดสอบหน้าท่า การทดสอบทางทะเล การทดสอบตอร์ปิโด และสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการฝึกยุทโธปกรณ์ และการฝึกเพิ่มเติมอีกมาก นับว่าเป็นประโยชน์ในการทำสงครามใต้น้ำอย่างยิ่ง
@ทำสัญญาจีทูจีเพื่อลดความเสี่ยง
พล.ร.ท.พัชระ ระบุว่า สาเหตุที่ต้องทำสัญญาจีทูจีเพราะว่าเป็นเรื่องสำคัญ เวลาดำเนินโครงการค่อนข้างนาน วงเงินค่อนข้างสูง มีผลกระทบต่อขีดความสามารถของกองทัพเรือ และประเทศไทย ที่สำคัญมีหน่วยงานเกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยเฉพาะจากประเทศจีน เช่น กระทรวงกลาโหมประเทศจีน บริษัทต่อเรือ กองทัพเรือจีน และหน่วยงานของประเทศจีนที่กำกับดูแลอุตสาหกรรมทหาร ต้องเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนโครงการ ให้โครงการมีความสำเร็จตั้งแต่ขั้นดำเนินการ จนตลอดอายุการใช้งานของเรือ
“การทำสัญญาจีทูจี จึงช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มความเชื่อมั่นของโครงการว่า จะสำเร็จ ราบรื่น มีคุณภาพ ยืนยันว่า การจัดหาเรือดำน้ำรุ่น S26T ครั้งนี้ จะทำให้ไทย และกองทัพเรือได้ประโยชน์สูงสุด และเป็นการวางรากฐานสงครามใต้น้ำของกองทัพเรือให้มีความยั่งยืนได้แน่นอน”
@ลั่นจัดซื้อจากงบกองทัพเรือเอง ไม่ได้ทำให้ประชาชนเดือดร้อน-ปัดเป็นภาระประเทศ
พล.ร.ต.กฤษฎากรณ์ พันธ์มโพธิ ผบ.สำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ ชี้แจงถึงการใช้งบประมาณจัดซื้อว่า ขอให้สบายใจได้ กองทัพเรือไม่ได้เบียดเบียนเงินงบประมาณของส่วนราชการอื่น หรือแม้แต่ขอสนับสนุนเพิ่มเติมจากรัฐบาล เพื่อให้ส่วนราชการอื่น หรือประชาชนเดือดเนื้อร้อนใจ กองทัพเรือใช้งบประมาณจากงบประมาณที่ได้รับปกติ ตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ในส่วนที่เป็นการลงทุน และพัฒนากองทัพ เพื่อจัดหายุทโธปกรณ์ต่าง ๆ มาใช้งาน ซึ่งเป็นปกติตามแผนงานของกองทัพเรืออยู่แล้ว ไม่ได้ใช้งบส่วนอื่น หรืองบใดให้เป็นภาระแก่ประเทศ
ส่วนจะลงทุนในเรื่องใด เวลาไหน ขึ้นอยู่กับความจำเป็นเร่งด่วน และสภาพความเป็นไปได้ด้านงบประมาณในช่วงเวลานั้น ที่ไม่ทำให้มีผลกระทบกับการใช้จ่ายงบประมาณด้านอื่นของกองทัพเรือ หรือเป็นภาระกับกองทัพเรือ ซึ่งการดำเนินการลักษณะนี้เรียนว่า เหมือนส่วนราชการอื่นทั่วไป จำเป็นต้องจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำงาน ปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบ เช่นเดียวกับกระทรวงคมนาคม ที่จำเป็นต้องจัดหารถขุด รถตัก ในการทำถนน เป็นต้น
@ผ่อนจ่าย 7 ปี 17 งวด เฉลี่ยงวดละ 2.1 พันล้านบาท
พล.ร.ต.กฤษฎากรณ์ ระบุว่า งบประมาณที่ใช้ในการจัดหาเรือดำน้ำ 3.6 หมื่นล้านบาท ไม่ได้ใช้ในคราวเดียว แต่ผ่อนชำระ 7 ปี รวม 17 งวด โดยจ่ายไปตามความก้าวหน้าของงาน เฉลี่ยปีละประมาณ 2.1 พันล้านบาท ยืนยันว่าการจ่ายเงินแต่ละปีไม่เป็นภาระต่องบประมาณ และงบประมาณด้านอื่นของกองทัพเรือ
“บางท่านอาจถามว่า ทำไมกองทัพเรือไม่จัดหาพร้อมกันทีเดียว 3 ลำ จริง ๆ อยากได้ทั้ง 3 ลำ แต่ว่าเรือดำน้ำ 1 ลำ ค่อนข้างมีราคาสูง ขณะเดียวกันงบประมาณที่กองทัพเรือได้รับแต่ละปีค่อนข้างมีจำนวนไม่มากนัก และกองทัพเรือจำเป็นต้องใช้จ่ายแต่ละปีในเรื่องซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ที่มีใช้ได้อย่างต่อเนื่อง การฝึกกำลังพล ค่าใช้จ่ายปฏิบัติงานตามภารกิจหน้าที่ ตลอดจนแผนการลงทุนพัฒนากองทัพ ดังนั้นคงต้องทยอยจัดหาทีละลำ ตามสภาพความเป็นไปได้ในปีนั้น ๆ”
@มี กก.พิจารณาเกือบร้อยคน โปร่งใสแน่นอน
พล.ร.ต.กฤษฎากรณ์ ยืนยันว่า การจัดซื้อครั้งนี้มีความโปร่งใสอย่างแน่นอน เนื่องมีคณะกรรมการที่กองทัพเรือแต่งตั้งขึ้นหลายคณะ เกือบร้อยคน ทั้งคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ฯ ที่มี เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธาน รวมถึงกรรมการชุดอื่น ๆ ที่มีผู้ทรงคุณวุฒิ หน่วยเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ มาประกอบด้วย ต้องเรียนว่าเป็นการยากที่จะชักนำคนเกือบร้อยคนให้เป็นไปในทิศทางอย่างใดอย่างหนึ่งตามใจชอบ เรียนว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใส
@ชี้เรือดำน้ำจีนมีประสิทธิภาพสูง ยิงจรวดจากชลบุรีได้ไกลถึงชุมพร !
พล.ร.ต.วิสาร ปัณฑวังกูร ผบ.กองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ มีความยินดีอย่างยิ่งที่กองทัพเรือได้จัดซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้ หลังจากศึกษามานานกว่า 30 ปี โดยเปรียบเทียบว่า การจัดซื้อครั้งนี้เหมือนครอบครัวที่ซื้อรถยนต์ ต้องดูว่าจะสนองประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใด อาจมีบางคนในครอบครัวไม่ชอบใจบ้าง เป็นเรื่องปกติ
สำหรับข้อดีของเรือดำน้ำ S26T คือ มีการเพิ่มอุปกรณ์ที่ช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่เรือได้นานกว่าปกติ 5 เท่า ทำให้ไม่ต้องขึ้นมาผิวน้ำเพื่อเติมแบตเตอรี่บ่อย ๆ ซึ่งทางทหารถือว่าเป็นการได้เปรียบอย่างมากที่ทำอะไรโดยที่ฝ่ายตรงข้ามไม่รู้ไม่เห็นได้มากขึ้น มีโอกาสใช้อาวุธ หรือปฏิบัติภารกิจได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันไม่ให้น้ำเข้าห้องของกำลังพล ถือเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ดีมาก ขณะเดียวกันยุทโธปกรณ์นอกเหนือจากตอร์ปิโดแล้ว ยังมีจรวดนำวิถีที่ยิงจาก จ.ชลบุรี ได้ไกลถึง จ.ชุมพร ด้วย รวมถึงมีขีดความสามารถในการวางทุ่นระเบิดพื้นทะเลเพื่อทำอันตรายเรือผิวน้ำ หรือเรือดำน้ำฝ่ายตรงข้ามได้ เท่ากับว่าเป็นเพิ่มเขี้ยวเล็กของกองทัพเรือเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ใช้ด้านยุทธวิธีอย่างเดียว แต่มีผลกระทบต่อยุทธศาสตร์ หรือสมดุลอำนาจกำลับรบด้วย
“สาเหตุสำคัญที่กองทัพเรือต้องจัดซื้อเพื่อต้องการใช้ด้านความปลอดภัยในการเดินเรือสินค้า เพื่อเศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศเป็นหลัก พวกเราคงมองออกว่า ใช้เรือดำน้ำที่ไหน ปกติคงไม่ใช้ในบ้านเราเป็นหลัก คงเหมือนใช้ในพื้นที่ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเส้นทางคมนาคมที่สำคัญของเรา หรือหน้าบ้านเรา ฝ่ายที่เป็นคู่อริของเรา คงไปตีหัวที่หน้าบ้าน หรือเส้นทางหน้าบ้านเขามากกว่า”
ทั้งหมดคือคำอธิบายของบรรดา ‘บิ๊ก’ ทหารเรือที่ร่ายยาวชี้แจงประมาณชั่วโมงเศษ ถึงเหตุผลและความจำเป็นว่า ทำไมประเทศไทยต้องมีเรือดำน้ำ
ส่วนจะจำเป็นจริง และไม่กระทบต่องบประมาณ หรือภาระแก่ประชาชนหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไปในอนาคต ?
อ่านประกอบ :
ฝากคำถามให้กองทัพเรือ กรณีเรือดำน้ำ
เปิดตัวเบื้องหลังความสำเร็จแห่งการ “ดำ” อย่างโปร่งใส
'ศรีสุวรรณ'อ้างฝ่ายมั่นคงห้ามยื่นสอบปมซื้อเรือดำน้ำจีน 3.6 หมื่นล.-สตง.รับลูกลุยต่อ
ยกเหตุป้องเงินภาษีปชช.! ศรีสุวรรณ ยื่นสตง.สอบครม.อนุมัติซื้อเรือดำน้ำจีน
ทำตามขั้นตอนไม่น่ามีอะไรสงสัย!‘บิ๊กป้อม’ แจงปมซื้อเรือดำน้ำ-ไม่แถลงเพราะเรื่องลับ
แหล่งข่าวทัพเรือเผย "ต้องเรือดำน้ำจีนเพราะสัญญาณจากผู้มีอำนาจเหนือ ทร."
พล.ท.สรรเสริญ ยอมรับ 'เรือดำน้ำจีน' ผ่าน ครม.เเล้ว
โครงการเรือดำน้ำ (จีน) การแข่งขันที่โปร่งใสยุติธรรมจริงหรือ?
คนพวกนี้ใช้ไม่ได้! นายกฯขออดีตทหารอย่าพูดทำลายกองทัพปมซื้อเรือดำน้ำ
ไร้คนจาก รบ.เข้ามากอบโกย! นายกฯชี้ต้องเข้าใจซื้อเรือดำน้ำ-ใครจะหน้าด้านโกง
ยังไม่ชงจัดซื้อเรือดำน้ำ 1.3 หมื่นล.เข้า ครม.! ‘บิ๊กป้อม’เผยอยู่ระหว่างประสานจีน
ล้วงเหตุผล ทร.ซื้อเรือดำน้ำ ป้องกันความมั่นคงทางทะเล-ไฉนทำจีทูจีจีน?
ทำจีทูจีจีน! เสธ.ทร.ไฟเขียวซื้อเรือดำน้ำ 1.3 หมื่นล.ชง กห.เสนอ ครม.อนุมัติ
เพื่อชาติและราชนาวีไทย... อย่าซื้อเรือดํานํ้าตอนนี้เลย
แฉปม 'ฮั้ว' ?...ทัพเรือเลือกเรือดำน้ำจีน S26T