ไร้คนจาก รบ.เข้ามากอบโกย! นายกฯชี้ต้องเข้าใจซื้อเรือดำน้ำ-ใครจะหน้าด้านโกง
นายกฯ ขอให้ประชาชนเข้าใจการจัดซื้อเรือดำน้ำ เหตุได้ราคามิตรภาพ ลั่นใครจะหน้าด้านอนุมัติเพื่อหวังผลประโยชน์ หากเจอโกงให้ไปสอบกันมา ไม่มีใครจาก รบ. นี้มากอบโกย มีแต่คนแอบอ้างอย่างเดียว – ปมเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปกับ ‘ทักษิณ’ ไม่เกี่ยวเรื่องปรองดอง อย่าเอามาโยงกัน
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีกองทัพเรือเตรียมเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำ แบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับประเทศจีน วงเงินประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท สรุปได้ว่า ยังไม่มีการเสนอเรื่องนี้ต่อคณะรัฐมนตรี เท่าที่ทราบยังไม่ได้คุยกัน แต่เป็นงบค่าใช้จ่ายที่รัฐบาล เหล่าทัพ และกระทรวงกลาโหมคำนึงอยู่แล้ว แบ่งเป็น 3 ระยะ ซึ่งการจัดหาไม่ใช่จ่ายเงินวันนี้แล้วพรุ่งนี้มาเลย ต้องใช้เวลาในการก่อสร้างอย่างน้อย 3 ปี เป็นอย่างน้อยกว่าจะเสร็จสักลำหนึ่ง ไม่ใช่ผลิตไว้ขายเหมือนรถยนต์ที่โชว์เมื่อไหร่ก็ได้ แต่เป็นการวางแผนของกองทัพเรือตั้งแต่ 10-20 ปีก่อนแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้ต้องเข้าใจว่าทำเพื่ออะไร คนอนุมัติหวังผลประโยชน์หรือ หน้าด้านขนาดนั้นเชียวหรือ อยากรู้นัก อย่ามองรัฐบาล และตนแบบนั้น ถ้ามองแบบนั้นทุกเรื่องก็จบหมด ทำอะไรไม่ได้ ถ้ามีการโกงกัน ไปสอบกันมาว่าโกงอย่างไร ลงโทษกันตรงนี้ แต่ขณะนี้ต้องมีการวางแผน อย่างน้อย 3 ระยะ คือปี 2563-2570 ใช้เงินประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท ราคามิตรภาพ จากปกติราคาลำละ 1.8 หมื่นล้านบาท นี่ 3 ลำ 3.6 หมื่นล้านบาท เหมือนซื้อ 2 ได้ 1 ลำ พร้อมระบบอาวุธ
“ถามว่าอยากซื้อของประเทศอื่นหรือไม่ ก็อยาก แต่ใช้งบประมาณเกินกว่า 3 เท่า ซื้อได้หรือไม่ ทั้งที่ดำน้ำได้เหมือนกัน คนปลอดภัยเช่นกัน มันมีวิธีการคิดใหม่ในการจัดซื้อจัดหา ถ้าไม่จำเป็นจะซื้อให้เมื่อยทำไม จะโดนติเตียนทำไม ไม่ซื้อก็ไม่ต้องซื้อ จะทะเลาะทำไม ทุกเรื่องเลย ให้ดูความตั้งใจของรัฐบาลนี้ก่อน ทุกคนพยายามทำให้ดีที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ไม่มีใครที่มาจากรัฐบาลนี้มากอบโกย เว้นแต่คนแอบอ้าง ไปหามา สักครู่มีการร้องเรียนต่อตนให้สอบตำรวจรายหนึ่ง เมื่อร้องเรียนมาก็สอบ ต้องร้องเรียนมาก่อน ถ้าเป็นบุคคลมีชื่อเสียง มีความผิดอะไร เรื่องไหน ผิดหรือไม่ไม่รู้เหมือนกัน แต่ย้ายก่อนเพื่อสอบข้อเท็จจริง ถ้าบอกลอย ๆ คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ใกล้ชิดรองนายกรัฐมนตรี แล้วคือใคร คนใกล้ชิดที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คือใคร ต่อมากลับบอกว่า ไม่ใช่คนใกล้ชิดที่ปรึกษานายกฯ แต่เป็นคนใกล้ชิดกับคนใกล้ชิดที่ปรึกษานายกฯ คนจ่ายเงินนี่โง่เลยนะ ไปให้เขาเนี่ย ทำไมโง่แบบนี้ แล้วกลับโทษรัฐบาล ให้ไปหามา ไม่มีใครจะฝ่าฝืนกติกาได้ เว้นแต่ตนไม่รู้ หรือไม่มีข้อเท็จจริง ไม่มีหลักฐาน ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน
(อ่านประกอบ : ยังไม่ชงจัดซื้อเรือดำน้ำ 1.3 หมื่นล.เข้า ครม.! ‘บิ๊กป้อม’เผยอยู่ระหว่างประสานจีน, ล้วงเหตุผล ทร.ซื้อเรือดำน้ำ ป้องกันความมั่นคงทางทะเล-ไฉนทำจีทูจีจีน?, ทำจีทูจีจีน! เสธ.ทร.ไฟเขียวซื้อเรือดำน้ำ 1.3 หมื่นล.ชง กห.เสนอ ครม.อนุมัติ, เพื่อชาติและราชนาวีไทย... อย่าซื้อเรือดํานํ้าตอนนี้เลย, แฉปม 'ฮั้ว' ?...ทัพเรือเลือกเรือดำน้ำจีน S26T)
ส่วนกรณีกรมสรรพากรให้เจ้าหน้าที่ติดหมายเรียกที่บ้าน ‘จันทร์ส่องหล้า’ ที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เสียภาษีการขายหุ้นชินคอร์ปแก่กองทุนเทมาเส็ก วงเงินประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาทนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นธรรมเนียมของกรมสรรพากร ถ้าเรียกเจอตัว ก็ส่งให้ตัว แต่นี่ตัวอยู่หรือไม่ ถ้าไม่อยู่ก็ติดที่บ้าน เหมือนประชาชนทุกคนที่ได้รับหมายศาล หรือหมายเรียก ส่วนที่ถามว่ามีผลกับเรื่องปรองดองหรือไม่นั้น เกี่ยวอะไรกับปรองดอง นี่ทำผิดกฎหมาย ปรองดองก็ปรองดอง ชอบเอามาโยงกัน ถ้าปรองดองแล้วปล่อยให้ผิดกฎหมายทุกเรื่องเหรอ ต้องละเว้นหรือ ที่ผ่านมาละเว้นไม่พอหรือ คดีรกศาลอยู่เลย ต้องว่าไปตามกระบวนการภาษี ตามกฎหมาย ใช่หรือไม่ ให้มาต่อสู้คดีไป ยังสามารถอุทธรณ์ได้ ตนไม่ใช่มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เลย ใช้กฎหมายปกติ ไปสู้กันเอง
อ่านประกอบ :
'สรรพากร' บุก “จันทร์ส่องหล้า” แจ้ง “ทักษิณ” จ่ายภาษีหุ้นชินฯ 17,629 ล้าน
ตั้งทีมทนายสู้ หากเก็บภาษีหุ้นชิน! ‘นพดล’ขู่ถ้าสรรพากรทำงานดีจะไม่โดน ม.157
ถ้าไม่ทำเรื่องเก็บภาษีหุ้นชินเสี่ยงโดน ม.157! ‘บิ๊กตู่’ขอให้ความเป็นธรรม รบ.
ผู้บริหารกล้าหน่อย! ผู้ว่าฯ สตง.บี้สรรพากรเก็บภาษีหุ้นชินฯ-ทำไม่ได้ต้องรับผิดชอบ
ใช้อภินิหารทาง กม.! รบ.ชี้อายุความคดีขายหุ้นชินฯหยุดแล้ว-จี้สรรพากรเก็บภาษี