x-files (31): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟัน อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ ร่ำรวยผิดปกติ-ทุจริตต่อหน้าที่
“...นาย ก. ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นเลขานุการคณะทำงาน ซึ่งคณะทำงานมีหน้าที่พิจารณาเสนอโครงการและรายละเอียดขั้นตอนในการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งตลาดหมอชิต และจากการพิจารณาในรายละเอียดคณะทำงานมีความเห็นว่าการพัฒนาที่ราชพัสดุดังกล่าวต้องใช้วงเงินงบประมาณ 3,135 ล้านบาท กรุงเทพมหานครสามารถรับภาระได้ 520 ล้านบาท บริษัทขนส่ง จำกัด รับภาระได้ 110 ล้านบาท ส่วนที่เหลือที่ต้องเป็นค่าใช้จ่ายอีก 2,505 ล้านบาท ยังไม่มีผู้รับภาระ คณะทำงานจึงเสนอให้นำที่ราชพัสดุมาใช้ประโยชน์เพื่อนำเงินไปชดเชย โดยหาเอกชนมาลงทุนและเอกชนต้องรับภาระในการใช้จ่ายสิ่งก่อสร้างตามโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ในวงเงิน 2,505 ล้านบาท ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้รับทราบตามแนวความเห็นของคณะทำงาน จึงฟังเป็นข้อยุติว่าโครงการพัฒนาที่ดินของกรมธนารักษ์เป็นโครงการที่มีวงเงินลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท จึงต้องอยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ดังกล่าว แต่นาย ก. ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว แต่กลับเสนอความเห็นต่อปลัดกระทรวงการคลังเพื่อขอยกเว้น...”
x-files :พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริตคดีดังในอดีต ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมาเสนอต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 31 เพื่อเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายนำไปใช้เป็นแนวทาง ในการตรวจสอบคดีทุจริตต่างๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ว่า รูปแบบพฤติการณ์การทุจริต รวมไปถึงข้อกฎหมายสำคัญที่ใช้ในการตัดสินคดีของ ป.ป.ช. มีรายละเอียดเป็นอย่างไร ในสัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์สุดท้ายของตัวอย่างคดีทุจริตทั้งหมด โดยนำเสนอส่งท้ายคดีในหมวด ร่ำรวยผิดปกติ จะมีคดีสำคัญอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย (การเผยแพร่ข้อมูลระบุชื่อผู้เกี่ยวข้อง เป็นตัวอักษรย่อ เพื่อปกป้องสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา เพราะบางคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล)
@ ร่ำรวยผิดปกติ
ข้อเท็จจริง กรุงเทพมหานครได้ขอใช้พื้นที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งหมอชิตเพื่อใช้จัดสร้างโรงงานและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า กระทรวงการคลังจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานโดยมีนาย ก. ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นเลขานุการคณะทำงาน ซึ่งคณะทำงานมีหน้าที่พิจารณาเสนอโครงการและรายละเอียดขั้นตอนในการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งตลาดหมอชิต และจากการพิจารณาในรายละเอียดคณะทำงานมีความเห็นว่าการพัฒนาที่ราชพัสดุดังกล่าวต้องใช้วงเงินงบประมาณ 3,135 ล้านบาท กรุงเทพมหานครสามารถรับภาระได้ 520 ล้านบาท บริษัทขนส่ง จำกัด รับภาระได้ 110 ล้านบาท ส่วนที่เหลือที่ต้องเป็นค่าใช้จ่ายอีก 2,505 ล้านบาท ยังไม่มีผู้รับภาระ คณะทำงานจึงเสนอให้นำที่ราชพัสดุมาใช้ประโยชน์เพื่อนำเงินไปชดเชย โดยหาเอกชนมาลงทุนและเอกชนต้องรับภาระในการใช้จ่ายสิ่งก่อสร้างตามโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ในวงเงิน 2,505 ล้านบาท
ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้รับทราบตามแนวความเห็นของคณะทำงาน จึงฟังเป็นข้อยุติว่าโครงการพัฒนาที่ดินของกรมธนารักษ์เป็นโครงการที่มีวงเงินลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท จึงต้องอยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ดังกล่าว แต่นาย ก. ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว แต่กลับเสนอความเห็นต่อปลัดกระทรวงการคลังเพื่อขอยกเว้นไม่ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 และทำความเห็นว่าสามารถดำเนินการตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 กฎกระทรวง พ.ศ. 2519 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการพัฒนาที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2534 ในการพัฒนาที่ราชพัสดุตามแนวทางของคณะทำงาน
จากการดำเนินการดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควร สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท ดังนี้
1) เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2538 ผู้ถูกกล่าวหาได้นำเช็คจำนวน 10 ล้านบาท ที่ได้รับจากพนักงานของบริษัท A ซึ่งเป็นบริษัทผู้เสนอราคาแข่งขันประมูลโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งตลาดหมอชิตที่ได้รับการพิจารณาให้คะแนนเป็นลำดับที่ 1 ในการพัฒนาที่ราชพัสดุ เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาประดิพัทธ์ ที่ตนเองเป็นเจ้าของบัญชี
2) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2538 ผู้ถูกกล่าวหาได้รายงานผลการพิจารณาการให้คะแนนบริษัท A ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับคะแนนเป็นลำดับที่ 1 ให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ หลังจากนั้น ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเช็คจากพนักงานของบริษัท B ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกันกับบริษัท A จำนวน 20 ล้านบาท เป็นเช็ค 5 ฉบับ ฉบับละ 4 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2538 ผู้ถูกกล่าวหาได้นำเช็คจำนวน 4 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาประดิพัทธ์ ที่ตนเป็นเจ้าของชื่อบัญชี ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 16 ล้านบาท ผู้ถูกกล่าวหาได้นำเช็คจำนวนเงินดังกล่าวนำฝากเข้าบัญชีของผู้อื่นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2538
การที่ผู้กล่าวหาแก้ข้อกล่าวหาว่าเป็นรายได้ที่ได้มาจากการขายวัตถุมงคลจำนวนเงิน 30 ล้านบาท จึงรับฟังไม่ขึ้น และผู้ถูกกล่าวหาได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควร สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เป็นจำนวนเงินอีก 68 ล้านบาท โดยผู้ถูกกล่าวหาแก้ข้อกล่าวหาว่าทรัพย์สินที่ได้มาดังกล่าวคือ เงินฝากในธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 14 ล้าน นั้นเป็นรายได้จากการขายที่ดิน และเงินฝากในสถาบันการเงินจำนวน 49 ล้านบาท เป็นเงินที่เกิดจากการฝากเงินไถ่ถอน และฝากต่อในตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) ตั๋วเงินที่ผู้ถูกกล่าวหาและภรรยาถืออยู่และโอนจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์แห่งหนึ่งมาฝากต่อบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อีกแห่งหนึ่งระหว่างปี 2535 - 2541 มิใช่รายได้ใหม่ โดยเงินที่นำมาฝากเป็นเงินฝากที่มีอยู่เดิมจากเงินเดือน เบี้ยประชุม โบนัส ดอกเบี้ยเงินฝาก เงินจากการซื้อขายหุ้นและที่ดิน จึงรับฟังไม่ขึ้น
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. การที่นาย ก. ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินที่ได้มาเป็นการได้มาโดยสุจริตไม่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตแต่อย่างใด จึงมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหามีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติหรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควร สืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ จึงร่ำรวยผิดปกติ และมีความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ตามมาตรา 80 (4) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
@ ร่ำรวยผิดปกติและจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ
ข้อเท็จจริง นาย ก. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง A ถูกคนร้ายเข้าไปปล้นบ้านและนำทรัพย์สินหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายบางส่วนและยึดทรัพย์คืนมาได้จำนวนหนึ่งและทองคำรูปพรรณที่คนร้ายนำเงินที่ปล้นได้ไปซื้อมา ส่วนคนร้ายที่หลบหนีการจับกุมได้นำเงินสดที่ไม่สามารถระบุจำนวนแน่นอนหลบหนีไปด้วย จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ได้ให้การสอดคล้องตรงกันเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในการปล้นทรัพย์บ้านของ นาย ก. จึงฟังได้ว่า ผู้ต้องหาให้การเกี่ยวกับของกลางที่ปล้นไปด้วยความเป็นจริงซึ่งจากของกลางที่ได้ นาย ก. ได้ชี้แจงเกี่ยวกับเงินสดจำนวนหนึ่งที่ถูกปล้นไปโดยแยกออกเป็น 3 ส่วน มีเพียงส่วนเดียวเท่านั้น ที่สามารถชี้แจงที่มาได้ ส่วนที่เหลือชี้แจงไม่ได้ จึงชี้มูลว่าร่ำรวยผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินอื่นๆ ที่ยังอยู่ในระหว่างไต่สวนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สมควร สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินคดียื่นคำร้องต่อศาลขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งกรณีดังกล่าวนาย ก. เพียงแต่ถูกยึดทรัพย์และกฎหมายถือว่าเป็นโทษ ทางวินัยร้ายแรง ส่วนนาย ก. จะได้ทรัพย์สินมาในทางทุจริตในเรื่องใดเป็นคดีอาญาแยกต่างหาก หากไต่สวนแล้วมีมูลในคดีอาญา จะต้องส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดฟ้องคดีอาญาในศาลที่มีเขตอำนาจต่อไป
ส่วนประเด็นเรื่องจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ เป็นกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะต้องดำเนินการต่อไป
----
สัปดาห์นี้เป็นตอนสุดท้ายของ x-file สิ้นสุดลงตอนที่ 31 ปิดท้ายด้วยคดีทุจริตเกี่ยวกับการร่ำรวยผิดปกติ ทั้งนี้ โปรดติดตามว่าจะมีคดีอะไรที่น่าสนใจมานำเสนอต่อไปในอนาคต
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
x-files (1) : พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต รมต.-ผอ.รพ.รัฐ เอื้อปยจัดซื้อจ้างบ.พวกพ้อง
x-files (2) : พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต บทลงโทษ พลเอก 'ก.' เลี่ยงระเบียบซื้อที่ดิน32ล.
x-files (3): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต คดีใหญ่รถดับเพลิง-นายกอบจ.งาบมุ้งไข้เลือดออก
x-files (4):พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริตที่ปรึกษารมต.จัดซื้อยา-เชือดอธิบดีงาบเรือขุด
x-files (5):พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต อบต.ตรวจงานเท็จ -ประปาร้อยเอ็ดเรียกเงินผู้รับจ้าง
x-files (6):พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต ร.ต.อ.ยักยอกATM ผู้ต้องหาคดียาบ้ากดเงินใช้ 7 แสน
x-files (7):พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต พันเอก พ. อมค่าโฆษณาวิทยุกองทัพภาคที่ 2
x-files (8): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต สจ. 'ข.' เอารถหลวงจำนำร้านคาราโอเกะ
x-files (9): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต พ.ต.ต. แก้ใบเสร็จยักยอกเงินซื้อรองเท้า 3แสน
x-files (10): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต ดาบตำรวจ ‘ก.’ เรียกรับเงินงบซ่อมถนน 7 แสน
x-files (11): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต บิ๊กตำรวจ ‘ก.’ รับเคลียร์หนี้พนันละเว้นจับกุม
x-files (13): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต จ.ส.ต. ‘ส.’ รับสินบนละเว้นตรวจหนังสือเดินทางปลอม
x-files (14): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต เจ้าพนักงานเรียกรับเงิน ช่วยลดโทษผู้ต้องหายาเสพติด
x-files (15): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต ร.ต.อ. ‘ก’ แจ้งข้อกล่าวหาคดีเช็คไม่ครบถ้วน
x-files (16): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต นาง ‘จ’ จนท.ปกครอง ช่วยคนไร้สัญชาติทำบัตรประชาชนเท็จ
x-files (17): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต นายอำเภอ-ปลัด ปลอมใบเกิดช่วยต่างด้าวได้สัญชาติไทย
x-files (18): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต นาย ‘ก’ จนท.ทะเบียน เรียกเงินช่วยเปลี่ยนชื่อ-สวมเลขปชช.
x-files (19): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต การสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรม กรรมการ-ผู้สอบ รวม122คน
x-files (20): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต 3 จนท.กองสลาก ร่วมโกงล็อครางวัลที่1
x-files (23): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต ตร.อารักขานักการเมือง จับกุมผู้ชุมนุมโดยมิชอบ
x-files (24): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต แก้ไขเปลี่ยนแปลงฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง
x-files (25): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต จนท.บริษัทของรัฐ ช่วยเอกชนไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาเกินเวลา
x-files (26): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต อดีตรองปธ.รัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรธน.โดยมิชอบ
x-files (27): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริตรวมฮิตคดีที่ดิน ส.ค.1 บิน- ออก น.ส.3ก. มิชอบ
x-files (28): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันอดีตบิ๊ก มท.ใช้อำนาจบังคับราษฏรขายที่ดินให้
x-files (29): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟัน จนท.ที่ดินร่วมออกเอกสารสิทธิรุกล้ำทะเล
x-files (30): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟัน จนท.บริหารงานที่ดิน 5 เรียกรับเงินออกใบ นส.3ก