โค้งสุดท้ายก่อนปลดล็อค ฝ่ายหนุน ‘บิ๊กตู่’ชื่นมื่น-เพื่อไทยงัด‘แผนบี’ สกัดถูกยุบพรรค
“…เบื้องหลัง ‘แผน B’ นี้ว่ากันว่า เพื่อป้องกันไม่ให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบจากแนวโน้มที่แกนนำหลายคนประเมินว่า ‘สุ่มเสี่ยง’ ไม่น้อย ขณะเดียวกันมีแกนนำบางคนไม่ค่อยลงรอย ‘คุณหญิงหน่อย’ ที่ปรับแผนบริหารพรรคใหม่โดยไม่ประนีประนอมกับแกนนำคนอื่น ๆ จึงเปลี่ยนแผนใหม่ใช้สูตร 250+100 นั่นคือ พรรคเพื่อไทยส่ง ส.ส. ลง 250 เขต (จากทั้งหมด 350 เขต) เพื่อจะได้ไม่ต้องแย่งชิงพื้นที่เขตกับพรรคเครือข่ายอื่น ๆ ส่วนอีก 100 คือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะได้จากพรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเครือข่าย …”
อีกประมาณเดือนเศษ จะถึงคิวที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ‘ปลดล็อค’ ให้กับบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายได้หาเสียงกันอย่างเต็มที่ หลังจาก ‘คลายล็อค’ ให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้เมื่อเดือน ต.ค. 2561 ตามแพลนที่ ‘เรือแป๊ะ’ กำหนดไว้ใน ‘ปฏิทินการเมือง’
ก่อนจะออก พ.ร.ฎ.กำหนดการเลือกตั้งเป็นการทั่วไป ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคาะวันช่วงเดือน ธ.ค. 2561 หากเป็นไปตามนี้การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นวันที่ 24 ก.พ. 2562 ไม่หนีไปไหน ขณะที่ คสช. จะหมดอำนาจก้าวลงจากตำแหน่งช่วงเดือน พ.ค. คาบเกี่ยวกับตอนมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต้นเดือน มิ.ย. 2562 (อ่านประกอบ : ปฏิทินการเมืองฉบับ‘วิษณุ’ ปลดล็อค ธ.ค.-เลือกตั้ง 24 ก.พ.-ได้ครม.ใหม่ มิ.ย. 62)
เมื่อปฏิทินดังกล่าว ‘คลอด’ ออกมาจากปาก ‘ซือแป๋กฎหมาย’ อย่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้พรรคการเมืองยิ่งคึกคัก เดินเกมประสาน ‘สิบทิศ’ ดีลทุกขั้วการเมืองให้มาล่มหัวจมท้ายกันในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันที่ 26 พ.ย. 2561 หากรอหลังจากนี้ จะไม่สามารถลงสมัคร ส.ส. ได้ตามกฎหมาย เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขเป็นสมาชิกพรรคครบ 90 วัน
ท่ามกลางการขับเคลื่อนกันของ 2 กลุ่มการเมืองในภาพใหญ่ ได้แก่ ฝ่ายเอาประยุทธ์ สู้กับฝ่ายไม่เอาประยุทธ์ เครื่องกำลังร้อนได้ที่ เดินเกมขับเคี่ยว ‘พลังดูด’ อดีต ส.ส.เกรดเอบวก และเกรดเอ มาลงพื้นที่สู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ขณะนี้เริ่มเห็นภาพกันอย่างชัดเจนมากขึ้นแล้วว่า ใครอยู่กลุ่มไหนบ้าง ?
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ย. 2561 พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นักการเมืองรุ่น ‘ลายคราม’ อดีตผู้จัดการรัฐบาล ‘พรรคสีฟ้า’ เปิดที่ทำการพรรคอย่างเป็นทางการ บริเวณซอยรัชดาภิเษก 26 ถ.รัชดาภิเษก ใกล้กับธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ มีพรรคการเมืองหลายแห่งตบเท้าเข้ามาร่วมยินดีกับ ‘กำนันสุเทพ’ จำนวนไม่น้อย
พรรคที่มาไม่เหนือความคาดหมาย เนื่องจากถูกตั้งข้อสังเกตว่าอยู่ ‘ฝ่ายเอาประยุทธ์’ มาโดยตลอด เช่น พรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งนายทะเบียนพรรคพร้อมคณะมาเป็นตัวแทน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ส่งตัวแทนมาร่วมยินดี และมอบดอกไม้ด้วย แบ่งเป็นกลุ่มหนุนนายอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ส่วนแกนนำปีก กปปส. ภายในพรรคมีนายถาวร เสนเนียม มาด้วยตัวเอง
ที่ ‘เซอร์ไพรส์’ คือ ตัวแทนพรรคชาติพัฒนา นำโดยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ นักการเมืองดังโคราช สายตรง ‘ลิปตพัลลภ’ มาร่วมยินดีด้วย โดยมาถึงเป็นพรรคแรก นับเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองครั้งแรกของพรรคนี้ จากก่อนหน้านี้ที่ยัง ‘แทงกั๊ก’ อยู่ ?
ท่ามกลางความชื่นมื่นของฝ่ายเอาประยุทธ์ (ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ ที่อยู่ระหว่างเลือกหัวหน้าพรรค รอกำหนดทิศทางหลังจากนี้) ข้ามฟากเมืองมาที่ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ที่ทำการ ‘พรรคสีแดง’ พรรคเพื่อไทย ค่อนข้างเงียบเหงา และระส่ำระส่ายพอสมควรในช่วงเวลานี้
ก่อนหน้านี้ช่วงเดินเกมหาช่องโหว่แก้จุดบอดในรัฐธรรมนูญปี 2560 ใช้ยุทธศาสตร์ ‘แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย’ งัดกลวิธี ‘แยกกันเดิน-ร่วมกันตี’ แบ่งกลุ่มขั้วไปสังกัด ‘พรรค 3 เพื่อ’ ได้แก่ เพื่อไทย-เพื่อธรรม-เพื่อชาติ ดัน ‘คุณหญิงหน่อย’ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ขึ้นเป็นผู้นำพรรคในตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ฯ ส่วน พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นหัวหน้าพรรคเต็มตัว ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ‘เจ๊ใหญ่’ แห่ง ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ ไฟเขียว
แต่ผ่านมาประมาณ 2 สัปดาห์เศษ เกมเริ่มเปลี่ยน เหมือน ‘คนแดนไกล’ ไม่โอเคกับ ‘แผน A’ เดินหมากใหม่ใช้ ‘แผน B’ โดยมีกรณีเสี่ยงถูกยุบพรรคจ่อคอหอยอยู่ เทคโอเวอร์พรรคไทยรวมพลัง แปลงโฉมเป็นพรรคไทยรักษาชาติ อักษรย่อ ทษช. ที่ถูกหลายฝ่ายในสังคมตั้งข้อสังเกตว่า มาจาก ‘ทักษิณชัวร์’ หรือ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ว่ากันว่ามาจากการตั้งของนักการเมืองชื่อดังที่ต้องการให้ประชาชนเห็นแล้วจำได้ทันทีว่าพรรคนี้ยี่ห้อ ‘ชินวัตร’ ?
ดัน ‘ลูกเจ๊เบียบ’ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น เพื่อไทย มาเป็นหัวหน้าพรรค มีนายมิตติ ติยะไพรัช บุตรนายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นเลขาธิการพรรค ส่วน ‘บิ๊กเนม’ ได้แก่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สายตรง ‘เจ๊รอง’ แห่ง ‘บ้านวงศ์สวัสดิ์’ ส่วนที่เหลือเป็นมือไม้ของ ‘เฮียเพ้ง’ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล เป็นต้น
ที่น่าสนใจคือมีบรรดาลูกหลาน ‘สายตรง’ พี่-น้อง ‘ทักษิณ’ ในตระกูลชินวัตร เช่น นายฤภพ ชินวัตร บุตรนายพายัพ ชินวัตร และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ บุตรนางเยาวเรศ ชินวัตร มาด้วย และยังมีบุตร-หลานนักการเมืองดังในซีก ‘สีแดง’ ตบเท้าเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
ท่ามกลางกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทย ‘แพแตก’ แกนนำชื่อดังหลายคนเตรียมย้ายซบ ทษช. ไม่ว่าจะเป็นนายจาตุรนต์ ฉายแสง นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เป็นต้น ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการ และนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ แกนนำทีมยุทธศาสตร์ภาคอีสาน ที่มีชื่อในโผย้ายซบ ทษช. ต่างออกมาปฏิเสธ ‘คอนเฟิร์ม’ อยู่กับเพื่อไทยเหมือนเดิม
เบื้องหลัง ‘แผน B’ นี้ว่ากันว่า เพื่อป้องกันไม่ให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบจากแนวโน้มที่แกนนำหลายคนประเมินว่า ‘สุ่มเสี่ยง’ ไม่น้อย ขณะเดียวกันมีแกนนำบางคนไม่ค่อยลงรอย ‘คุณหญิงหน่อย’ ที่ปรับแผนบริหารพรรคใหม่โดยไม่ประนีประนอมกับแกนนำคนอื่น ๆ จึงเปลี่ยนแผนใหม่ใช้สูตร 250+100 นั่นคือ พรรคเพื่อไทยส่ง ส.ส. ลง 250 เขต (จากทั้งหมด 350 เขต) เพื่อจะได้ไม่ต้องแย่งชิงพื้นที่เขตกับพรรคเครือข่ายอื่น ๆ ส่วนอีก 100 คือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะได้จากพรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเครือข่าย
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อธรรม ที่ตอนแรกชูให้เป็นหนึ่งใน ‘พรรคสาขา’ กลับถูกลดเกรดเหลือแค่ ‘พรรคสำรอง’ เพื่อให้อดีต ส.ส. ย้ายไปอยู่หากสัญญาณ ‘ยุบเพื่อไทย’ ชัดเจน ดังนั้นตอนนี้จึงไม่เคลื่อนไหวอะไรมาก ส่วนพรรคเพื่อชาติที่มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นแกนนำ ว่ากันว่า ภายหลังนายจตุพร ได้ออกจากเรือนจำ ท่าทีเริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นไปได้ว่า พรรคเพื่อชาติ แม้มีจุดร่วมเดียวกันกับพรรคเพื่อไทย แต่คงสั่ง ‘ซ้ายหัน-ขวาหัน’ ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ?
ท่ามกลางความระส่ำระส่ายของฝ่ายไม่เอาประยุทธ์ ข้ามฟากมาที่ ถ.พระราม 6 ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ (9 พ.ย. 2561) จะประกาศผลการชิงหัวหน้าพรรค โดยมี 2 คู่ชิงดำที่ค่อนข้างสูสี ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าเก่า และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ส่วนนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรค ว่ากันว่า ต้องการกลับเข้าพรรคเท่านั้น โดยผลการเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้จะกำหนดทิศทางการเมืองของพรรคได้ว่าจะเลือกอยู่กับฝ่ายไหน
ส่วนท่าทีพรรคขนาดกลางที่น่าสนใจ 2 พรรค ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคภูมิใจไทย ยังคงได้ ส.ส.เกรดเอ เข้าพรรคอย่างต่อเนื่อง ว่ากันว่าเกิดจากการฝากของ ‘บิ๊กลายพราง’ ในหลายพื้นที่ เพื่อต้องการให้ 2 พรรคนี้ โหวตหนุน ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และตัดกำลังฝ่ายไม่เอาประยุทธ์อีกทางหนึ่งด้วย เรียกว่าได้ 2 ต่อ ?
ท้ายที่สุดจะเป็นไปตามสูตรนี้หรือไม่ คงต้องรอติดตามกันในช่วงเดือนเศษต่อจากนี้ !
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
เช็คลิสต์ หน.-กก.บริหารพรรคใหม่ ฝ่ายเอา-ไม่เอาประยุทธ์คึกคัก-พวกแทงกั๊กยังนิ่ง?
ปฏิบัติการเด็ดปีก‘ชินวัตร’หน 3 ประเมินผลกระทบยุบ‘เพื่อไทย’คุ้มหรือเสียของ?
ย้อนตำนานพรรคเสียงข้างน้อยตั้ง รบ. แต่ไม่รอด-โมเดลปูทาง‘บิ๊กตู่’นั่งนายกฯอาจซ้ำรอย?
เช็คท่าที‘พรรคปลาไหล’ วิกฤติ‘ชาติไทย’ ในวันไร้‘บรรหาร’-‘ภูมิใจไทย’ มาแรง?
พลิกปูมความขัดแย้ง นปช.-เพื่อไทย ‘ตู่’หัก‘เต้น’ เซ่นยุทธศาสตร์ ‘พรรค 3 เพื่อ’?
เช็คยอดเงินบริจาคพรรคการเมือง 4 ปี ปชป. 28 ล.-พท. 3.6 ล. ห่างกันหลายเท่าตัว?
‘ประยุทธ์-สมชาย-ชวน’ 3 แคนดิเดตนายกฯไทยในการเลือกตั้งใต้ปีก คสช.
จับสัญญาณ‘กลุ่มสามมิตร’ไม่ลงรอย ‘พลังประชารัฐ’ แตกหักจริงหรือกลการเมือง?
โมเดล‘เพื่อไทย-เพื่อธรรม’วางหมากสู้ คสช. ยุทธศาสตร์‘ชินวัตร’แยกกันเดิน-ร่วมกันตี?
พรรคเพื่อธรรมมาแล้ว! ‘สมพงษ์’นั่งหัวหน้า-‘นลินี’รอง หน.
กางแผนสกัด คสช.สืบทอดอำนาจ-ความเป็นไปได้ พท.กอดคอ ปชป. ตั้ง รบ.แห่งชาติ?
เปิดสูตรฝ่ายเอา vs ไม่เอา‘บิ๊กตู่’ ตัวแปรคนนั่งเก้าอี้ หน.ปชป.-พท.มืดแปดด้าน?
กางสูตรเลือก หน.พรรค-นายกฯ‘เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์’ เป็นไปได้ไหมร่วมมือกันตั้ง รบ.?
ทำความรู้จัก‘พรรคเพื่อธรรม’หลัง‘เจ๊แดง’รีแบรนด์ดิ้ง-เหตุผล‘ชินวัตร’มีพรรคอะไหล่?
งดไพรมารีโหวต!คสช.คลายล็อคพรรคการเมือง-ห้ามใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์หาเสียง
กกต.ประกาศแล้วจำนวน ส.ส. 77 จังหวัด - กรุงเทพฯ 30 โคราช 14 เชียงใหม่ 9 คน
ตามไปดู กม.ลูก ส.ส.-ส.ว.เลือกตั้งเมื่อไหร่ วุฒิสมาชิกสรรหายังไง-กองทัพจอง 6 ที่
มีผลแล้ว!กม.ลูก ส.ส.-ส.ว. ขีดเส้น กกต. 150 วันกำหนด ลต.-คสช. ตั้ง กก.สรรหา ส.ว.