ศรีสุวรรณ ลุยยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินส่งศาลปค.ปมทร.ลงนามจีทูจีซื้อเรือดำน้ำจีนขัดกม.
ศรีสุวรรณ จรรยา แจ้งสื่อลุยยื่นผู้ตรวจการเงินแผ่นส่งศาลปกครองพิจารณาปมจัดซื้อเรือดำน้ำจีน 8 พ.ค.นี้ หลังทร.ลงนามจีทูจีแล้ว ยกประเด็นเข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 23 พ.ร.บ.วิธีงบประมาณ พ.ศ.2502 ก่อหนี้ผูกพัน 7 ปี ต้องขอให้ ครม. อนุมัติภายใน 60 วัน ยันต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา หรือ สนช.-พร้อมเปิดให้ปชช.มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นก่อน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในช่วงเย็นวันที่ 7 พ.ค.2560 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ส่งหนังสือแจ้งสื่อมวลชนว่า ในวันที่ 8 พ.ค.2560 นี้ เวลา 10.00 น. จะเข้ายื่นจะเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีเสนาธิการทหารเรือในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดซื้อเรือดำน้ำจีนได้เดินทางไปลงนามในสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำ S26T จากบริษัท CSOC รัฐวิสาหกิจของกระทรวงกลาโหมจีน แบบ G to G ไปแล้วเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า กรณีดังกล่าวเป็นการเร่งรีบไปลงนามเซ็นต์สัญญาโดยไม่คำนึงถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชนถึงความไม่เหมาะสมในช่วงที่ประเทศไทยอยู่ในภาวะข้าวยากหมากแพงสถานะทางการเงินและสถานภาพทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำรวมทั้งอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของ สตง. ด้วย อีกทั้งการดำเนินการดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 23 แห่งพ.ร.บ.วิธีงบประมาณ พ.ศ.2502 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2503 ซึ่งเป็นการก่อหนี้ผูกพัน 7 ปีที่จะต้องขอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติภายใน 60 วันนับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 คือภายใน 30 พฤศจิกายน 2559แต่คณะรัฐมนตรีเพิ่งมาอนุมัติให้มีการจัดซื้อได้เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560 จึงอาจเข้าข่ายขัดหรือแย้งต่อกฎหมายดังกล่าว
นอกจากนั้นการลงนามซื้อเรือดำน้ำเป็นไปในแบบ G to G ซึ่งจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ 2560 เสียก่อนโดยต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาหรือ สนช. และเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเสียก่อนกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อเสนาธิการทหารเรือไปลงนามในสัญญาดังกล่าวแล้วจึงเข้าข่ายเป็น “การกระทำอื่นใดของหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย”
ดังนั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จำต้องทำความจริงให้ปรากฏโดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา231(2) ของรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อขอให้เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครองพิจารณาโดยไม่ชักช้า
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายปรีชา สุวรรณทัต อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายงบประมาณ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว อิศรา www.isranews.org ถึงกรณีพล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ และคณะ จะเป็นผู้แทนผบ.ทร. เดินทางไปลงนามข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำ ลำที่ 1 ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล(จีทูจี) กับประเทศจีน ณ กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 4-7 พ.ค. 2560 นี้ ว่า การทำสัญญาดังกล่าว อาจเข้าข่ายสัญญาตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา 178 เรื่องการทำสัญญากับนานาประเทศหรือกับองค์การระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นสัญญาระหว่างรัฐต่อรัฐ และยังได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า ที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสัญญาตามกฎหมายวิธีการงบประมาณ ซึ่งเกี่ยวกับการก่อหนี้ผูกพันตามมติคณะรัฐมนตรีดังนั้นก่อนเซ็นสัญญาต้องมีการเสนอเรื่องให้สภาฯ พิจารณาเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญก่อน ถ้าไม่เห็นชอบสัญญาอาจจะตกเป็นโมฆะได้
นายปรีชา ยังระบุด้วยว่า หากเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่มั่นใจ ก็สามารถที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมวินิจฉัยได้ ว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายสัญญาตามมาตรา 178ของรัฐธรรมนูญหรือไม่
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 178 ระบุไว้ว่า พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอํานาจในการทําหนังสือสัญญา
สันติภาพสัญญาสงบศึก และสัญญาอื่นกับนานาประเทศหรือกับองค์การระหว่างประเทศหนังสือสัญญาใดมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขตซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอํานาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา และหนังสือสัญญาอื่นที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม หรือการค้าหรือการลงทุนของประเทศอย่างกว้างขวางต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา ในการนี้รัฐสภาต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่อง หากรัฐสภาพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในกําหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบ
หนังสือสัญญาอื่นที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม หรือการค้าหรือการลงทุนของประเทศอย่างกว้างขวางตามวรรคสอง ได้แก่ หนังสือสัญญาเกี่ยวกับการค้าเสรีเขตศุลกากรร่วมหรือการให้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติหรือทําให้ประเทศต้องสูญเสียสิทธิในทรัพยากรธรรมชาติทั้งหมดหรือบางส่วน หรือหนังสือสัญญาอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติให้มีกฎหมายกําหนดวิธีการที่ประชาชนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและได้รับการเยียวยาที่จําเป็นอันเกิดจากผลกระทบของการทําหนังสือสัญญาตามวรรคสามด้วย
เมื่อมีปัญหาว่าหนังสือสัญญาใดเป็นกรณีตามวรรคสองหรือวรรคสามหรือไม่คณะรัฐมนตรีจะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็ได้ ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคําขอ
(อ่านประกอบ : ปรีชา ชี้สัญญาเรือดำน้ำจีนอาจเข้าข่าย รธน.มาตรา 178 เสี่ยงโมฆะ-ทร.ลงนามจีทูจีแล้ว)
อ่านประกอบ :
สำนักงบประมาณ ยันจัดซื้อ 'เรือดำน้ำ' ก่อหนี้ผูกพันข้ามปี ไม่ขัด กม.
ปัดผล ปย.แอบแฝง! ทร.แจงปมซื้อเรือดำน้ำจีน 3.6 หมื่นล.-ลั่นไม่เบียดบังงบอื่น
ฉบับเต็ม! ทร.แจงทำไมไทยต้องมีเรือดำน้ำ "รักษาผลประโยชน์ชาติทางทะเล"
สารพัดเหตุผล ทร.แจงทำไมไทยต้องมีเรือดำน้ำ-ปัดเป็นภาระประเทศ
ฝากคำถามให้กองทัพเรือ กรณีเรือดำน้ำ
เปิดตัวเบื้องหลังความสำเร็จแห่งการ “ดำ” อย่างโปร่งใส
'ศรีสุวรรณ'อ้างฝ่ายมั่นคงห้ามยื่นสอบปมซื้อเรือดำน้ำจีน 3.6 หมื่นล.-สตง.รับลูกลุยต่อ
ยกเหตุป้องเงินภาษีปชช.! ศรีสุวรรณ ยื่นสตง.สอบครม.อนุมัติซื้อเรือดำน้ำจีน
ทำตามขั้นตอนไม่น่ามีอะไรสงสัย!‘บิ๊กป้อม’ แจงปมซื้อเรือดำน้ำ-ไม่แถลงเพราะเรื่องลับ
แหล่งข่าวทัพเรือเผย "ต้องเรือดำน้ำจีนเพราะสัญญาณจากผู้มีอำนาจเหนือ ทร."
พล.ท.สรรเสริญ ยอมรับ 'เรือดำน้ำจีน' ผ่าน ครม.เเล้ว
โครงการเรือดำน้ำ (จีน) การแข่งขันที่โปร่งใสยุติธรรมจริงหรือ?
คนพวกนี้ใช้ไม่ได้! นายกฯขออดีตทหารอย่าพูดทำลายกองทัพปมซื้อเรือดำน้ำ
ไร้คนจาก รบ.เข้ามากอบโกย! นายกฯชี้ต้องเข้าใจซื้อเรือดำน้ำ-ใครจะหน้าด้านโกง
ยังไม่ชงจัดซื้อเรือดำน้ำ 1.3 หมื่นล.เข้า ครม.! ‘บิ๊กป้อม’เผยอยู่ระหว่างประสานจีน
ล้วงเหตุผล ทร.ซื้อเรือดำน้ำ ป้องกันความมั่นคงทางทะเล-ไฉนทำจีทูจีจีน?
ทำจีทูจีจีน! เสธ.ทร.ไฟเขียวซื้อเรือดำน้ำ 1.3 หมื่นล.ชง กห.เสนอ ครม.อนุมัติ
เพื่อชาติและราชนาวีไทย... อย่าซื้อเรือดํานํ้าตอนนี้เลย
แฉปม 'ฮั้ว' ?...ทัพเรือเลือกเรือดำน้ำจีน S26T
หมายเหตุ : ภาพประกอบเรื่องจาก ไอ.เอ็น.เอ็น.