ได้เห็นกิจกรรม Thailand : Pray for South Korea ที่เครือเนชั่นจัดขึ้นเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ที่ดาวน์ทาวน์สตูดิโอ สยามดิสคัฟเวอรี เพื่อส่งแรงใจให้ชาวเกาหลี โดยเฉพาะครอบครัวญาติพี่น้องของนักเรียนหลายร้อยชีวิตที่ประสบภัยเรือเฟอร์รีอับปาง ซึ่งขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นกว่าร้อย และยอดผู้สูญหายยังอยู่ที่กว่า 200 รายแล้ว รู้สึกเศร้าสลดอย่างบอกไม่ถูก และยิ่งทำให้คิดว่าเหตุใดปีนี้จึงมีแต่เรื่องร้ายๆ
เหตุคาร์บอมบ์และโชเล่ย์บอมบ์ (ระเบิดที่บรรทุกในมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง) กลางเมืองยะลา 2 ใน 4 จุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 เม.ย. และอาฟเตอร์ช็อคอีก 3 ลูก ซึ่งเป็นระเบิดแบบตั้งเวลา เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 7 เม.ย. ทำให้สังคมไทยตื่นจากภวังค์ความขัดแย้งทางการเมือง หันไปดูสถานการณ์ที่ปลายขวานกันอย่างจริงๆ จังๆ อีกครั้ง
คำพิพากษาของศาลในคดีอุ้มฆ่า นายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจเจ้าของบริษัทจัดหาแรงงานชาวซาอุดิอาระเบีย ที่ให้ยกฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมพวกรวม 5 คน ที่ตกเป็นจำเลยนั้น เหตุผลโดยรวมที่ศาลใช้ในการพิพากษา คือ "พยานหลักฐานยังไม่อาจรับฟังได้อย่างมั่นคงเพียงพอ" โดยเฉพาะกับข้อกล่าวหาที่มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตเช่นนี้
ไม่ผิดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมาบอกทำนองว่าตนเองมีสิทธิ์ส่งใครลงไปเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อรับผิดชอบภารกิจดับไฟใต้ก็ได้ เพราะท่านเป็น ผบ.ทบ.
ผมลองคิดแทนขบวนการแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ว่า ถ้าเป็นพวกเขาจะคิดกันอย่างไรในวันที่เห็นเมืองไทยทะเลาะกันไม่เลิก ชุมนุมประท้วงกันมา 3-4 เดือนแล้ว รัฐบาลแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ทุกอย่างหยุดชะงักไปหมด รวมทั้งการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ทั้งๆ ที่ยังมีคนตายแทบทุกวัน
เหตุการณ์วุ่นวายที่มัสยิดบ้านสุโส๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งกำลังตกเป็นหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่นั้น เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.
ในที่สุดรัฐบาลรักษาการของคุณยิ่งลักษณ์ ก็ตัดสินใจใช้บริการ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในการคลี่คลายสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ปิดกรุงเทพฯ หรือ "ชัตดาวน์ แบงค็อก" ของกลุ่ม กปปส.ที่รัฐบาลมองว่าเป็นการชุมนุมที่เกินขอบเขตและละเมิดสิทธิผู้อื่น
วิกฤตการณ์ทางการเมืองที่รุมเร้ารัฐบาลในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2556 เป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งว่ารัฐบาล (หรืออาจจะสังคมไทยส่วนใหญ่ด้วย) ไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในฐานะที่เป็น "วาระแห่งชาติ" อย่างแท้จริงเลย
รัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่มาได้ 2 ปีเศษก็ถูกปลุกม็อบไล่ งานนี้โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองที่ไปผลักดันร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ “ฉบับสุดซอย-ทะลุซอย” ล้างผิดเหมาเข่งย้อนหลังไปร่วม 10 ปี ไม่กำหนดรูปแบบคดีความผิดยิ่งกว่าเซ็น "เช็คเปล่า" แม้ภายหลังรัฐบาลจะรู้ตัวและ "ประกาศถอย" แต่ก็สายไปเสียแล้ว
คดีใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้ไม่ดังเท่าคดีฆ่า "เอ็กซ์ นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย" แต่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือ คดีกองปราบโชว์ผลงานจับ "แก๊งปล้นเรือขนเงิน" มูลค่าถึง 119 ล้านบาท เหตุเกิดช่วงต้นเดือน ต.ค.ในทะเลอ่าวไทย พื้นที่ต่อเนื่องระหว่าง จ.สงขลา กับ ปัตตานี