การเมือง-รัฐไทย-ไฟใต้
ผมลองคิดแทนขบวนการแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ว่า ถ้าเป็นพวกเขาจะคิดกันอย่างไรในวันที่เห็นเมืองไทยทะเลาะกันไม่เลิก ชุมนุมประท้วงกันมา 3-4 เดือนแล้ว รัฐบาลแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ทุกอย่างหยุดชะงักไปหมด รวมทั้งการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ทั้งๆ ที่ยังมีคนตายแทบทุกวัน
สัปดาห์หน้า ดาโต๊ะซัมซามิน ผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยกับบีอาร์เอ็น จะมาเมืองไทยและพบปะสื่อมวลชนไทยเป็นครั้งแรก เพื่อพูดถึงผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปีของการพูดคุยสันติภาพ (ลงนามวันที่ 28 ก.พ.56) แต่ไม่รู้จะเป็นเวทีที่ทำให้ไทยเสียหน้ามากขึ้นไปอีก แล้วมาเลเซียยิ่งได้หน้าหรือไม่ เพราะปัญหาสำคัญที่ทำให้การพูดคุยสะดุดไป คือ ปัญหาการเมืองภายในและความไร้เอกภาพของหน่วยงานความมั่นคงของไทยเอง
อดคิดไม่ได้ว่าท่าทีของมาเลเซียต่อเรื่องนี้มีจุดประสงค์ใดกันแน่ เพราะก่อนหน้านี้ (ธ.ค.56) บีอาร์เอ็นออกแถลงการณ์ชัดเจนว่าไม่คุยกับไทยแล้ว ขณะที่ฝ่ายไทยก็มีปัญหาการเมืองอย่างหนัก ยังไม่มีรัฐบาล มีแต่รัฐบาลรักษาการ จะไปคุยต่อก็ไม่ได้ เนื่องจากหากไปตกลงอะไรก็ย่อมเป็นผลผูกพันรัฐบาลชุดหน้า ก็เลยน่าคิดว่า ดาโต๊ะซัมซามิน จะมาแถลงเพื่ออะไร
ผลการพูดคุยอย่างเป็นทางการ 3 ครั้งในปีที่แล้วก็ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรมากมาย ที่เป็นความคืบหน้ามากที่สุดก็คือการลดความรุนแรงร่วมกันช่วงเดือนรอมฎอน แต่ก็ไม่ปรากฏผลสำเร็จ สรุปก็คือการพูดคุยที่จะนำไปสู่มรรคผลจริงๆ ยังไม่ทันตั้งไข่ด้วยซ้ำ
ที่ผ่านมามีป้ายผ้าเย้ยหยันสาปแช่ง "รัฐไทย" หรือ "สยาม" จากกลุ่มต่อต้านรัฐที่เคลื่อนไหวอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำนองว่า...รัฐไทยกำลังล้มละลาย ปกครองตัวเองยังไม่ได้ แล้วจะมาปกครองปัตตานีได้อย่างไร...ไม่ว่าเราจะเรียกพวกเขาว่าโจร คนร้าย หรือพวกจ้องแบ่งแยกดินแดน แต่เนื้อความบนป้ายผ้าก็น่าหยิบมาพิจารณา
สามจังหวัดใต้ที่ถูกรัฐไทยใช้วัฒนธรรมไทยภาคกลางกดทับเขามาตลอด วันนี้เขาติดป้ายผ้าเย้ยหยัน ข้อความบนป้าย ถ้าไม่มองอย่างอคตินักก็ต้องบอกว่าเป็นความจริง
ขณะที่ปัญญาชนและเยาวชนคนรุ่นใหม่ในพื้นที่กำลังใช้โซเชียลมีเดียเผยแพร่แนวคิด ประชามติกำหนดใจตนเอง หรือ Self-determination เพื่อขอสิทธิทางการปกครองอย่างกว้างขวาง แล้วรัฐไทยทำอะไรกันอยู่
ที่อธิบายมาทั้งหมดนี้เป็นการเขียนบนฐานความเข้าใจของความเหนื่อยยากของพี่น้องทหารและเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยต่างๆ ที่พยายามลงไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่ สถาปนาสันติสุขให้เกิดขึ้น แต่รัฐไทยในความหมายของ "ผู้มีอำนาจ" ในความหมายของ "รัฐบาล" ไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่าสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ สงครามที่ปลายขวานเกิดมา 10 ปีแล้ว แต่ความรุนแรงนับวันยิ่งมากขึ้น สงครามข่าวลือก็ยังเพลี่ยงพล้ำ การเจรจาก็ล้มไม่เป็นท่า ไม่มีความเป็นเอกภาพ ไม่มีความพร้อมอะไรทั้งนั้น
หลายเรื่องกลายเป็นความลักลั่นและซ้ำเติมปัญหาให้หนักขึ้นไปอีก เช่น ในขณะที่ระดับนโยบายไปเดินสายพูดคุยกับแกนนำขบวนการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งบางคนก็มีหมายจับ แต่ระดับปฏิบัติก็ตะลุยปิดล้อม ตรวจค้น วิสามัญฯ ศาลสั่งลงโทษจำคุกอดีตเยาวชนที่ถูกอ้างว่าเข้าร่วมขบวนการ ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานว่าเคยฆ่าทำร้ายใคร สุดท้ายกลายเป็นประเด็นทางความรู้สึกที่ร้าวลึกไปทั่ว
วันนี้เมื่อการเมืองมีปัญหา ผู้มีอำนาจทะเลาะกันจนไม่มีใครสนใจภาคใต้มา 3-4 เดือนแล้ว ไม่มีรัฐมนตรีลงไป ไม่ใช่แค่รัฐบาล แต่ฝ่ายค้านที่มีฐานเสียงอยู่ที่นั่น ผู้หลักผู้ใหญ่ของฝ่ายค้านที่เคยลงไปก็เงียบหายไม่ต่างกัน
เวที กปปส.หลายต่อหลายครั้งหยิบเอาคลิปเหตุการณ์ตากใบมาฉายซ้ำ กล่าวหาอีกฝ่ายว่าฆ่าประชาชน แต่ถามว่าได้แก้อะไรให้คนที่นั่นบ้างไหม ตั้งแต่เกิดเรื่องปี 47 ถึงปัจจุบัน ฝ่ายที่สนับสนุน กปปส.ก็เป็นรัฐบาลมาแล้วเหมือนกัน แล้วทำไมถึงไม่แก้ ดีแต่ใช้เป็นเครื่องมือการเมืองเล่นงานฝ่ายตรงข้าม
ถ้าเร็วๆ นี้สามจังหวัดใต้มีการส่งคนไปยึดศาลากลางบ้าง จะไล่ยิงเขาไหม ถ้าเขาขอสิทธิปกครองตัวเองบ้าง โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลไทยไม่เหลียวแล มีแต่ข้าราชการประจำทำงานไปวันๆ แต่ก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ จะตอบเขาอย่างไร
เตรียมคำตอบกันเอาไว้บ้างน่าจะดี!
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ป้ายผ้าที่ถูกนำไปติดในหลายพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื้อความระบุทำนองว่า สยามปกครองประเทศตัวเองยังไม่ได้เลย แล้วจะปกครองคนมลายูปาตานีได้อย่างไร