หลายคนอาจไม่รู้จัก "ไอโอ" แต่ตัวย่อสั้นๆ นี้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในหมู่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และแท้ที่จริงแล้วไอโออยู่รอบตัวเรา กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันอย่างแยกไม่ออก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นดั่ง "สมรภูมิ" อย่างสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ไม่ทราบว่า คสช. กองทัพ และรัฐบาลเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าที่ไปใช้วิธีจับกุมบุคคลที่เดินเท้ารณรงค์เพื่อการปฏิรูป และแทรกแซงสื่อที่จัดเวทีรับฟังเสียงประชาชน
ช่วงปลายเดือน ต.ค.เป็นช่วงเวลาของการรำลึกถึงความสูญเสียที่เกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้...
เกิดกรณี "เสี่ยโจ้" มาหลายวัน แต่ดูจะยังไม่มีท่าทีใดๆ จาก คสช. รัฐบาล หรือแม้แต่ ผบ.ตร.ในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตรง (ล่าสุดมีเพียงว่าที่ รองผบ.ตร.จักรทิพย์ ชัยจินดา ออกมาบอกว่า "เสี่ยโจ้" น่าจะหนีออกนอกประเทศไปแล้ว)
เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.มีประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ ประเด็นที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงนัก คือ จำนวนนายพลตามบัญชีที่มีมากถึง 1,092 คน
ช่วงมีข่าวสารความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับชายแดนใต้ให้ได้ลุ้นกันแทบทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องการขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่หลายฝ่ายจับตามองกันอยู่
รายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ออกโทรทัศน์ชี้แจงความคืบหน้าการทำงานต่อประชาชนคนไทยในทุกๆ สัปดาห์นั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าระยะหลังมีการพูดถึงปัญหาภาคใต้มากขึ้น
ไฟใต้ที่ปะทุคุโชนรอบล่าสุดที่กำหนดหมุดหมายกันตั้งแต่เหตุปล้นปืนวันที่ 4 ม.ค.2547 นับถึงวันนี้ก็ล่วงเลย 10 ปีมาแล้ว แต่น่าแปลกที่กระบวนการนับ "สถิติเหตุรุนแรง" และ "ผู้สูญเสีย" กลับยังไม่เป็นระบบระเบียบหรือมีมาตรฐานเพียงพอ
ก่อนอื่นต้องกล่าวขออภัยการนำเสนอข้อมูลของศูนย์ข่าวอิศราเกี่ยวกับเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ของ อ.เบตง จ.ยะลา ก่อนจะมีคาร์บอมบ์กลางเมืองเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ก.ค.57