'ปิยบุตร' มั่นใจ 'ธนาธร' ไม่หนีคดีไปตปท.-แจง4ประเด็นโต้กกต.โอนหุ้นจบแล้วตั้งแต่ 8 ม.ค.

เขียนวันที่

วันจันทร์ ที่ 08 กรกฎาคม 2562 เวลา 15:44 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ข่าว | Isranews | ข่าวบุคคลดัง | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

ถือหุ้นสื่อ | ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ | ปิยบุตร แสงกนกกุล

'ปิยบุตร' มั่นใจ 'ธนาธร' ไม่หนีคดีไป ตปท.ตามข่าวลือ ชี้หากใช้มาตรฐานพิจารณาคดีแบบเดียวกับ 'ดอน' ควรอ่านคำพิพากษาตอนสิ้นเดือน ก.ย. แจง 4 ประเด็นแสดงความบริสุทธิ์ กกต.ไม่มีอำนาจพิจารณา หากยึดตาม ม.1129 โอนหุ้นจบแล้ว ตั้งแต่ 8 ม.ค.62

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 ก.ค.2562 ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เปิดแถลงข่าวความคืบหน้าการต่อสู้คดีการถือครองหุ้นสื่อในบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าอนาคตใหม่

โดยนายปิยะบุตร ได้กล่าวแสดงความมั่นใจในการต่อสู้คดีนี้ และยืนยันว่า นายธนาธร ไม่จำเป็นจะต้องหนีคดีไปต่างประเทศตามที่เป็นข่าวลืออย่างแน่นอน

ส่วนความคืบหน้าการต่อสู้คดีนั้น ภายหลังจากที่พรรคอนาคตใหม่ได้ยื่นขอขยายเวลาการชี้แจงไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ จนกระทั่งในวันนี้ (8 ก.ค.62) ซึ่งเป็นวันครบกำหนดการยื่นเอกสารชี้แจงคดีของนายธนาธร ทางด้านทีมกฎหมายของพรรคอนาคตใหม่ ได้ไปยื่นเอกสารประกอบการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 70 หน้า และเอกสารประกอบคำชี้แจงอีกกว่า 200 หน้า และยังได้เรียกร้องไปยังศาลรัฐธรรมนุญเพื่อขอให้ยกเลิกคำสั่งให้นายธนาธร ยุติการปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ส.เป็นการชั่วคราว

นายปิยบุตร กล่าวว่า ขอให้เทียบคดีนี้กับคดีการถือหุ้นของคู่สมรสของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ที่ไปยื่นเอกสารการถือหุ้นในวันสุดท้ายเหมือนกันก็คือวันที่ 7 ส.ค.2561 ต่อมาพอถึงวันที่ 29 ส.ค. 2561 ศาลก็มีมติว่านายดอนไม่ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ เพราะว่าไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ พอมาถึงเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2561 จึงได้มีการเริ่มการไต่สวนกันจนกระทั่งมีคำพิพากษาออกมาในวันที่ 31 ต.ค. 2561 ว่านายดอนไม่มีความผิด

"ถ้าเอาช่วงเวลามาเทียบเคียงกัน จะพบว่าวันที่ 8 ก.ค.ซึ่งเป็นวันวันสุดท้ายของการยื่นเอกสารของนายธนาธรนั้น หากจะใช้มาตรฐานเดียวกับนายดอน ประมาณสิ้นเดือน ก.ค. ศาลจะต้องออกมากำหนดว่าวันไหนจะเป็นวันนัดไต่สวนพยาน จากนั้นประมาณช่วงสิ้นเดือน ส.ค. ก็จะเป็นวันนัดไต่สวนพยาน ประมาณสิ้น ก.ย.ศาลก็จะวินิจฉัยคดีของนายธนาธร ถ้าหากเทียบเคียงกับกรณีของคุณดอน จึงเป็นไปไม่ได้เลยคดีของคุณธนาธรจะจบกันภายในวัน 2 วันนี้ อย่างน้อยที่สุด คดีของนายธนาธรจะได้อ่านคำวินิจฉัยกันช่วยปลายเดือน ก.ย. โดยเอาบรรทัดฐานของคุณดอนเข้ามาเปรียบเทียบกัน”นายปิยบุตรกล่าว

นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า เชื่อมั่นว่าทั้งทางนายธนาธรและทีมกฎหมายของพรรคอนาคตใหม่จะต่อสู้คดีนี้จนได้ข้อสรุปใน 4 ประเด็นดังต่อไปนี้

1.กกต.ไม่มีอำนาจ เพราะหมดเวลาการพิจารณาไปแล้วในฐานะที่นายธนาธรเป็นผู้สมัคร ส.ส. และเมื่อถึงวันที่นายธนาธรได้เป็น ส.ส. กกต.ก็ไม่สามารถพิจารณากรณีนี้ได้แล้ว เพราะนายธนาธรได้โอนหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

2.กระบวนการพิจารณาของ กกต.ไม่ถูกต้องตามรูปแบบ ไม่เคารพหลักการฟังความทุกฝ่าย ไม่เปิดให้คู่กรณีชี้แจงอย่างเพียงพอ อีกทั้งยังมีการเร่งรีบส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแบบผิดปกติ โดยมี ส.ส.จำนวนมากกว่า 100 คนที่ปรากฎว่ามีประเด็นเรื่องการถือหุ้นสื่อ แต่ปรากฏว่ามีแค่กรณีของนายธนาธรคนเดียวเท่านั้นที่ถูกส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

3.กรณีของนายธนาธรไม่มีหุ้นอีกแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. เพราะมีหลักฐานการโอนชัดเจน มีการส่งเอกสารให้ศาลรัฐธรรมนูญว่ามีการโอนหุ้นเรียบร้อย ทั้งตามข้อเท็จจริงและตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 วรรค 2 ที่ระบุว่าการโอนหุ้นจะมีผลสมบูรณ์ด้วยการลงลายมือชื่อของผู้โอน ผู้รับโอน และพยาน ซึ่งแสดงว่ามีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว และมาตรา 1129 นั้นก็มีทั้งศาลปกครองสูงสุด ศาลฎีกา และศาลรัฐธรรมนูญก็เคยเอาแนวทางนี้ไปใช้วินิจฉัยคดีด้วยกันทั้งสิ้น

4.ต่อให้เชื่อว่านายธนาธรถือหุ้นอยู่จริง แต่บริษัทวีลัคฯ ก็ไม่ได้ทำสื่อแล้ว เพราะตามสัญญาของบริษัทวีลัคฯ ที่ทำสัญญากับสายการบินนกแอร์นั้นจะพบว่าสายการบินเป็นผู้สั่งให้ผลิตคอนเทนต์ต่างๆใน จิ๊บ จิ๊บ แมกกาซีน (Nok Air's in-flight magazine) ทางบริษัทวีลัคฯ ไม่ได้เป็นผู้คิดเนื้อหาแต่อย่างใด เป็นแค่ผู้ที่รับจ้างพิมพ์เท่านั้น อีกทั้งบริษัทวีลัคฯ ก็ได้มีกระบวนการเลิกจ้างพนักงานจำนวน 140 คน เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2561 เพื่อเตรียมที่จะเลิกกิจการบริษัท โดยออกนิตยสารเป็นฉบับสุดท้ายในวันที่ 30 พ.ย. 2561 และยังได้มีการแจ้งไปยังประกันสังคมว่าจะแจ้งยกเลิกกิจการไปตั้งแต่สิ้นเดือน ม.ค. 2562

“อีกทั้ง จิ๊บจิ๊บ แมกกาซีน (Nok Air's in-flight magazine) ของบริษัทวีลัคฯ นั้นก็ไม่ได้มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเช่นกัน ดังนั้นจะตีความเจตนารมณ์ในกฎหมายว่าห้ามไม่ให้ผู้สมัคร ส.ส.ไปถือหุ้นสื่อ เพราะจะเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองนั้น ก็ต้องมาตีความด้วยว่านิตยสารฉบับนี้นั้นไม่ได้มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด”นายปิยบุตรกล่าว

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/