เปิดคำสั่งตั้ง กก.ไต่สวนคดีโรงพัก 396 แห่ง ป.ป.ช. ผู้ถูกกล่าวหา 16 ราย-นายพล ตร. 6
เปิดคำสั่งตั้ง กก.ไต่สวนข้อเท็จจริงคดีโรงพัก 396 แห่ง ป.ป.ช.ฉบับล่าสุด กก.ชุดใหญ่องค์คณะ ผู้ถูกกล่าวหา 16 ราย นักการเมือง 2 ขรก.12 นายพลตร. 6 เอกชน 2 เปลี่ยนวิธีการจ้าง ช่วยเหลือ เอื้อประโยชน์เอกชนเข้าทำสัญญาไม่ผ่าน ครม. กก.ประกวดราคาไม่ตรวจสอบ บอกเลิก
โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง โดยมีบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นคู่สัญญา วงเงิน 5,848 ล้านบาท ทำสัญญาวันที่ 25 มี.ค. 2554 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 17 มิ.ย. 2555 (สัญญาเลขที่ ยธ.13/2554) แต่ไม่แล้วเสร็จตามสัญญา กรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมารายงานอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดนำข้อมูลการไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช.มาเสนอ
คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีคำสั่งลงวันที่ 3 พ.ค.2556 ,คำสั่งลงวันที่ 29 ก.พ.2559 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหานายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 7 คน ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีคำสั่งลงวันที่ 12 ก.พ.2560 ให้ปรับเปลี่ยนจากการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนให้คณะกรรมการป.ป.ช.ทั้งคณะ เป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยมีนายสุรศักดิ์ ศิริวิเชียร และ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวน ต่อมา คณะกรรมการ ป.ป.ช.ในการประชุมเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2560, 28 ก.ย.2560 และ 17 ต.ค.2560 รับทราบการลาออกจากคณะอนุกรรรมการทุกชุดของสำนักงาน ป.ป.ช. ของ น.ส.จินดา มหัทธนวัฒน์
คณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2561 มีมติให้ไต่สวนการกระทำของคณะกรรมการประกวดราคา บริษัท พีซีซี ดิเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม 1 ราย เพิ่มเติมเนื่องจากพบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำกรณีความผิดตามข้อกล่าวหา
คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีคำสั่งเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2561 ตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ผู้ถูกกล่าวหา 16 ราย ประกอบด้วย ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2 ราย ข้าราชการตำรวจและอดีตข้าราชการตำรวจ 12 รายยศ พ.ต.ท.- 6 นายพล และเอกชนในนามนิติบุคคลและบุคคล 2 ราย
ข้อกล่าวหา
อนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดจ้างก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 แห่ง จากเดิมจัดจ้างแบบรวมการที่ส่วนกลางโดยแยกการเสนอราคาเป็นรายภาค (ภาค 1-9) จำนวนหลายสัญญา เป็นรวมจัดจ้างก่อสร้างที่ส่วนกลางในครั้งเดียวและเป็นสัญญาเดียว โดยไม่เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดจ้างก่อสร้างเสียก่อนและไม่ใช้สิทธิ์บอกเลิกสัญญา ทั้งที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการก่อสร้างไม่สามารถแล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดได้
ทั้งนี้ในคำสั่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงได้บรรยายพฤติการณ์ก็คือ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2552 คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) อาคารที่พักอาศัยและอาคารผู้ป่วยให้กับข้าราชการตำรวจ โดยทำการจัดจ้างเป็นรายภาคตามความเห็นของสำนักงบประมาณซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติขออนุมัติโครงการก่อสร้างเป็นโครงการผูกพัน 3 ปี โดยแยกการเสนอราคางบประมาณ (ภาค1-9) ต่อ รองนายกรัฐมนตรี และ อนุมัติตามที่เสนอ ต่อมา พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พ้นจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เสนอขอปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดจ้างก่อสร้างโดยเปลี่ยนเป็นวิธีการจัดจ้างก่อสร้างทุกอาคารรวมกันที่ส่วนกลางในครั้งเดียว เสนอต่อรองนายกฯอีกครั้ง ระหว่างการเสนอปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดจ้างก่อสร้าง มีกลุ่มผู้ประกอบการหลายรายยื่นหนังสือคัดค้านการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดจ้างต่อนายกรัฐมนตรี และรองนายกฯ ระบุว่า หากปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดจ้างก่อสร้างตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่และกีดกันผู้ประกอบการรายย่อยในส่วนภูมิภาค ทั้งคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้มีหนังสือแจ้งแล้วว่าหากอนุมัติให้รวมจ้างครั้งเดียวจะเป็นการกีดกันผู้ประกอบการ และขัดมติคณะรัฐมนตรี แต่ไม่รับฟัง กลับเร่งรีบอนุมัติให้ปรับเปลี่ยนวิธีการจัดจ้างก่อสร้าง จากจัดจ้างที่ส่วนกลางโดยแยกเสนอราคาเป็นรายภาค (ภาค 1-9) เป็นจัดจ้างทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียวตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
เมื่อมีการประกวดราคาโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ(ทดแทน)โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งกำหนดราคากลางไว้ที่ 6,100,538,900 บาท ผลการแข่งขันการเสนอราคาปรากฎว่า บริษัท พีซีซี ดิเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เสนอราคาต่ำสุดจำนวน 5,848,000,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำมากเกินกว่าปกติจนเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถปฏิบัติได้ และเสนอราคาเสาเข็มขนาดความยาว 21 เมตรใน ใบแสดงบริมาณงานวัสดุ (Boo) โดยรู้ว่าราคาที่เสนอนั้นต่ำมากเกินกว่าปกติ โดยมีวัตถุประสงค์เป็นการกีดกันการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม และการกระทำเช่นว่านั้นเป็นเหตุให้ไม่สามารถปฏิบัติได้ถูกต้องตามสัญญาได้ ส่วนคณะกรรมการประกวดราคามีหน้าที่ตรวจสอบว่าการเสนอราคาของผู้เข้าร่วมประกวดราคาได้ปฏิบัติถูกต้องตามเงื่อนไขการประกวดราคา รวมทั้งตรวจสอบว่าการเสนอราคาดังกล่าวมีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรมหรือไม่ กลับละเว้นไม่ตรวจสอบ จนกระทั่งวันที่ 25 มี.ค.2554 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ลงนามในสัญญาจ้าง บริษัท พีซีซีฯ ก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานตำรวจ (ทดแทน) 396 โรงพัก โดยมีกำหนดระยะเวลาก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 450 วัน
ข้อเท็จจริงปรากฎว่า บริษัท พีซีซีฯ ไม่สามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ และขอขยายระยะเวลาการก่อสร้างหลายครั้ง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการก่อสร้างตามที่ขอ อย่างไรก็ตามเมื่อขยายระยะเวลาการก่อสร้างแล้ว บริษัท พีซีซีฯ ก็ไม่สามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างได้แต่กลับละเว้นไม่ดำเนินการ เป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง
จากพฤติการณ์ข้างต้น การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นการช่วยเหลือและเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท พีซีซีฯ มีสิทธิเข้าทำสัญญากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม และเป็นการสมยอมกันในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เป็นเหตุให้ทางราชการและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
ฐานความผิด ทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2542
คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีคำสั่ง ตั้งที่ปรึกษาองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง จำนวน 3 คน แบ่งเป็นที่ปรึกษาพิเศษด้านการไต่สวนวินิจฉัยคดีประจำประธานกรรมมการ ป.ป.ช. 1 คน และที่ปรึกษาพิเศษด้านการไต่สวนวินิจฉัยคดีประจำกรรมการ ป.ป.ช. 2 คน และ พนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ จำนวน 12 คน
อย่างไรก็ตาม คำสั่งให้ไต่สวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ยังเป็นเพียงพฤติการณ์ตามข้อกล่าวหา ต้องรอดูผลการไต่สวนฯ และมติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ถึงที่สุดว่ามีผู้กระทำผิดตามที่ระบุในข้อกล่าวหาหรือไม่
อ่านประกอบ :
ขมวด 4 ปมโรงพัก 396 แห่ง สมยอม-เอื้อ บ.พีซีซีฯหรือไม่? รอดาบ ป.ป.ช.กว่าสิบคน
ชัดๆ หนังสือบิ๊ก สตช.แจ้ง บ.พีซีซีฯ รีบทำสัญญาใน 7 วัน โรงพัก 396 แห่ง
หลักฐานชิ้นสำคัญ! สตช.อนุมัติฉลุย ใช้พื้นคอนกรีต บ.เครือพีซีซี โรงพัก 396 แห่ง
ปมใหม่ ! บ.พีซีซีฯ ขออนุมัติใช้เสาเข็ม-พื้นคอนกรีต บ.ในเครือ สร้างโรงพัก 396 แห่ง
หนังสือ บ.พีซีซีฯส่งรองนายกฯ ค้านจ้างเหมาสัญญาเดียว ก่อนรวบเองโรงพัก 396 แห่ง
เปิดบันทึกที่ประชุม พล.ต.ท. ซัก -‘พิบูลย์’บ.พีซีซีฯตอบ ปมจี้ทำสัญญาโรงพัก 396 แห่ง
หนังสือเวียน‘สุภา’ ผู้รับเหมาไม่ทำสัญญา ต้องริบหลักประกัน เทียบปมโรงพัก 396 แห่ง
ใบยื่นข้อเสนอผู้รับเหมาโรงพัก 396 แห่ง หากไม่ทำสัญญาใน 7 วัน ยอมให้ริบ 314 ล.
โรงพัก 396 แห่ง ไม่ทำสัญญาใน 7 วัน ต้องริบหลักประกัน 314 ล.-แจ้งเป็นผู้ทิ้งงาน
หนังสือ สตช.ฉบับที่ 2 จี้ผู้รับเหมาโรงพัก 396 แห่งทำสัญญา ไม่มาตามนัด 2 ครั้ง
ปมโรงพัก 396 แห่ง! เปิดหนังสือ 2 ฉบับ เบื้องหลังไม่ทำสัญญาใน 7 วัน
พลิกคำชี้แจง‘สุเทพ’อนุมัติสร้างโรงพัก 5.8 พันล. ผ่าน ผบ.ตร.3 ยุค ทำตาม กม.
หลักฐานสำคัญ! หนังสือ ‘สุภา’ ติง 4 ข้อปมก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง
ปมโรงพัก 396 แห่ง ผู้ชนะต่ำกว่าราคากลาง 450 ล.-ทำสัญญาหลังประกวด 8 เดือน
เผยโฉมสัญญารับเหมาโรงพัก 396 แห่ง จ่ายเงินล่วงหน้า 877.2 ล.
เปิดคำชี้แจงผู้แทน สตช. เปลี่ยนวิธีจ้างโรงพัก 396 แห่ง ยุคปทีป - สุเทพ เห็นชอบ
เปิด 4 ข้อสังเกต กรมบัญชีกลางปมจ้างเหมาโรงพัก 396 หลัง ชัด‘ไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.’
เปิดสถานะ ผู้รับเหมาโรงพัก 396 หลัง คู่สัญญารัฐหมื่นล. ล่าสุดเหลือรายได้ 14.2 ล.