- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ปมโรงพัก 396 แห่ง ผู้ชนะต่ำกว่าราคากลาง 450 ล.-ทำสัญญาหลังประกวด 8 เดือน
ปมโรงพัก 396 แห่ง ผู้ชนะต่ำกว่าราคากลาง 450 ล.-ทำสัญญาหลังประกวด 8 เดือน
เบื้องหลังประกวดราคารับเหมาก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง 5,848 ล. เอกชนเสนอ 5 ราย บ.พีซีซีฯชนะ อ้างประหยัดงบฯแผ่นดิน 450 ล. มีผู้ร้องเรียน 1 ราย ทำสัญญาหลังวันแข่ง 8 เดือน
กรณีโครงการ การก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง โดยบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นคู่สัญญา วงเงิน 5,848 ล้านบาท ทำสัญญาวันที่ 25 มี.ค. 2554 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 17 มิ.ย. 55 (สัญญาเลขที่ ยธ.13/2554)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมารายงานไปแล้ว 3 ประเด็น
1. ข้อสังเกต 4 ข้อ ของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองปัญหาการพัสดุและการพิจารณาอุทธรณ์และคำร้องเรียนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 (อก.พอ.) ในเรื่องวิธีการคำนวณราคากลางที่ไม่สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี และ รูปแบบการทำสัญญาเป็นสัญญาฉบับเดียว เป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของระเบียบ
2.แนวทางการดำเนินการก่อสร้าง จากเดิมคณะกรรมการพิจารณาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอให้ใช้แนวทางจัดจ้างโดยส่วนกลางแบบรวมการครั้งเดียว โดยแยกการเสนอราคาเป็นรายภาค (ภาค 1-9) ได้รับความเห็นชอบจากผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร. ขณะนั้น) และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2552 แต่ก็ไม่ได้ดําเนินการ ต่อมาเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็น พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. ได้เปลี่ยนแนวทางดำเนินการจ้างก่อสร้างทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียวหรือสัญญาเดียวซึ่งรองนายกฯก็ให้ความเห็นชอบ
3.สัญญาก่อสร้าง สาระสำคัญข้อหนึ่งระบุถึงการจ่ายเงินล่วงหน้าให้เอกชน 877,200,000 บาท ซึ่งเท่ากับร้อยละ 15 ของราคาค่าจ้าง
คราวนี้มาดูขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง
ในขั้นตอนการประกวดราคา มีผู้ยื่นเอกสารประกวดราคา 5 ราย ได้แก่ บริษัท เบ็ญจมาศ จำกัด บริษัท เพาเวอร์ไลน์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชัน จำกัด (มหาชน) และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามประสิทธิ์
คณะกรรมการประกวดราคา ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆเห็นว่าเอกชนทั้ง 5 รายได้ยื่นเอกสารครบถ้วนถูกต้องตามเงื่อนไข กำหนดเสนอราคาในวันที่ 29 ก.ค.2553 ปรากฏว่า
1.บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เสนอราคา 5,848,000,000 บาท
2.ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามประสิทธิ์ เสนอราคา 6,0950,000,000 บาท
3.บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชัน จำกัด (มหาชน) เสนอราคา 6,178,000,000 บาท
4.บริษัท เพาเวอร์ไลน์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) เสนอราคา 6,295,000,000 บาท
5.บริษัท เบ็ญจมาศ จำกัด เสนอราคา 6,387,999,999 บาท
ในรายงานการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองปัญหาการพัสดุและการพิจารณาอุทธรณ์และคำร้องเรียนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 ครั้งที่ 11/2554 วันที่ 30 มิ.ย.2554 (ที่ประชุม อก.พอ.) ระบุว่า ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานในที่ประชุมว่า คณะกรรมการประกวดราคา พิจารณาเห็นควรรับราคาของบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เนื่องจากเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด และต่ำกว่าวงเงินงบประมาณ เป็นเงิน 450,000,000 บาท และต่ำกว่าวงเงินที่คณะกรรมการกำหนดราคากลางไว้เป็นเงิน 540,000,000 บาท ประหยัดงบประมาณได้ถึง 450 ล้านบาท
แต่ก่อนที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะแจ้งผลการคัดเลือกเบื้องต้น บริษัท ซินเท็คฯ ได้มีหนังสือร้องเรียนวันที่ 22 ก.ค.2553 แจ้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาเอกสารของผู้ยื่นเสนอราคาทุกรายว่าเป็นไปตามประกาศหรือไม่ ต่อมาสำนักงานฯมีหนังสือลงวันที่ 10 ส.ค.2553 แจ้งบริษัท ซินเทคฯว่า ทุกบริษัทได้กรอกปริมาณวัสดุโดยแยกรายการก่อสร้างอาคารที่ทำการขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก ครบถ้วนตามประกาศประกวดราคา จึงมีการทำสัญญา กับ บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ฯ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2554
หากพิจารณาจากช่วงเวลา น่าสังเกตว่า เอกชนเสนอราคาวันที่ 29 ก.ค.2553 ทำสัญญาก่อสร้าง 25 มี.ค.2554 หรือประมาณ 8 เดือนหลังประกวดราคา เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?
ทั้งนี้ กรณีโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 หลัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตั้งประเด็นไต่สวน 2 ประเด็น หนึ่ง ผู้เกี่ยวข้องกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือไม่ และ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง มีการเสนอราคาอย่างเป็นธรรมหรือไม่
อ่านประกอบ:
เผยโฉมสัญญารับเหมาโรงพัก 396 แห่ง จ่ายเงินล่วงหน้า 877.2 ล.
เปิดคำชี้แจงผู้แทน สตช. เปลี่ยนวิธีจ้างโรงพัก 396 แห่ง ยุคปทีป - สุเทพ เห็นชอบ
เปิด 4 ข้อสังเกต กรมบัญชีกลางปมจ้างเหมาโรงพัก 396 หลัง ชัด‘ไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.’
เปิดสถานะ ผู้รับเหมาโรงพัก 396 หลัง คู่สัญญารัฐหมื่นล. ล่าสุดเหลือรายได้ 14.2 ล.