หนังสือ บ.พีซีซีฯส่งรองนายกฯ ค้านจ้างเหมาสัญญาเดียว ก่อนรวบเองโรงพัก 396 แห่ง
พลิกหนังสือ บ.พีซีซีฯ-กลุ่มผู้รับเหมา 8 ราย ส่งถึงรองนายกฯ คัดค้านอนุมัติจ้างก่อสร้างทุกแห่งสัญญาเดียว อ้างกีดกันผู้ประกอบการ ตจว. อาจมีปัญหาล่าช้า ยกกรณีสร้างแฟลต ตร.ในอดีตเคสตัวอย่าง สุดท้ายกลับคว้าเองโรงพัก 396 หลัง 25 มี.ค.54
กรณีโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง โดยมีบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นคู่สัญญา วงเงิน 5,848 ล้านบาท ทำสัญญาวันที่ 25 มี.ค. 2554 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 17 มิ.ย. 2555 (สัญญาเลขที่ ยธ.13/2554)
ประเด็นตรวจสอบประเด็นหนึ่งคือโครงการนี้ไม่ได้ทำสัญญาจ้างผู้รับเหมาภายใน 7 วัน ตามที่กำหนดไว้ในเอกสารการประกวดราคา และไม่ได้ริบหลักประกันซองหรือเรียกร้องจากผู้ออกหนังสือค้ำประกันซอง รวมทั้งพิจารณาให้เป็นผู้ทิ้งงาน ทั้งที่แบบใบยื่นข้อเสนอการประกวดราคาจ้างด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ที่ บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ ฯ เสนอต่อประธานคณะกรรมการประกวดราคา ฉบับวันที่ 20 ก.ค.2553 (ก่อนประกวดราคาในวันที่ 29 ก.ค.2553) ระบุพร้อมลงนามในสัญญาจ้างภายใน 7 วันนับจากถัดจากวันที่ได้รับแจ้งให้ไปทำสัญญา หากไม่ปฏิบัติตามก็ยอมให้ริบหลักประกันซองหรือเรียกร้องจากผู้ออกหนังสือค้ำประกัน รวมทั้งยินดีชดใช้ค่าเสียหาย และกรม (สำนักงาน) มีสิทธิจะยกเลิกสัญญาได้
ล่าสุดมีข้อมูลระบุว่า ก่อนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำสัญญาจ้าง บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับจ้างแบบรวมกันในครั้งเดียว สัญญาเดียว 396 หลัง แท้จริงแล้วเอกชนรายนี้ร่วมกับกลุ่มผู้รับเหมารวม 8 ราย ส่งหนังสือถึงรองนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 13 พ.ย. 2552 คัดค้านการทำสัญญาในลักษณะรวมกันในครั้งเดียวสัญญาเดียวดังกล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยให้เหตุผลว่า การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีดังกล่าวจะเป็นการกีดกันผู้รับจ้างในส่วนภูมิภาค และผู้รับจ้างในส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้รับจ้างส่วนใหญ่ของประเทศ และจะเป็นการกระทำที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้างรายเดียว
ทั้งนี้ เนื้อหาของหนังสือ สรุปสาระสำคัญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรงพักทดแทน 396 หลังว่า
“ถ้าหากสํานักงานตํารวจ แห่งชาติจะขออนุมัติเปลี่ยนแปลงนโยบายจากเดิมที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้ลงนามเห็นชอบไว้แล้ว เป็นการจัดจ้างแบบรวมรายการก่อสร้างอาคารที่ทําการสถานีตํารวจทั้งหมดจํานวน 369 หลัง เป็นสัญญาเดียว หรือการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยจํานวน 163 แห่ง เป็นสัญญาเดียวก็ตาม พวกข้าพเจ้า ใคร่ขอความกรุณาจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี โปรด อย่าได้ลงนามอนุมัติหรือเห็นชอบโดยเด็ดขาด เพราะการ จัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีดังกล่าวนั้น จะเป็นการกีดกันผู้รับจ้างในส่วนภูมิภาค และผู้รับจ้างในส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้ รับจ้างส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งถ้า ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติ ก็จะเป็นการกระทําที่เอื้อ ประโยชน์ให้กับผู้รับจ้างเพียงรายเดียวในทันที เพราะผู้รับจ้างในภูมิภาคหรือผู้รับจ้างในส่วนท้องถิ่นมีผลงาน การก่อสร้างและวงเงินค้ำประกันสัญญา ไม่สูงพอที่จะรับทํางานก่อสร้างตามวงเงินงบประมาณโดยรวมดังกล่าวได้ จึงทําให้หมดโอกาสในการเข้าร่วมแข่งขันการเสนอราคาในโครงการดังกล่าว อีกทั้งการก่อสร้างโดยรวม เพียงสัญญาเดียวนั้นก็ขัดต่อหลักของความเป็นจริงโดยทั่วไป คือผู้รับจ้างรายเดียวจะทําการก่อสร้างอาคารต่างๆ ในสถานที่ก่อสร้างที่ห่างไกลทั่วประเทศภายในระยะเวลาที่พร้อมกันได้อย่างไร ตัวอย่างของความล้มเหลวใน กรณีที่จัดจ้างโดยรวมเพียงสัญญาเดียวที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติได้ประสบมาแล้วก็คือ โครงการก่อสร้างอาคาร ที่พักอาศัย (แฟลต) ที่กรมตํารวจ มอบหมายให้การเคหะแห่งชาติเป็นผู้ดําเนินการปรากฏว่าการก่อสร้างดังกล่าวแล้วเสร็จไม่ทันตามสัญญา หลายแห่งที่สถานที่ก่อสร้างห่างไกล สถานที่ก่อสร้างมีความยากลําบาก เช่นสถานที่ก่อสร้าง ทางภาคเหนือ และในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องใช้ระยะเวลาทําการก่อสร้างมากกว่า 4-5 ปี บางแห่งมีการ ละทิ้งงานทําให้โครงการก่อสร้างไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของทางราชการ อีกทั้งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา พวกข้าพเจ้า ยังไม่เคยเห็นมีหน่วยงานในของกระทรวงใดๆ จะใช้แนวทางการจัดจ้างแบบรวมงบประมาณใน ลักษณะสัญญาเดียวเลยสักครั้ง เช่นการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาล และอาคารหอพักแพทย์-พยาบาล ทั่วทั้ง ประเทศ ของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 เช่นเดียวกันกับสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ก็ยังไม่ใช้วิธีการจัดจ้างแบบรวมทุกโครงการเป็นสัญญาเดียว
ฉะนั้น เพื่อให้การบริหารงบประมาณการก่อสร้างอาคารที่ทําการ และอาคารที่พักอาศัย ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามนโยบายไทยเข้มแข็งของรัฐบาล พวกข้าพเจ้าผู้มีนามในท้ายหนังสือฉบับนี้ ใน ฐานะผู้ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง จึงขอให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้โปรดกรุณาเร่งรัดให้สํานักงานตํารวจแห่งชาติดําเนินการจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทําการสถานีตํารวจทดแทน และโครงการก่อสร้างอาคารที่ พักอาศัยของข้าราชการตํารวจ ตามแนวทางที่ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามเห็นชอบ ตามรายละเอียดที่กล่าว มาแล้วข้างต้นให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด” (หมายเหตุ:เนื้อหาในหนังสือบางช่วงระบุตำแหน่งนายกฯ แต่หนังสือส่งถึงรองนายกฯ)
อย่างไรก็ตามหลังจากส่งหนังสือฉบับนี้แล้ว ในการประกวดราคา วันที่ 29 ก.ค.2553 ปรากฏว่า บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ ฯ เป็นผู้ชนะประกวดราคาจัดจ้างก่อสร้างทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียว สัญญาเดียว สวนทางกับความเห็นก่อนหน้านี้
อ่านประกอบ:
เปิดบันทึกที่ประชุม พล.ต.ท. ซัก -‘พิบูลย์’บ.พีซีซีฯตอบ ปมจี้ทำสัญญาโรงพัก 396 แห่ง
หนังสือเวียน‘สุภา’ ผู้รับเหมาไม่ทำสัญญา ต้องริบหลักประกัน เทียบปมโรงพัก 396 แห่ง
ใบยื่นข้อเสนอผู้รับเหมาโรงพัก 396 แห่ง หากไม่ทำสัญญาใน 7 วัน ยอมให้ริบ 314 ล.
โรงพัก 396 แห่ง ไม่ทำสัญญาใน 7 วัน ต้องริบหลักประกัน 314 ล.-แจ้งเป็นผู้ทิ้งงาน
หนังสือ สตช.ฉบับที่ 2 จี้ผู้รับเหมาโรงพัก 396 แห่งทำสัญญา ไม่มาตามนัด 2 ครั้ง
ปมโรงพัก 396 แห่ง! เปิดหนังสือ 2 ฉบับ เบื้องหลังไม่ทำสัญญาใน 7 วัน
พลิกคำชี้แจง‘สุเทพ’อนุมัติสร้างโรงพัก 5.8 พันล. ผ่าน ผบ.ตร.3 ยุค ทำตาม กม.
หลักฐานสำคัญ! หนังสือ ‘สุภา’ ติง 4 ข้อปมก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง
ปมโรงพัก 396 แห่ง ผู้ชนะต่ำกว่าราคากลาง 450 ล.-ทำสัญญาหลังประกวด 8 เดือน
เผยโฉมสัญญารับเหมาโรงพัก 396 แห่ง จ่ายเงินล่วงหน้า 877.2 ล.
เปิดคำชี้แจงผู้แทน สตช. เปลี่ยนวิธีจ้างโรงพัก 396 แห่ง ยุคปทีป - สุเทพ เห็นชอบ
เปิด 4 ข้อสังเกต กรมบัญชีกลางปมจ้างเหมาโรงพัก 396 หลัง ชัด‘ไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.’
เปิดสถานะ ผู้รับเหมาโรงพัก 396 หลัง คู่สัญญารัฐหมื่นล. ล่าสุดเหลือรายได้ 14.2 ล.