Change in action(20) เรียกกลับ ตร.ติดตามอดีตนักการเมือง-ผู้กว้างขวาง
เพื่อเป็นมาตรการสนับสนุนบทเฉพาะกาลที่กำหนดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติบรรจุกำลังพลจริงให้แก่สถานีตำรวจหรือโรงพัก 1,482 แห่งทั่วประเทศ และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เต็มตามแผนกรอบอัตรากำลัง ภายใน 1 ปีนับแต่ร่างพ.ร.บ.ตำรวจฯฉบับใหม่มีผลใช้บังคับ คณะกรรมการฯได้พิจารณากรณีที่มีข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการหน่วยงานอื่นหรือปฏิบัติหน้าที่อื่นนอกเหนือจากหน้าที่ตำรวจโดยตรง ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเสียกำลังพลจริงไปเป็นจำนวนไม่น้อยในขณะที่ยังต้องแบกรับงบประมาณเงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ ของนายตำรวจเหล่านั้นอยู่
เห็นควรกำหนดมาตรการเพิ่มไว้ในบทเฉพาะกาลดังนี้
- ห้ามมิให้สั่งการให้ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถานีตำรวจ และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ไปช่วยราชการยังหน่วยงานใด ยกเว้นแต่จะมีการตั้งอัตรากำลังทดแทน
- กรณีที่มีข้าราชการตำรวจส่วนกลางไปช่วยราชการที่กอ.รมน.ส่วนกลาง (สวนรื่นฤดี) รวมทั้งสิ้น 253 อัตรา พบว่ามีการไปปฏิบัติราชการที่กอ.รมน.ส่วนกลางเพียง 14 อัตราเท่านั้น ที่เหลือยังคงเป็นอัตราฝากอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ไม่มีสายงานที่ชัดเจน งานค่อนข้างน้อย และส่วนใหญ่อยู่ในส่วนอำนวยการหรือธุรการ ที่ประชุมได้เสนอความเห็นไปยังกอ.รมน.ขอให้ทบทวนนโยบายนี้ภายใต้หลักการที่ว่าควรให้เหลือเป็นการไปช่วยราชการกอ.รมน.ส่วนกลางเฉพาะอัตราที่ไปปฏิบัติราชการจริงที่กอ.รมน.ส่วนกลางเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเท่าไรก็ตาม กำลังพลที่เป็นอัตราพิเศษฝากไว้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรยกเลิกและคืนให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อนำไปบรรจุในสถานีตำรวจและกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดที่ยังขาดแคลนอยู่ ซึ่งกอ.รมน.รับข้อเสนอนี้ไปและจะได้จัดประชุมหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในสัปดาห์หน้า ได้ข้อสรุปประการใดจะนำมาเขียนไว้ให้ชัดเจนในบทเฉพาะกาลต่อไป
- ข้อเท็จจริงปรากฎว่ามีข้าราชการตำรวจไปติดตามดูแลบุคคลที่เคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อดีตข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และบุคคลผู้กว้างขวางหรือผู้มีอิทธิพล อย่างไม่เป็นทางการ จึงเห็นควรกำหนดให้ผู้บังคับบัญชาผู้ทราบว่าผู้ใต้บังคับบัญชาผู้ใดไม่มาปฏิบัติงานที่หน่วยเพราะไปปฏิบัติภารกิจนอกเหนือหน้าที่และอำนาจอย่างไม่เป็นทางการดังกล่าวเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน รายงานต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
- ความในย่อหน้าก่อนไม่รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญต่าง ๆ ที่มีตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดให้มีการอารักขาหรือบุคคลดังกล่าวดำเนินการขอรับการอารักขามาอย่างเป็นทางการ ตามกฎข้อบังคับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้กำลังพลของตำรวจกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่สถานีตำรวจ 1,482 แห่ง และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของภารกิจตำรวจแท้ที่ใกล้ชิดและให้บริการประชาชนโดยตรง
ที่มา : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1796088593768420&id=100001018909881
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก amnatcharoenpolice.com
อ่านประกอบ :
Change in action (19) หัวใจอยู่ที่โรงพัก 1,482 แห่ง ต้องบรรจุให้ครบใน1ปี
Change in action (18) ก.ร.ตร. - กลไกใหม่แก้ทุกข์ประชาชน
Change in action(17) กำหนดเกณฑ์คะแนนประเมินตร.ทุกคน
Change in action(16) กำหนดเกณฑ์ละเอียด 33 ปีจากรองสว.ถึงรองผบ.ตร.
Change in action (15) ปฏิรูปใหญ่สายงานสอบสวน
Change in action (14) 'ก.พ.ค.ตร.' - องครักษ์พิทักษ์ระบบคุณธรรม !
Change in action (13) ให้กกต.ดำเนินการเลือก ก.ตร. ห้ามนายสั่งการ-ชี้นำ ฝ่าฝืนโทษคุก 6 เดือน
Change in action (11) ปฏิรูปตรงสู่โรงพัก!
Chang in action (10) ดูของจริงนอกห้องประชุมโดยไม่แจ้งล่วงหน้า !
Change in action (9) กม.สอบสวนใหม่แจ้งความสน.ไหนก็ได้ - เอกสารหายแจ้งที่เดียว/ สถานะ ตม.รอผลศึกษา
Change in action (8) ยกเลิกตำรวจรถไฟ /กำหนดระยะเวลาการโอนงานจรจรให้ท้องถิ่น!
Change in action (7) โอนงานจราจรบางส่วนให้กทม.
Change in action (6) ก.พ.ค.ตร. - คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ !
Change in action (5) ก.ตร. และระบบการให้คะแนน !
Change in action (4) อำนาจสั่งคดีในแต่ละสถานี
Change in action (3) แยกงานสอบสวนเป็นสายงานเฉพาะ-อิสระ
Change in action (2) ภารกิจและการถ่ายโอนภารกิจ !
Change in action ! ปฏิรูปตำรวจทั้งระบบ สังคมไทยจะได้เห็นอะไรบ้าง?