เครือข่ายแบนสารพิษฯ กดดันบ.ซินเจนทา-เจียไต๋ไม่ต่ออายุพาราควอต/คอลร์ไพริฟอส
เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง เรียกร้องให้ซินเจนทาและเจียไต๋แสดงจริยธรรมในการประกอบธุรกิจ โดยไม่ต่ออายุทะเบียนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส เพื่อปกป้องสุขภาพของเกษตรกร ผู้บริโภค และส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยทางอาหาร
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรงได้เข้ายื่นจดหมายเรียกร้องให้ซินเจนทาและเจียไต๋แสดงจริยธรรมในการประกอบธุรกิจ สืบเนื่องจากคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูงที่มี ได้มีมติเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการโดยให้มีการเพิกถอนทะเบียนและไม่ต่ออายุทะเบียนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง 2 ชนิดคือ พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส
เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรงได้ตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย พบว่า ทะเบียนแรกของพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสได้หมดอายุลงในวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยเป็นของบริษัทซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น และบริษัทเจียไต๋ จำกัด ตามลำดับ ทั้งนี้ซินเจนทายังถือทะเบียนพาราควอต อีก 4 ทะเบียน และเจียไต๋ยังถือทะเบียนคลอร์ไพริฟอสอีก 4 ทะเบียน และพาราควอต 3 ทะเบียน ที่จะทยอยหมดอายุลงเป็นลำดับ
นายอุบล อยู่หว้า ตัวแทนเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง พร้อมเครือข่ายเกษตรกร 5 จังหวัด จึงได้เดินทางไปยื่นจดหมายเรียกร้อ
งให้ทั้งสองบริษัทแสดงจริยธรรมในการประกอบธุรกิจ โดยในช่วงเช้าได้เดินทางไปยังบริษัทเจียไต๋ จำกัด เรียกร้องให้บริษัทไม่ต่ออายุทะเบียนคลอร์ไพริฟอสและพาราควอต ทั้งนี้เครือข่ายเกษตรอินทรีย์สนามชัยเขตได้มอบกระเช้าผักผลไม้อินทรีย์ให้กับนายสมชาย เนาสราญ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทเจียไต๋ จำกัด เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการส่งมอบอาหารที่ปลอดภัยเนื่องในวันอาหารโลก และนายอุบลกล่าวย้ำว่า “ผู้บริโภคต้องการอาหารปลอดภัย จึงอยากให้บริษัทได้อาหารปลอดภัย และผลิตอาหารปลอดภัยให้กับสังคม”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางเครือข่ายฯได้ไปยื่นจดหมายที่บริษัทซินเจนทา แต่ไม่มีผู้แทนจากบริษัทออกมารับจดหมาย โดย นายอุบล กล่าวว่า เรามาเพื่อเรียกร้องจริยธรรมในการทำธุรกิจของบริษัทซินเจนทา ซึ่งเป็นบริษัทที่มีที่ตั้งอยู่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ส่งพาราควอตมาขายในประเทศไทยทั้งที่ไม่ขายสารนี้ในสหภาพยุโรปมาเป็น 10 ปีแล้ว เราเรียกร้องความรับผิดชอบต่อสุขภาพของเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศไหนมีกฎหมายอ่อนแอก็เอาสารพิษอันตรายไปขายที่นั่น
"เราอยากเห็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบด้วย ด้วยเงื่อนไขที่ทะเบียนพาราควอตของซินเจนทาได้หมดอายุลงเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม จึงเรียกร้องให้ไม่มีการต่อทะเบียนเพื่อขายในประเทศไทยและภูมิภาคนี้ และเรารู้สึกผิดหวังที่ซินเจนทาไม่กล้าเผชิญหน้ากับคนไทยส่วนหนึ่งที่ตื่นรู้กับปัญหาสารเคมีอันตรายนี้ที่ตั้งใจมาพบ ทั้งๆที่ตอนประสานในครั้งแรกก็มีท่าทีที่จะมารับจดหมาย ถือว่าไม่มีความจริงใจ หลบเลี่ยงปัญหา และหาประโยชน์บนชีวิตคนไทยอย่างไม่รับผิดชอบ" นายอุบลกล่าว
เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง ระบุว่า หลังจากนี้อาจพิจารณาหามาตรการเพื่อกดดันให้บริษัทที่เกี่ยวข้องยุติการขึ้นทะเบียนไปพร้อมๆ กัน และเครือข่ายทั้งหมดจะเฝ้าติดตามการทำงานของกรมวิชาการเกษตร และคณะกรรมการวัตถุอันตราย เพื่อผลักดันให้สองหน่วยงานดังกล่าวยกเลิกทะเบียนและแบนสารเคมีทั้งสองชนิดดังกล่าวโดยเร็ว.
อ่านประกอบ:เปิดตัวเลข 3 ปี ย้อนหลัง นำเข้าสารเคมีอันตราย พบ ‘ไกลโฟเซต’ สูงสุด มูลค่ารวม 1 หมื่นล.
องค์กรผู้บริโภคจี้ รมว.เกษตรฯ เพิกถอน ‘พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส’ หลาย จว.เคลื่อนไหวหนุนแบน
กรมวิชาการเกษตรขอหารือ คกก.วัตถุอันตราย ก่อนเลิก ‘พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส’
เอ็นจีโอยกงานวิจัยโต้กลุ่มค้านยกเลิก ‘พาราควอต’ ยันมีพิษเฉียบพลัน ไม่มียาถอน
นักวิชาการชี้ “พาราควอต” มีอันตรายขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ยันไม่ซึมผ่านผิวหนัง ยกเว้นมีแผล
ฉบับเต็ม! เอ็นจีโอเเถลงโต้ ยัน 'พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส' อันตราย จี้เพิกถอนพ้นทะเบียน
ขีดเส้น 1 เดือน กษ.เพิกถอนทะเบียน พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส
สภาเกษตรกร จี้กษ.เร่งหาสารทดแทนพาราควอตโดยเร็ว
ผอ.มูลนิธิชีววิถีชี้แบนสารพาราควอตเจตนาดีต่อสุขภาพเกษตรกรไทย
กรมวิชาการเกษตรเปิดตัวเลขไทยนำเข้ายาฆ่าหญ้า-แมลงกว่า 9 หมื่นตัน/ปี
ผอ.มูลนิธิขวัญข้าว ชี้มีเสียงค้านยกเลิก 'พาราควอต' เหตุนายทุนเสียประโยชน์
สองมาตรฐาน ยูเอ็นประณามบริษัทสวิสฯ ส่งออกพาราควอตไปประเทศกำลังพัฒนา