เปิดสัญญาซื้อรถเมล์NGV 3พันล.! วัดใจ ขสมก. ลงดาบ'เบสท์รินฯ'ผิดข้อตกลง?
เปิดสัญญาจัดซื้อรถเมล์NGV 3พันล. วัดใจ 'ขสมก.' ลงดาบ 'เบสท์รินฯ' หลังทำผิดข้อตกลง ลักไก่นำเข้ารถทั้งคันจากจีน ไม่ประกอบที่มาเลเซีย ก่อนถูกสตง.สอบข้อมูลเชิงลึกปมคุณสมบัติเอกชนไม่ถูกต้อง สั่งส่งมอบเอกสารภายใน 15 วัน
ในช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา การจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศโดยใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษาโดยสาร จำนวน 489 คัน ของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จาก บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ถูกจับตามองจากสาธารณชนในเรื่องความโปร่งใสเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะกระบวนการนำเข้ารถเมล์NGV 100 คันแรก ของ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ที่มอบหมายให้ บริษัทซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ปฯ ถูก กรมศุลกากร ตรวจสอบพบว่า มีการสำแดงแหล่งกำเนิดเป็นเท็จอันเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากรตามมาตรา 99 และ 27 แห่งพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469
โดยจากการตรวจสอบของกรมศุลกากร พบว่า รถเมล์NGV ทั้งหมด 489 คัน ได้ดำเนินการประกอบมาจากประเทศจีน และถูกมาพักที่มาเลเซียก่อนส่งเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งในจำนวนรถ 100 คันแรก จะต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวม 370 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าภาษีอากรนำเข้าประมาณ 118 ล้านบาท ค่าปรับจากการสำแดงเอกสารเป็นเท็จอีก 236 ล้านบาท และ ค่าปรับภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 16 ล้านบาท (ส่วนรถอีก 389 คันจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกทั้งหมดประมาณ 571 ล้านบาท จากแบ่งเป็นค่าภาษีอากรนำเข้า 1.2 ล้านบาทต่อคัน และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 2.7 แสนต่อคัน)
ทั้งนี้ หลักฐานสำคัญที่กรมศุลกากร นำมาใช้ประกอบการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ คือ สภาพของรถเมล์ที่อยู่ที่ท่าเรือของมาเลเซีย ไม่ได้เป็นแค่ส่วนชิ้นที่นำมาประกอบ แต่มีสภาพเป็นรถทั้งคันที่ผ่านมาประกอบเรียบร้อยแล้ว ชี้ให้เห็นว่าชัดเจนว่ารถเมล์ ไม่ได้ประกอบที่มาเลเซีย แต่มีการนำเข้ามาจากประเทศจีน
(อ่านประกอบ : ที่แท้!'เบสท์ริน-ซุปเปอร์ซาร่า'กลุ่มเดียวกัน-ไขปริศนายอมจ่ายภาษีรถเมล์NGV 370 ล.?, เปิดงบการเงิน'เบสท์ริน-ซุปเปอร์ซาร่า' พอไหมจ่ายค่าปรับ-ภาษีรถเมล์NGV 370 ล.?
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลในสัญญาซื้อขายรถเมล์NGV ระหว่าง ขสมก. กับ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประกวดราคา พบว่า มีการระบุแหล่งที่มาของรถเมล์ NGV ว่า เป็นรถที่ผลิตจากประเทศจีน และประกอบ ณ โรงงานในประเทศมาเลเซีย ไว้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ในสัญญาการจัดซื้อขายรถเมล์NGV ระหว่าง ขสมก. กับ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด เลขที่ ร.50/2559 ลงวันที่30 กันยายน 2559 กับ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ระบุในข้อ 2.1 ว่า "องค์การตกลงซื้อและผู้รับสัญญาตกลงขายรถยนต์โดยสารปรับอากาศชั้นเดียวใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ขนาด 12 (สิบสอง) เมตร ยี่ห้อ SUNLONG รุ่น SLK6129 CNG ผลิตที่ประเทศจีน ประกอบ ณ โรงงาน R&A COMMERCIAL VEHICLES SDN BHD ประเทศมาเลเซีย"
จากการตรวจสัญญาซื้อขายรถเมล์ NGV ดังกล่าว ยังพบข้อมูลด้วยว่า ขสมก. ไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายรถเมล์ NGV โดยตรงกับ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด
หากแต่ทำสัญญากับกลุ่มนิติบุคคลที่ทำงานร่วมกัน จำนวน 4 ราย คือ 1.บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด 2. บริษัทอาร์แอนด์ เอ คอมเมอร์เชียล เอสดีเอ็น บีเอชดี จากมาเลเซีย 3. บริษัท รถยนต์เซินหลวง (เซี่ยงไฮ้)จำกัด จากจีน และ 4.บริษัท เทคโนโลยี่พลังงานใหม่เป่ยฟีงกวางโจว จำกัด จากจีน
โดยทั้ง 4 บริษัท ได้ร่วมกันแต่งตั้ง และมอบอำนาจให้ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัดเป็นบริษัทผู้รับผิดชอบหลัก และบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ได้มอบอำนาจให้นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา เป็นผู้รับมอบอำนาจ ในฐานะผู้รับสัญญา กับ ขสมก. ในการจัดซื้อรถเมล์NGV จำนวน 489 คัน ในราคาคันละ 3,549,182 บาท รวมภาษีค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,735,549,998 บาท (บวกค่าซ่อมแซม 1,654,160,821.5 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,389,710,819.5 บาท)
คำถามที่น่าสนใจสำหรับกรณีนี้ คือ เมื่อ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ทำผิดสัญญาข้อตกลงเรื่องแหล่งที่มาของรถเมล์ตามที่ตกลงไว้ จะมีผลอะไรเกิดขึ้นกับสัญญาที่ทำไว้กับ ขสมก.หรือไม่?
เบื้องต้น ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2559 บริษัทซุปเปอร์ซ่ารา แสดงความจำนงนำรถออกจากท่าเรือไปเพียงแค่ 1 คัน โดยยอมเสียค่าปรับ 3.7 ล้านบาท อีก 99 คันยังไม่นำออก
(อ่านประกอบ : คนกรุงฝันค้าง! ส่งท้ายปีอดนั่งรถเมล์เอ็นจีวี ลุ้นต้นปี 60 วัดใจ ขสมก.)
ขณะที่ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2559 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคุณสมบัติของเอกชนที่เข้าร่วมการประกวดราคาจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศโดยใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ(NGV)พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษาโดยสารจำนวน 489 คัน รวมถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาการส่งมอบรถที่มีการสำแดงแหล่งกำเนิดเป็นเท็จ
หลังจากตรวจสอบข้อมูลพบว่า เอกชนรายหนึ่งมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามประกาศ ขสมก. เลขที่ 04/2559 ลงวันที่ 23 พ.ค.2559 ข้อ 1.10 และเอกสารประกวดราคาซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2.10 ที่กำหนดว่า "นิติบุคคลที่จะเข้าเป็นคู่สัญญาตต้องไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ไม่แสดงบัญชีรายรับรายจ่าย หรือแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ"
ขณะที่รถโดยสารปรับอากาศฯ ที่จะส่งมอบมีการสำแดงแหล่งกำเนิดเป็นเท็จอาจกระทบต่อการตรวจรับมอบรถโดยสารตามสัญญา
เบื้องต้น สตง. จึงอาศัยอำนาจการตรวจสอบตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 ขอให้ ขสมก.ชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว พร้อมจัดส่งสำนวนเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องและรับรองสำเนาถูกต้องให้ สตง. ภายใน 15 วัน (ครบกำหนดช่วงกลางเดือนม.ค.2560)
(อ่านประกอบ : พบคุณสมบัติเอกชนไม่ถูกต้อง!สตง.รุกสอบรถเมล์NGV สั่ง ขสมก. แจงภายใน15วัน)
ส่วนผลการตรวจสอบข้อมูลส่วนนี้จะออกมาเป็นอย่างไรนั้น โปรดติดตามกันต่อไป
อ่านประกอบ :
ผอ.แหลมฉบังเผยเบสท์รินคาดนำรถเมล์291คันออกจากท่าเรือวันที่ 5-6 ม.ค.60
เบสท์ริน ประมูลรถเมล์ชนะคู่แข่ง 700 ล้าน วันนี้จ่ายภาษี-ค่าปรับเฉียด2พันล้าน
ผอ.ศุลกากรฯ แหลมฉบัง เร่งเบสท์รินจ่ายภาษีนำเข้าเมล์ NGV
อ่วม!กรมศุลฯ ชี้ซุปเปอร์ซาร่า นำเข้าเมล์เอ็นจีวี ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม370 ลบ.
ห้ามนำเข้าผิดปท.ยึดสัญญาเป็นหลัก! สตง.ตั้งทีมเกาะติดปัญหารถเมล์ NGV
เบสท์รินแถลงมั่นใจเอกสารนำเข้าเมล์ NGV ไม่ผิด จี้หาทางออกร่วมกัน
เลขาฯ ACT เผยสำแดงเท็จ พักสินค้ากลุ่มปท.อาเซียนเลี่ยงภาษีมีมานานแล้ว
โฆษกกรมศุลฯ สงสัยเส้นทางเมล์เอ็นจีวีนำเข้าจากจีน ปัดตอบใช้เวลาตรวจสอบกี่วัน
เบสท์ริน โวยถูกกักรถเอ็นจีวี ไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง โอดจ่ายวันละ 3 แสน
บอร์ดขสมก. เลื่อนพิจารณา เบสท์ริน กรุ๊ป ชนะประมูลรถเมล์ NGV 489 คัน
เบสท์ริน กรุ๊ป พร้อมส่งมอบรถเมล์ NGV เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนกรุงเทพฯ
รู้จัก 'เบสท์ริน' ผู้ชนะประมูลเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ที่บอร์ดขสมก.เบรกไว้ก่อน
ผอ.ขสมก.ยันตรวจสอบละเอียดยิบ เบสท์รินฯ คุณสมบัติครบ เชื่อฐานะมั่นคง