ไทม์ไลน์ 200 วัน ปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่ ยื่นบิ๊กตู่ ซัดปลัดฯคมนาคม เพิกเฉย?
“..ปลัดกระกรวงคมนาคมไม่เคยให้ความสนใจหรือไม่เคยแม้แต่จะแจ้งผลการพิจารณาให้รับทราบเลย ทั้งนี้ การที่ปลัดฯ ได้ทราบความทั้งหมดมาแต่เริ่มแรกแล้ว แต่ทำเป็นนิ่งเฉยเป็นเวลารวมกันนานกว่า 200 วันแล้ว จึงย่อมอาจเป็นการเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่..”
ตกเป็นข่าวอีกครั้ง!
กรณี การจ้างที่ปรึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ที่ล่าสุด ดร.อรุณ อังศุยานนท์ วิศวกรโยธาชำนาญการ สังกัดกลุ่มมาตรฐานระบบราง สำนักงานโครงการพัฒนาระบบราง ออกมาให้ข้อมูลว่า ได้ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงคมนาคม ขอทราบคำชี้แจงกรณีขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จริง ผู้บริหาร สนข. รวมถึง ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แจ้งให้ทราบโดยระบุว่า
“หลังจากที่เวลาได้ล่วงเลยไปกว่า 200 วันแล้ว นับจากวันที่ผมมีหนังสือแจ้งข่าวให้ทราบอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อ 30 พ.ค. 2559 เหตุใดปลัดฯ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ข้อกล่าวหามีมูลความผิดจริงหรือไม่ อย่างไร แล้วระยะเวลายังไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินการอีกหรือ ยังต้องการเวลาอีกมากน้อยแค่ไหน เพราะเหตุใด และได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ใช้เวลาเกินกรอบที่กฎหมายและระเบียบได้กำหนดไว้ในข้อ 1 หรือไม่ เหตุที่ไม่ยอมตอบหนังสือเลย แสดงว่ามีส่วนร่วมรู้เห็นมาตั้งแต่ต้นด้วยใช่หรือไม่ หรือเห็นด้วยกับคำชี้แจงของ ผอ.สนข. แต่เพียงฝ่ายเดียว” (อ่านประกอบ : ซี7ทำหนังสือขอ‘ปลัด คค.’ชี้แจงปมทุจริต‘สนข.’ผ่าน200วันร้อง‘บิ๊กตู่’เอาผิดม.157)
เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจความเป็นในในเรื่องดังกล่าวยิ่งขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เรียบเรียงมานำเสนอ ดังนี้
วันที่ 13 ต.ค. 2559 สำนักนายกรัฐมนตรี มีหนังสืออ้างถึงหนังสือร้องเรียนของ นายอรุณ อังศุยานนท์ ระบุสาระสำคัญว่า เรื่องที่มีความประสงค์ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผอ.สนข. และข้าราชการที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟรางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ กรณีนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของ ปลัดกระทรวงคมนาคม ที่จะพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จึงได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้ปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ต่อไป รวมทั้ง ให้แจ้งผลการพิจารณาให้สำนักนายกฯ และผู้ร้องทราบโดยตรงด้วย
ต่อมา นายไพโรจน์ งามจรัส ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ได้มีหนังสือลงวันที่ 20 ต.ค. 2559 ขอให้ นายอรุณ ชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมพยานหลักฐาน ตามที่ได้ร้องเรียนต่อปลัดกระทรวงคมนาคม ว่า โครงการดังกล่าว ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ สนข. มีข้าราชการในสังกัด สนข. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 6 ราย ได้แก่ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ตำแหน่ง ผอ.สนข. ,นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ ตำแหน่ง ผอ.สำนักงานโครงการพัฒนาระบบราง ,น.ส.ก่องกนก เมนะรุจิ ตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ ,นายทศพร ร้อนแว่น ,นายอรรฆวัส กาญจนสุทธิแสง และ น.ส.ปริญญารัตน์ สุวรรณเนาว์ ตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ โดย ขอให้ย้ายข้าราชการทั้ง 6 รายดังกล่าว และแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง นั้น
กองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ขอแจ้งว่า มูลกรณีร้องเรียนเกิดจากการอ้างเว็บไซต์สำนักข่าวอิศราที่เผยแพร่ข่าวดังกล่าว เนื่องจาก มีการให้ นายสาธิต มาลัยธรรม ซึ่งเป็นบุคคลนอกสัญญาจ้างของ บริษัท ทีมคอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด มาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการโครงการ และวิศวกรโครงการฯ อันเป็นการละเมิดสัญญาจ้าง ซึ่งจากการตรวจสอบสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์หรือ Google ปรากฏข้อมูลเงื่อนงำโครงการดังกล่าว โดยอ้างแหล่งข่าวมาจากบุคลากรของกระทรวงคมนาคม แต่ไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ใด ทั้งนี้พบว่า เคยมีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 25 ก.ค. 2559 ขอความเป็นธรรมไปยังกระทรวงฯ กรณีถูกผู้บังคับบัญชาสั่งย้าย และหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 30 มิ.ย.ปีเดียวกัน ถึงนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. มีเนื้อหาว่า
“ท่านเองเป็นผู้ให้ข่าวกรณีโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟรางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ กับสำนักข่าวอิศรา”
โดยเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในหนังสือร้องเรียนว่า ท่านเกี่ยวข้องกับโครงการนี้หรือไม่ อย่างไร ได้ข้อมูลมาจากแหล่งใด มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ และเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่นำไปเผยแพร่เป็นเอกสารของ สนข. จริงหรือไม่ ประกอบกับข้าราชการ สนข. ทั้ง 6 ราย มีพฤติการณ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวที่เป็นการทุจริตคอรัปชั่นตามที่มีการกล่างหาได้อย่างไร
ทั้งนี้ ขอให้แจ้งรายละเอียดข้อเท็จจริง พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง (หากมี) โดยให้รับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ ส่งไปยังกองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ทั้งนี้ หากมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หรือมีเอกสารอันจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้พิสูจน์ความจริงตามข้อกล่าวหาก็ให้แจ้งไปพร้อมกัน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาสืบสวนต่อไป (ดูเอกสารประกอบ)
ต่อมา เมื่อ 2 พ.ย. 2559 นายอรุณ จึงได้มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมพยานหลักฐานถึง ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ระบุสาระสำคัญว่า ข้อมูลส่วนใหญ่ที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของสำนักข่าวอิศราอ้างอิงมาจาก เอกสารของสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และส่วนหนึ่งของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และเพื่อเป็นการยืนยันว่า มีแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือและเป็นเอกสารของหน่วยงานจริง ขอเสนอแนะให้กระทรวงคมนาคมใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเรียกดูเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของแต่ละหน่วยงาน แล้วนำมาสอบเทียบกับเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของสำนักข่าวอิศรา หากผลปรากฏว่า มีความถูกต้องตรงกันก็ย่อมเชื่อได้ว่า ข้อมูลที่ถูกเผยแพร่มีความน่าเชื่อถือ และถือว่า ข้อมูลนั้นมีที่มาจากหน่วยงานจริง
นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในขั้นตอนของการสืบสวนข้อเท็จจริง ตลอดจน ในขั้นตอนของการชี้มูลความผิดที่อาจมีขึ้นโดยกระทรวงคมนาคม ขอเสนอแนะให้กระทรวงฯ แสวงหาคำตอบในประเด็นคำถามว่า นายสาธิต มาลัยธรรม มีรายชื่อปรากฏเป็นบุคากรหลักตามสัญญาจ้างที่ปรึกษาฯ ของ สนข. และของ รฟท. จริงหรือไม่
และเนื่องจากโครงการฯ นี้หมดสัญญาไปแล้วตั้งแต่เดือน เม.ย.2559 และในปัจจุบันยังไม่มีการขยายสัญญา แต่ประการใด จึงขอให้กระทรวงฯ พิจารณาหาคำตอบและข้อสรุปด้วยว่า เหตุใด สนข. จึงไม่ต่อสัญญาให้ที่ปรึกษา ทั้ง ๆ ที่ โครงการฯ หมดสัญญามานานแล้ว และโครงการฯ นี้มีการเบิกจ่ายไปกี่งวดแล้ว เบิกจ่ายครั้งล่าสุดเมื่อใด คิดเป็นเงินจำนวนเท่าใด และไม่ได้มีการเบิกจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้ครบตามสัญญามานานเท่าใดแล้ว (นับจากการเบิกจ่ายครั้งล่าสุด) และมีปัญหาขัดข้องประการใด และ สนข. คาดว่าจะใช้เวลาอีกมากน้อยเพียงใดที่จะเบิกจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้ครบตามสัญญา หากปรากฏในภายหลังว่า สนข. ไม่สามารถเบิกจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้ครบตามสัญญา กระทรวงฯ จะมีคำอธิบายอย่างไร และใครต้องรับผิดชอบต่อกรณีที่ไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามข้อเสนอให้ความเห็นของสำนักนายกฯ (ดูเอกสารประกอบ)
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรารายงานข้อมูลแล้วว่า เมื่อ 13 ธ.ค. 2559 นายอรุณทำหนังสือขอแจ้งผลการติดตามความคืบหน้ากรณีร้องเรียนให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผอ.สนข. และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ถึงนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกฯ ระบุสาระสำคัญว่า “..ปลัดกระทรวงคมนาคมไม่เคยให้ความสนใจหรือไม่เคยแม้แต่จะแจ้งผลการพิจารณาฯ ใดให้รับทราบเลย ทั้งนี้ การที่ปลัดฯ ได้ทราบความทั้งหมดมาแต่เริ่มแรกแล้ว แต่ทำเป็นนิ่งเฉยเป็นเวลารวมกันนานกว่า 200 วันแล้ว จึงย่อมอาจเป็นการเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โยมิชอบ ตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา..”
จึงใคร่ขอให้พิจารณา ดังนี้
1.กราบเรียนหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี เพื่อทราบผลการปฏิบัติงานของปลัดกระทรวงคมนาคม ต่อกรณีข่าวโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟรางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่
2.ดำเนินการที่เกี่ยวข้องเพื่อกล่าวโทษทางอาญากับปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานความผิดมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และ
3.มีหนังสือถึงปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อขอทราบผลการพิจารณาดำเนินการแล้ว ขอให้แจ้งผลการพิจารณาฯ ดังกล่าว ให้ทราบโดยด่วนด้วย
ทั้งนี้ วันต่อมา 14 ธ.ค. 2559 นายไพโรจน์ งามจรัส ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ได้ทำหนังสือถึงนายอรุณ ระบุสาระว่า กรณีร้องเรียนดังกล่าว กองการเจ้าหน้าที่ ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นขั้นตอนก่อนการดำเนินการทางวินัย เพื่อตรวจสอบข้ออ้างหรือข้อกล่าวหา ก่อนที่จะพิจารณาเสนอว่า สมควรที่จะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไปหรือไม่ อย่างไร ซึ่งเป็นกระบวนการที่ถูกต้องเป็นไปตามแนวทางของพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 หมวด 7 การดำเนินการทางวินัยและเป็นไปตามกฎ ก.พ. ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น หากผลพิจารณาแล้วเสร็จเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
อนึ่ง สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว และให้กระทรวงฯ เป็นผู้แจ้งผลการพิจารณาไปยังสำนักนายกฯ ดังนั้น หากผลพิจารณาแล้วเสร็จเป็นเป็นประการใดกระทรวงฯ จะดำเนินการแจ้งไปยังสำนักนายกฯ ต่อไป (ดูเอกสารประกอบ)
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 และ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงคมนาคม โดยขอทราบคำชี้แจงในประเด็นข้างต้น (ดูตาราง)
ทั้งหมดคือ ที่มาที่ไป ก่อนที่ ดร.อรุณ วิศวกรโยธาชำนาญการ สังกัดกลุ่มมาตรฐานระบบราง สำนักงานโครงการพัฒนาระบบราง สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะมีหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
ต้องติดตาม ข้อเท็จจริงกันต่อไป
อ่านประกอบ:
ซี7ทำหนังสือขอ‘ปลัด คค.’ชี้แจงปมทุจริต‘สนข.’ผ่าน200วันร้อง‘บิ๊กตู่’เอาผิดม.157
ซี 7 ยื่นร้องนายกฯโดน ย้ายไม่เป็นธรรม ปมปูดจ้างที่ปรึกษารถไฟฯ 117.6 ล.
ปธ.กก.ตรวจจ้าง'ที่ปรึกษา’ 117.6 ล.ขึ้นซี 9 !ปลัดก.คมนาคมตั้งเอง เหตุว่าง 1 อัตรา
ยุคบุกเบิก บ.ทีมฯ ‘10 วิศวกร-ขรก.’ก่อตั้ง ‘ทนง’ โผล่-อดีตอธิบดีกรมโยธาฯร่วมหุ้น
โยน สนข.แจง! ปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่ 117.6 ล. 2 กก.กำกับฯยันเป็นแค่คนนอ
ยื่น8อธิบดี-หน.ส่วนราชการ แจ้งลูกน้อง สื่อตีข่าว‘จ้างที่ปรึกษา’รถไฟรางคู่117.6ล.
เปิด'ตารางทำงาน' วิศวกร คนเดียว ชื่อโผล่ 2 โครงการ ปม‘จ้างที่ปรึกษา’รถไฟฯ117.6 ล.
‘ผู้รับจ้าง’ศึกษารถไฟเด่นชัย-เชียงใหม่ 117.6 ล. โผล่ควบ‘ที่ปรึกษา’ร.ฟ.ท.254 ล.
ครบ 53 รายชื่อ ขรก. 17 หน่วยงาน เกี่ยวพัน ‘จ้างที่ปรึกษา’ รถไฟรางคู่ 117.6 ล.
โชว์รายชื่อ กก.3ชุด-35ขรก.พันปม‘จ้างที่ปรึกษา’รถไฟรางคู่ฯ117.6ล.
ไส้ใน13โครงการสนข.1,353.2ล. ถูกสตง.สอบ!7บ.-5สถาบันการศึกษา คู่สัญญา
สตง.ลุยสอบ‘จ้างที่ปรึกษา’รถไฟรางคู่117.6ล. -13โครงการปี56-57โดนด้วย
พลิกปูม1ใน5บ.ร่วม‘ที่ปรึกษา’รถไฟรางคู่ ฟัน542ล.-เคยอยู่กลุ่ม‘คู่แข่ง’บ.ทีมฯ
เปิดขุมทรัพย์‘จ้างที่ปรึกษา’ใน ก.คมนาคม2กลุ่มใหญ่รวบ146โครงการ6.3พันล.
แกะปูมหลัง‘วิศวกร’มือชงผลศึกษารถไฟรางคู่ฯ117.6ล.- ผู้ถือหุ้น บ.ทีม ฯ
รมว.คมนาคม แจงปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่117.6ล.เป็นเรื่อง'นับคน'โยน ผอ.สนข.
ยื่นบิ๊กตู่-รมว.คมนาคม แจ้ง‘อิศรา’ตีข่าวเงื่อนงำ‘จ้างที่ปรึกษา’รถไฟรางคู่ฯ117.6ล.
ตามไปดู บ.ที่ปรึกษารถไฟรางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่ คว้างานสนข.12โครงการ1.6พันล.
เปิด‘ที่มา’ปมจ้าง‘ที่ปรึกษา’รถไฟรางคู่ฯ117.6ล. ใครตัวจริง?คำถามที่ไม่มีคำตอบ
พบ บ.ที่ปรึกษารางคู่ฯ117.6ล. คว้ารถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่อีก548.4ล.
เปิดตัว'วิศวกร'มือชงผลศึกษา รถไฟรางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่117.6ล. ก่อนถูกร้องสอบ!
ว่อน!ผอ.สำนักฯสนข.สั่งสอบโทรศัพท์‘ลูกน้อง’ปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่ฯ117.6ล.
โชว์หลักฐานเบิกจ่ายแล้ว59ล.‘ค่าที่ปรึกษา’รถไฟรางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่117.6ล.
บิ๊กคมนาคม -30ขรก.พัน‘จ้างที่ปรึกษา’รถไฟรางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่117.6ล.
รมว.-ผู้ดูแลโครงการ ติดภารกิจ ยังไม่แจงปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่117.6ล.
เปิดเอกสารมัดปม‘จ้างที่ปรึกษา’รถไฟรางคู่‘เด่นชัย-เชียงใหม่’ 117.6ล. ใคร‘ตัวจริง-เก๊’
ร้อง‘คนนอก’สวม‘ที่ปรึกษา’โครงการรถไฟรางคู่‘เด่นชัย-เชียงใหม่’117.6ล.-เบิกแล้ว51