โชว์หนังสือกรมศุลฯล็อค บ.เบสท์รินฯ 11 ฉบับรวดตั้งแต่ปี 53 ค้างจ่ายภาษี 232 ล.
ข้อมูลอีกด้าน!เปิดหนังสือกรมศุลฯสั่งล็อค บ.เบสท์รินฯผู้นำเข้ารถเมล์ NGV 100 คันเจ้าปัญหา ที่แท้ค้างจ่ายภาษีตั้งแต่ก่อนปี 53 ขอให้กรมพัฒนาฯ ห้ามรับจดทะเบียนชำระบัญชีต่อเนื่อง 11 ฉบับรวด ก่อนแพ้คดี 232 ล.เมื่อ ก.ย.59
บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้ารถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 100 คัน และถูกกรมศุลกากรอายัดรถยนต์ทั้งหมดไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เนื่องจากมีปัญหาในการสำแดงการขนสินค้านั้น ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบเอกชนรายดังกล่าว ถูกกรมศุลกากรระงับการจดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2553
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2553 น.ส.ภาวนา งามสุทธิ หัวหน้าฝ่ายคดีหลีกเลี่ยง ปฏิบัติราชการแทน ผู้อำนวยการส่วนคดี สำนักกฎหมาย กรมศุลกากร (ขณะนั้น) ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักบริการข้อมูล กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อขอทราบรายการจดทะเบียนของ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด อาทิ กรรมการผู้จัดการ สถานที่ตั้ง สำนักงานใหญ่ และขอให้ระงับการขีดชื่อออกจากทะเบียน โดยอ้างว่า เพื่อประกอบการพิจารณาในการฟ้องเรียกหนี้ค่าภาษีอากรจากบริษัทฯดังกล่าว (ดูเอกสาร)
จากการตรวจสอบพบว่า กรมศุลกากรได้ทำหนังสือถึง ผู้อำนวยการสำนักบริการข้อมูล กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อขอให้ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีอีก 10 ครั้ง ได้แก่ 11 ก.ย.2554 ,วันที่ 24 เม.ย.2555, วันที่ 7 ก.ย.2556 ,วันที่ 14 ต.ค.2556 ,วันที่ 10 ต.ค.2557, วันที่ 8 เม.ย.2558 , วันที่ 28 พ.ค.2558 ,วันที่ 23 พ.ย.2558 ,วันที่ 23 ธ.ค.2558 และล่าสุดวันที่ 7 มิ.ย.2559 (ร่วมกับนิติบุคคลอื่น 28 ราย)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.09 น.วันที่ 9 ธ.ค.2559 ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังส่วนคดีแพ่งและปกครอง กรมศุลกากร โดยแจ้งความประสงค์จะติดต่อ นายวิชัย มากวัฒนสุข ผู้อำนวยการฯ ซึ่งเป็นผู้ลงนามในหนังสือถึง อำนวยการสำนักบริการข้อมูล กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีผู้รับสายแจ้งว่า นายวิชัย เกษียณอายุราชการแล้ว ถามว่าต้องการติดต่องานเรื่องอะไร ผู้รับสายแจ้งชื่อว่า ‘กฤษ’ เป็นนิติกร เป็นผู้รับผิดชอบ กรณีของ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้สื่อข่าวแจ้งความประสงค์จะทราบข้อมูลกรณีบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีปัญหาถูกระงับการนำรถยนต์โดยสารออกมาจากท่าเรือแหลมฉบัง และยังไม่ทันได้สอบถามรายละเอียด กรณีหนังสือของกรมศุลฯ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแจ้งว่า ไม่ทราบ ยังไม่มีคดีเข้ามา และได้รีบวางสายไป
จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ชื่อเดิม บริษัท เดฟฟารีเทคโนโลยีแอนด์ดีเวลลอปเม้นท์ไทยแลนด์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 22 เมษายน 2546 จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัดวันที่ 17 พฤษภาคม 2549 ทุน 200 ล้านบาท ประกอบอการขายส่งและการขายปลีกการซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ ที่ตั้งเลขที่ 60/111 หมู่ที่ 1 ถนนบางนา-ตราด กม.12.5 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ณ วันที่ 30 เมษายน 2559 นายจินดาสร แสงฤทธิ์ ถือ 102,000 หุ้น (51%) นาย เค่อนั่ว หลิน (ชื่อเดิม หลิน เขื่อ นั่ว) 66,000 หุ้น (33%) นาย หวัง เจียง 20,000 หุ้น (10%) นางสาว ยิงซุน เชียว 12,000 หุ้น (6%) รวม 200,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท แจ้งผลประกอบการรอบปี 2558 รายได้ 1,169,885,104 บาท กำไรสุทธิ 5,044,949 บาท สินทรัพย์ 466,848,397 บาท หนี้สิน 188,745,774 บาท กำไรสะสม 78,102,622 บาท
จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า ก่อนหน้านี้วันที่ 20 ก.ย.59 ภาษีอากรกลาง ได้มีคำพิพากษา คดีที่กรมศุลกากร และกรมสรรพากร ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ประกอบกิจการนำเข้ารถยนต์โดยสาร เป็นจำเลย ฐานสำแดงเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้ารถยนต์โดยสาร กรณีเมื่อเดือน ต.ค.49 - ก.ย.50 จำเลยได้นำเข้ารถยนต์โดยสารยี่ห้อ Golden Dragon รุ่นต่างๆ และอุปกรณ์จากประเทศจีน หลายครั้ง จำนวนมากกว่า 200 คัน โดยเจ้าพนักงานกรมศุลกากร ตรวจพบบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป ได้สำแดงเท็จ ในราคาต่ำกว่าราคาจริงเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 99 และ 27 โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาบังคับบริษัทจำเลย จ่ายภาษีพร้อมเงินเพิ่ม ให้แก่ กรมศุลกากร และกรมสรรพากร วงเงินรวมกว่า 232.331 ล้านบาท (อ่านประกอบ: ศาลภาษีฯ สั่ง"เบสท์ริน กรุ๊ป"ชำระภาษี-เงินเพิ่ม"กว่า 230 ล้าน หลังสำแดงราคาเท็จ)
อย่างไรก็ตาม ต่อมา บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ชนะประมูลรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 489 คัน วงเงิน 3,389 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ก.ค.59 และได้นำเข้ารถยนต์โดยสารแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกจำนวน 1 คัน ครั้งที่ 2 จำนวน 99 คัน ถูกกรมศุลกรอายัดรถดังกล่าวไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยให้เหตุผลว่า บริษัทฯ ได้สำแดงเป็นรถยนต์เมล์นำเข้ามาจากประเทศมาเลเซียและสำแดงยกเว้นอากร ขณะที่รถเมล์เอ็นจีวีมีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน
กรมศุลฯระบุว่า การสำแดงในขนสินค้านำเข้าจากประเทศจีนจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษี และ ต้องเสียภาษีอากร 40 % แต่ถ้ารถเมล์เอ็นจีวีมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศมาเลเซียจะได้รับการยกเว้นการจ่ายภาษีอากร ตามข้อตกลงสนธิสัญญาเขตการค้าเสรีกลุ่มประเทศสมาชิก AEC ขณะนี้กรมศุลฯกำลังตรวจสอบว่าเอกชนดังกล่าวจงใจหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าหรือไม่
อ่านประกอบ:
ห้ามนำเข้าผิดปท.ยึดสัญญาเป็นหลัก! สตง.ตั้งทีมเกาะติดปัญหารถเมล์ NGV
เบสท์รินแถลงมั่นใจเอกสารนำเข้าเมล์ NGV ไม่ผิด จี้หาทางออกร่วมกัน
เลขาฯ ACT เผยสำแดงเท็จ พักสินค้ากลุ่มปท.อาเซียนเลี่ยงภาษีมีมานานแล้ว
โฆษกกรมศุลฯ สงสัยเส้นทางเมล์เอ็นจีวีนำเข้าจากจีน ปัดตอบใช้เวลาตรวจสอบกี่วัน
เบสท์ริน โวยถูกกักรถเอ็นจีวี ไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง โอดจ่ายวันละ 3 แสน
บอร์ดขสมก. เลื่อนพิจารณา เบสท์ริน กรุ๊ป ชนะประมูลรถเมล์ NGV 489 คัน
เบสท์ริน กรุ๊ป พร้อมส่งมอบรถเมล์ NGV เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนกรุงเทพฯ
รู้จัก 'เบสท์ริน' ผู้ชนะประมูลเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ที่บอร์ดขสมก.เบรกไว้ก่อน
ผอ.ขสมก.ยันตรวจสอบละเอียดยิบ เบสท์รินฯ คุณสมบัติครบ เชื่อฐานะมั่นคง