คำวินิจฉัย ‘นุรักษ์’ คดีหุ้น วี-ลัค มีเดีย เช็ค 6.7 ล.มีพิรุธ เชื่อสั่งจ่ายหลัง 8 ม.ค.62

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 09 มกราคม 2563 เวลา 19:30 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | Isranews | บัญชีทรัพย์สิน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

“...และไม่มีความจําเป็นที่ผู้ถูกร้องจะต้องรีบเร่งเดินทางออกจากภารกิจการปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดบุรีรัมย์เพื่อมาทํา เอกสารดังกล่าว เนื่องจากการจัดทําตราสารการโอนหุ้นที่ว่านี้มีช่วงระยะเวลาที่สามารถดําเนินการได้ ก่อนที่พรรคอนาคตใหม่ได้จัดส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ต่อผู้ร้อง…”

pictanantararar9 1 20

เป็นที่ทราบแล้ว คดีถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียง ให้นายธนาธร พ้นสมาชิกภาพ ส.ส. เนื่องจาก บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ประกอบธุรกิจสื่อ ถือเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ประกอบมาตรา 101 (6) แห่งรัฐธรรมนูญปี 2560

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเอาคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการเสียงข้างน้อย 2 ราย ได้แก่ นายชัช ชลวร และนายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ และ ตุลาการเสียงข้างมาก ราย นายจรัญ ภักดีธนากุล และ นายปัญญา อุชาชน มารายงานไปแล้ว

คราวนี้มาดูคำวินิจฉัยส่วนตน นายนุรักษ์ มาประณีต ตุลาการเสียงข้างมากอีกคน

n20161207154141 1989

@นุรักษ์ มาประณีต

1578016568 4

นายนุรักษ์ตั้งประเด็นวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้อง (นายธนาธร) สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่และนับตั้งแต่เมื่อใด

สำนักข่าวอิศรา เรียบเรียงคำวินิจฉัยมารายงานดังนี้

@ไม่จำเป็นต้องรีบกลับจาก จ.บุรีรัมย์ มาโอนหุ้นภายใน 8 ม.ค.62

พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ถูกร้องเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด หมายเลขหุ้น -1350001 – 2025000 จํานวน 675,000 หุ้น ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2558 เป็นต้นมา และในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้จัดส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อต่อผู้ร้องโดยมีชื่อผู้ถูกร้องอยู่ในบัญชีรายชื่อดังกล่าวในลําดับที่ 1

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยเบื้องต้นมีว่า ผู้ถูกร้องได้โอนหุ้นดังกล่าวในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ในวันที่ 8 มกราคม 2562 ดังที่ผู้ถูกร้องกล่าวอ้าง หรือในวันที่ 21 มีนาคม 2562 ตามข้อกล่าวหาของผู้ร้อง ที่ว่า ผู้ถูกร้องยังคงเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ในวันสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ผู้ถูกร้องจึงเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชนอันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3)

เห็นว่า การที่ผู้ถูกร้องกล่าวอ้างว่าได้โอนหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด หมายเลขหุ้น 1350001 – 2025000 จํานวน 675,000 หุ้น ให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันที่ 8 มกราคม 2562 นั้น

เอกสารตราสารการโอนหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ในวันที่ 8 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นเอกสารที่ระบุว่าผู้ถูกร้องได้โอนหุ้นให้แก่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ บุคคลที่เกี่ยวข้องในการจัดทําเอกสารดังกล่าวล้วนเป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับผู้ถูกร้องทั้งสิ้น การจัดทําเอกสารดังกล่าวอาจจะดําเนินการที่สถานที่แห่งใดหรือในวันเวลาใดในภายหลังก็ได้โดยไม่มีบุคคลภายนอกรับรู้เห็น และไม่มี ความจําเป็นที่ผู้ถูกร้องจะต้องรีบเร่งเดินทางออกจากภารกิจการปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดบุรีรัมย์เพื่อมาทํา เอกสารดังกล่าว เนื่องจากการจัดทําตราสารการโอนหุ้นที่ว่านี้มีช่วงระยะเวลาที่สามารถดําเนินการได้ ก่อนที่พรรคอนาคตใหม่ได้จัดส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อต่อผู้ร้อง

@ โอนหุ้นภายในครอบครัวจะทําเวลาใด ล่าช้าค่ำคืนก็ได้

กรณีที่ผู้ถูกร้องอ้างว่า ได้เดินทางกลับจากการปราศรัยที่อําเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 8 มกราคม 2562 ด้วยรถยนต์กลับมายังบ้านพักของผู้ถูกร้อง เพื่อโอนหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ให้แก่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เห็นว่า ไม่มีความจําเป็นใดที่ผู้ถูกร้องจะต้องรีบร้อนลําบากเดินทางด้วย รถยนต์ ทั้งที่มีเครื่องบินจากจังหวัดอุบลราชธานีในวันดังกล่าวไปกรุงเทพมหานคร ซึ่งจากข้อเท็จจริง ปรากฏว่ามีสายการบินหลายสายและมีที่นั่งว่างที่จะกลับได้ในวันนั้น ประกอบกับการโอนหุ้นของผู้ถูกร้อง มีแต่บุคคลภายในครอบครัวและผู้ที่ปฏิบัติงานกับผู้ถูกร้องซึ่งจะทําเวลาใด ล่าช้าค่ำคืนก็ได้

1578016576 2

@ปมการแจ้งเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นต่อนายทะเบียน ผิดปกติ

การแจ้งเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ในวันที่ 8 มกราคม 2562 ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มิได้มีการดําเนินการ เหมือนดังเช่นการปฏิบัติเป็นประจํา กล่าวคือ

หนังสือบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งส่งสําเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นในวันประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562 หนังสือบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ลงวันที่ 12 มกราคม 2558 ซึ่งส่ง สําเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นในวันประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2558 และ หนังสือบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ลงวันที่ 21 มีนาคม 2562 ซึ่งส่งสําเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นโดยคัดจากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 แม้ผู้ถูกร้องได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่า บริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ได้เลิกจ้างพนักงานบริษัทไปแล้วทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 จึงไม่มีนักบัญชีที่คอยดําเนินการติดตามจัดการเอกสารทางทะเบียน และคําเบิกความของ นางสาวลาวัลย์ จันทร์เกษม พยานของศาล ได้ความว่า เนื่องจากการโอนหุ้นในวันที่ 8 มกราคม 2562 เป็นการโอนหุ้นภายในครอบครัวจึงรุ่งเรืองกิจ จึงไม่ได้มีการจัดทําทันที และบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ได้มีการปลดพนักงานออกตั้งแต่ปี 2561 จึงไม่มีหน่วยงานจะมารับผิดชอบรับงานที่จะแจกจ่าย จากตนเองไปดําเนินการต่อก็ตาม แต่การเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้น ไม่ว่าจะเป็นการ เปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นของบุคคลภายในครอบครัวหรือไม่ก็ตาม การส่งสําเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นไป ยังนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ย่อมเป็นพยานหลักฐานที่ถูกต้อง และน่าเชื่อถือ และเป็นเอกสารมหาชนที่บุคคลทั่วไปสามารถตรวจสอบได้ว่าบริษัทนั้น ๆ ได้มีการโอนหุ้น กันจริงหรือไม่ ซึ่งมีน้ำหนักได้ดีกว่าสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ที่สามารถจัดทํา ขึ้นในเวลาใดก็ได้เพราะเป็นการกระทําของบุคคลภายในครอบครัวและพนักงานของผู้ถูกร้อง และเป็นเพียงข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1141 เท่านั้น ประกอบกับที่ผู้ถูกร้องได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่าไม่มีนักบัญชีที่คอยดําเนินการ ติดตามจัดการเอกสารทางทะเบียน ย่อมขัดกับข้อเท็จจริงที่นางสาวลาวัลย์ จันทร์เกษม เบิกความว่า สามารถดําเนินการได้ และได้ดําเนินการไปแล้วในวันที่ 21 มีนาคม 2562 ดังนั้นคําชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาของผู้ถูกร้องจึงไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟังได้

1578016584 5

@เชื่อสั่งจ่ายเช็คหลัง 8 ม.ค.62

เช็คที่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้สั่งจ่ายค่าหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด เป็นจํานวนเงิน 6,750,000 บาท ให้แก่ผู้ถูกร้อง ในวันที่ 8 มกราคม 2562 นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภริยาของผู้ถูกร้อง นําไปเข้าบัญชีที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเมกาบางนา เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากวันออกเช็คเป็นจํานวน 128 วัน และเป็นเวลาหลังจากที่ผู้ร้องได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ ผู้ถูกร้องแล้ว แม้นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ จะเบิกความถึงเหตุผลที่นําเช็คไปเข้าบัญชีล่าช้า เนื่องจากต้องเลี้ยงดูบุตรและทีมทนายความได้นําเช็คดังกล่าวไปใช้ชี้แจงต่อผู้ร้องก็ตาม แต่ก็ไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ เนื่องจากนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ สามารถนําเช็คไปเข้าบัญชีได้ตลอดเวลา หรือให้บุคคลอื่นนําสมุด บัญชีและเช็คไปเข้าบัญชีเมื่อใดก็ได้ และการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้ร้องย่อมสามารถใช้สําเนาเช็คหรือ เอกสารการรับรองจากธนาคารแทนได้ อีกทั้งเอกสารหลักฐานต้นขั้วเช็คปรากฏว่ามีการสั่งจ่ายเช็คก่อน หน้าฉบับที่สั่งจ่ายการโอนหุ้นครั้งนี้ คือ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 ทําให้เจ้าของเช็คสามารถจะระบุ วันที่เมื่อใดก็ได้ การเก็บเช็คที่มีการสั่งจ่ายเงินจํานวนมากเป็นเวลานานย่อมเป็นที่ผิดปกติวิสัยวิญญชน ทั่วไป การสั่งจ่ายเช็คดังกล่าวจึงน่าเชื่อว่าได้มีการสั่งจ่ายในภายหลังวันที่ 8 มกราคม 2562

pichfhfhfhfh

@โอนหุ้นให้ลูกมีค่าแทน แต่โอนหุ้นให้หลานกลับไม่มีค่าตอบแทน

การโอนหุ้นที่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โอนหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ให้แก่นายทวี จรุงสถิตพงศ์ หลานชาย ในวันที่ 14 มกราคม 2562 และต่อมานายทวี จรุงสถิตพงศ์ ได้โอนหุ้น กลับคืนไปยังนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันที่ 21 มีนาคม 2562 ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงจาก คําเบิกความของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าไม่มีค่าตอบแทนโดยอ้างความสัมพันธ์ในทางเครือญาติ แต่ในขณะเดียวกัน การโอนหุ้นระหว่างนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ กับผู้ถูกร้อง ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดยิ่งกว่า กลับมีค่าตอบแทน แม้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ จะเบิกความว่า ต้องการให้นายทวี จรุงสถิตพงศ์ มาแก้ปัญหาหรือฟื้นฟูบริษัท ฯ ก็ตาม แต่การโอนหุ้นให้แก่กันโดยไม่มีค่าตอบแทน ย่อมทําให้ไม่สามารถ ที่จะตรวจสอบได้ว่าได้มีการโอนหุ้นกันจริงหรือไม่ คงมีเพียงพยานเอกสารที่ใช้อ้างคือตราสารโอนหุ้นและสมุดทะเบียนและใบหุ้นซึ่งต่างก็เป็นเอกสารที่บริษัทฯ สามารถจัดทําขึ้นเองได้ในภายหลัง ประกอบกับ การที่นายทวี จรุงสถิตพงศ์ ได้โอนหุ้นดังกล่าวกลับคืนให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันที่ 21 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นระยะเวลาหลังจากได้รับโอนหุ้นไปเพียงสองเดือนกว่าซึ่งผิดปกติวิสัยของคนนักลงทุนทั่วไป ที่มีความประสงค์จะฟื้นฟูบริษัท ฯ ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาพอสมควรและต้องลงมือทํางานตาม แผนธุรกิจที่ศึกษาเสียก่อน ประกอบกับเมื่อพิจารณาจํานวนเงินที่ต้องลงทุนเพิ่มหากเทียบกับฐานะทาง เศรษฐกิจของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แล้ว ถือว่าเป็นเงินจํานวนเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ การโอนหุ้น ของนายทวี จรุงสถิตพงศ์ กลับคืนไปยังนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันที่ 21 มีนาคม 2562 ยังปรากฏจากรายงานการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ว่า นายทวี จรุงสถิตพงศ์ จะดําเนินการโอนหุ้นให้แก่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันที่ 21 มีนาคม 2562 ซึ่งไม่สมเหตุผล เนื่องจากนายทวี จรุงสถิตพงศ์ สามารถที่จะโอนหุ้นคืนให้แก่ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ตั้งแต่วันประชุมเป็นต้นไป ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่าการจัดทํารายงานการประชุม วิสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวเป็นการทําเอกสารที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงเพื่อให้เจือสมกับที่ปรากฏหลักฐานใน สําเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5) ซึ่งบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ได้ยื่นต่อนายทะเบียนหุ้นส่วน บริษัทกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 21 มีนาคม 2562

@ บอจ.ฉบับส่งนายทะเบียน 21 มี.ค.62 เป็นข้อเท็จจริง

เมื่อข้อเท็จจริงที่ได้จากพยานหลักฐานของผู้ถูกร้อง มีข้อพิรุธหลายประการยังไม่มีน้ำหนัก เพียงพอที่จะรับฟังได้ว่า ผู้ถูกร้องโอนหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ให้แก่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันที่ 8 มกราคม 2562 เชื่อว่า เอกสารสําเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5) ในวันที่ 21 มีนาคม 2562 ซึ่งบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ได้จัดส่งให้กับนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรุงเทพมหานคร ซึ่งปรากฏชื่อนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้รับหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด หมายเลขหุ้น 1350001 - 2025000 จํานวน 675,000 หุ้น ซึ่งเป็นหมายเลขหุ้นเดิมของผู้ถูกร้องในวันที่ 21 มีนาคม 2562 ดังนั้น ผู้ถูกร้องจึงเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ซึ่งประกอบกิจการ สื่อมวลชน ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวันที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อต่อผู้ร้องโดยมีรายชื่อของผู้ถูกร้องในลําดับที่ 1 อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ทําให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)

อ่านเรื่องประกอบ:

คำวินิจฉัย ‘ปัญญา’ ตุลาการศาล รธน. ไฉน!ทนายโนตารี คดีหุ้น วี-ลัค มีเดีย ไม่น่าเชื่อถือ

ฉบับเต็ม! ‘จรัญ ภักดีธนากุล’ เหตุผล 5 ข้อ ‘ธนาธร’ถือหุ้น วี-ลัค มีเดีย –ทําเอกสารย้อนหลัง

ทำเอกสารโอนย้อนหลัง! ความเห็น'จรัญ'คดีหุ้นสื่อ'ธนาธร' หลักฐานไม่ชัดแต่พิรุธหลายจุด

‘ธนาธร’ตั้งข้อสังเกต 5 ปมถูกศาล รธน. ฟันพ้น ส.ส.ยันหลักฐานโอนหุ้นเป็นไปตาม กม.

4 ข้อสังเกต‘อิศรา’คดีหุ้น‘วี-ลัค มีเดีย’ สอดคล้อง คำวินิจฉัยศาล รธน.-หลักฐานเชิงประจักษ์

5 ข้อพิรุธ! ‘ธนาธร’ไม่ได้โอนหุ้นสื่อ 8 ม.ค.62 (มีคำวินิจฉัยศาล รธน.ฉบับสมบูรณ์)

กกต.ลุยแจ้งข้อหาคดีอาญา‘ธนาธร’ปมรู้อยู่แล้วขาดคุณสมบัติแต่ยังสมัคร ส.ส. สัปดาห์หน้า

ประมวลท่าทีสื่อตปท. คำวินิจฉัย ศาล รธน.ให้ ’ธนาธร’ พ้น ส.ส.- มุ่งขัดขวาง ผู้นำฝ่ายค้าน

ปิยบุตร แสงกนกกุล : คำวินิจฉัยศาลรธน.หยุด 'ธนาธร' ไม่ได้ อนาคตใหม่ไม่เสียขวัญ

เครื่องเคียงข่าว : ใครเป็นใคร? ตุลาการศาล รธน.7:2 วินิจฉัย ’ธนาธร’ พ้น ส.ส.

INFO: ไทม์ไลน์ 8 เดือน คดีหุ้น วี-ลัค มีเดีย ดับ ‘ธนาธร’