x-files (25): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต จนท.บริษัทของรัฐ ช่วยเอกชนไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาเกินเวลา
“...บริษัท A ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐได้ทำสัญญาร่วมผลิตรายการกับบริษัท B ซึ่งเป็นเอกชนที่มีนาย ก เป็นกรรมการผู้จัดการ โดยบริษัท A ตกลงแบ่งเวลาโฆษณาให้บริษัท B ถ้ามีโฆษณาเกินกว่ากำหนด บริษัท B จะต้องชำระค่าโฆษณาเกินเวลาให้บริษัท A โดยมีนาง ข. เจ้าหน้าที่ธุรการของบริษัท A เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำคิวโฆษณารวมและเป็นผู้รายงานโฆษณาเกินเวลา ซึ่งนาง ข. ได้ให้ความช่วยเหลือบริษัท B โดยไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บเงิน ในการนี้นาย ก. ได้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คให้นาง ข. เป็นการตอบแทน...”
x-files :พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริตคดีดังในอดีต ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมาเสนอต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 25 เพื่อเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายนำไปใช้เป็นแนวทาง ในการตรวจสอบคดีทุจริตต่างๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ว่า รูปแบบพฤติการณ์การทุจริต รวมไปถึงข้อกฎหมายสำคัญที่ใช้ในการตัดสินคดีของ ป.ป.ช. มีรายละเอียดเป็นอย่างไร ในสัปดาห์นี้ ยังคงเป็นตัวอย่างคดีทุจริตในหมวด การพิจารณาหรือดำเนินการขัดต่อระเบียบกฎหมาย ผลประโยชน์ของทางราชการและประชาชนจะมีคดีสำคัญอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย (การเผยแพร่ข้อมูลระบุชื่อผู้เกี่ยวข้อง เป็นตัวอักษรย่อ เพื่อปกป้องสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา เพราะบางคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล)
@ กระทำผิดสัญญาในการไม่ชำระค่าโฆษณาเกินเวลา
ข้อเท็จจริง บริษัท A ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐได้ทำสัญญาร่วมผลิตรายการกับบริษัท B ซึ่งเป็นเอกชนที่มีนาย ก เป็นกรรมการผู้จัดการ โดยบริษัท A ตกลงแบ่งเวลาโฆษณาให้บริษัท B ถ้ามีโฆษณาเกินกว่ากำหนด บริษัท B จะต้องชำระค่าโฆษณาเกินเวลาให้บริษัท A โดยมีนาง ข. เจ้าหน้าที่ธุรการของบริษัท A เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำคิวโฆษณารวมและเป็นผู้รายงานโฆษณาเกินเวลา ซึ่งนาง ข. ได้ให้ความช่วยเหลือบริษัท B โดยไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บเงิน ในการนี้นาย ก. ได้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คให้นาง ข. เป็นการตอบแทน ต่อมานาง ค รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท A ได้สังเกตพบว่า รายการข่าวเที่ยงคืนออกอากาศล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนด จึงได้ตรวจสอบและเรียกนาง ข มาสอบถาม ซึ่งนาง ข. ได้รับสารภาพว่าบริษัท B มีการโฆษณาเกินและไม่มีการรายงานเพื่อเรียกเก็บเงินจริง โดยได้ใช้น้ำยาลบคำผิด ลบเฉพาะคิวโฆษณาเกินเวลาในส่วนของบริษัท B เพื่อปกปิดความผิดที่ได้กระทำขึ้นตามคำแนะนำของนาย ก. และนางสาว ง. พนักงานของบริษัท B ก่อนที่จะเกิดการตรวจสอบเรื่องนี้ขึ้น หลังจากนั้นบริษัท B ได้ชำระเงินค่าโฆษณาส่วนเกินให้บริษัท A โดยคิดรวมดอกเบี้ยพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ต่อมาบริษัท A ได้มอบอำนาจให้นาย ช. เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กล่าวหานาง ข. และนางสาว จ. หัวหน้างานของนาง ข. ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และกล่าวหานาย ก. นางสาว ง. และบริษัท B (ในฐานะนิติบุคคล) ว่าสนับสนุนให้นาง ข. กระทำความผิดดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ หลังจากนั้นบริษัท B กลับยื่นฟ้องเรื่องนี้ต่อศาลปกครองให้บริษัท A ชดใช้เงิน โดยอ้างว่า ในสัญญาตกลงแบ่งโฆษณาคนละครึ่ง ซึ่งบริษัท A ก็มีโฆษณาเกินเวลาด้วย ดังนั้นบริษัท A ต้องชำระค่าโฆษณาส่วนเกินให้บริษัท B เช่นเดียวกัน
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. การกระทำของ นาง ข มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญา ตามมาตรา 6 มาตรา 8 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 การกระทำของนางสาว จ ซึ่งเป็นหัวหน้างานและมีหน้าที่ควบคุม กำกับ ดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนาง ข มีมูลความผิดทางวินัยฐานประมาทเลินเล่อต่อหน้าที่เป็นเหตุให้เสียหายแก่ บริษัท A อย่างร้ายแรง
การกระทำของนาย ก. และนางสาว ง. และบริษัท B (ในฐานะนิติบุคคล) มีมูลความผิดฐานสนับสนุนพนักงานกระทำความผิดตามมาตรา 6 มาตรา 8 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
@ การออกใบอนุญาตให้กับโรงพยาบาล ต่อเติมทางเชื่อมระหว่างอาคารใหม่และอาคารเก่าโดยมิชอบ
ข้อเท็จจริง โรงพยาบาลแห่งหนึ่งได้ทำการต่อเติมทางเชื่อมระหว่างอาคารโดยตามแปลนที่ได้รับอนุญาตกำหนดให้ทำทางเชื่อมระหว่างอาคารใหม่กับอาคารเก่าเฉพาะชั้นที่ 1 และ 2 เท่านั้น แต่ในการก่อสร้างดังกล่าว ได้ว่าจ้างให้ผู้รับจ้างทำการต่อเติมทางเชื่อมตั้งแต่ชั้นที่ 3 – 6 มีพื้นที่ชั้นละ 68 ตารางเมตร เพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างทางเชื่อมระหว่างอาคารใหม่และเก่าตั้งแต่ชั้น 3 – 6 ภายหลังซึ่งระหว่างการพิจารณาตรวจสอบการขอนุญาตปรากฏว่า โรงพยาบาลได้ดำเนินการก่อสร้างทางเชื่อมอาคารดังกล่าวไปจนแล้วเสร็จ ต่อมา เทศบาล A ได้แจ้งความดำเนินคดีกับโรงพยาบาล ข้อหาก่อสร้างดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรจังหวัด มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาฐานก่อสร้างดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่พนักงานอัยการจังหวัด มีคำสั่งไม่ฟ้อง โดยเห็นว่าจากคำยืนยันของวิศวกรควบคุมงานการทำทางต่อเชื่อมระหว่างอาคารไม่เกี่ยวกับโครงสร้างอาคาร และไม่ทำให้อาคารต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นเกิน 10% จึงเป็นเรื่องที่ดำเนินการได้ ตามนัยมาตรา 4 (5) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ประกอบกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 และ 12
คณะอนุกรรมการไต่สวนได้ไต่สวนวิศวกรอีกครั้ง ได้ความว่า ที่คำนวณโครงสร้างอาคารในชั้นพนักงานสอบสวนนั้น คำนวณเฉพาะทางเชื่อมเท่านั้น ไม่รวมทางเดินซึ่งทำมาพร้อมกับอาคาร เพราะพนักงานสอบสวนถามเฉพาะส่วนที่เชื่อม แต่หากคิดรวมน้ำหนักทั้งหมดจะเกินร้อยละ 10 (ทางเดินที่ทำตั้งแต่ชั้น 3 – 6 ขณะก่อสร้าง) และให้การเพิ่มเติมว่า อาคารเดิมกับอาคารหลังใหม่ที่ก่อสร้าง ถ้าเชื่อมทางเดินใช้สอยร่วมกันต้องถือว่าเป็นอาคารหลังเดียวกันและคิดพื้นที่รวมกันซึ่งรวม 2 อาคารแล้ว จะมีพื้นที่ทุกชั้นรวมกันเกินกว่า 10,000 ตารางเมตร ขึ้นไปซึ่งจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขในกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ข้อ 3 และข้อ 4
ต่อมานาย ก. ในฐานะนายกเทศมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบการขออนุญาตก่อสร้างอาคารของโรงพยาบาล ประกอบด้วย นาย ก. เป็นประธานกรรมการ เทศมนตรีฝ่ายโยธา และพนักงานเทศบาลที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ และมีการประชุมคณะกรรมการฯ ดังกล่าว โดยที่ประชุมมีมติเห็นควรอนุญาตให้ก่อสร้างต่อเติมอาคารทางเชื่อมของอาคารดังกล่าว ต่อมา นาย ก. ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ได้ออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารให้กับโรงพยาบาลแห่งนี้
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. การกระทำของนาย ก. เทศมนตรีฝ่ายโยธา และพนักงานเทศบาลที่ร่วมเป็นกรรมการในกรณีที่พิจารณาและมีมติอนุญาตให้โรงพยาบาลก่อสร้างต่อเติมอาคารส่วนที่เป็นทางเชื่อมระหว่างอาคาร 2 หลังได้ และต่อมาได้ออกใบอนุญาตให้กับโรงพยาบาล ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) มีมูลเป็นความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 นอกจากนี้ พนักงานเทศบาลที่ร่วมเป็นกรรมการ ยังมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงอีกด้วย
@ การทุจริตไม่ดำเนินการตามสัญญาจัดซื้อ (จัดจ้างการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก)
ข้อเท็จจริง กระทรวง A ได้จ้างมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งโดยมี นาย ก. ในฐานะอธิการบดีมหาวิทยาลัย เป็นที่ปรึกษาออกแบบผังแม่บทและสิ่งก่อสร้าง จ้างควบคุมงานมหกรรมพืชสวนโลก โดยนาย ก. ได้นำงานดังกล่าวไปจ้างบริษัทเอกชนเป็นส่วนใหญ่อันมีลักษณะเป็นการจ้างช่วงไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ และไม่ปฏิบัติตามข้อสัญญาที่มหาวิทยาลัยตกลงกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งไม่ปฏิบัติตามประกาศสภามหาวิทยาลัย ว่าด้วยเงินรายได้ แต่เนื่องจากการจัดซื้อจัดจ้างได้มีการยึดถือปฏิบัติในลักษณะดังกล่าวติดต่อกันมาเป็นเวลานานโดยให้เป็นดุลยพินิจของหัวหน้าโครงการ ประกอบกับงานที่ได้รับการว่าจ้างดำเนินการได้ผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ภายในระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. การกระทำของนาย ก. เป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 85 วรรคหนึ่ง ประกอบพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2507 มาตรา 4 และกฎทบวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2519) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2507 ข้อ 10 และตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 39 วรรคสี่
@ ทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ข้อเท็จจริง นาย ก. นาย ข. และนาย ค. ได้จัดการให้มีการหาคะแนนเสียงจากประชาชนให้เลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมีการนำรายชื่อประชาชนที่คุ้นเคยและสามารถชักจูงให้ไปลงคะแนนเสียง จำนวน 250 คน ไปให้นาย ข. ที่บ้านพัก ต่อมามีการนำเงินจำนวน 25,000 บาท ไปดำเนินการเพื่อให้มีการแจกจ่ายให้กับประชาชนตามรายชื่อและแจกจ่ายแก่กลุ่มญาติ จำนวน 12 คน คนละ 100 บาท เพื่อให้เลือกผู้สมัครดังกล่าว ซึ่งนาย ก. ได้ไปยื่นคำร้องขอคัดบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เขตหนองจอก และได้นำเงินสดจำนวน 400,000 บาท ไปแลกเป็นธนบัตรใบละ 100 บาท จากธนาคารแห่งหนึ่งสาขาหนองจอก และนำเงินสดบางส่วนพร้อมกับแยกบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้แก่ นาย ข. และนาย ค. นำไปให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนให้เลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งรายหนึ่ง
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. การกระทำของนาย ก. นาย ข. และนาย ค. มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงตามกฎหมายการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 83
@ ลักลอบดักฟังและบันทึกเทปการสนทนาทางโทรศัพท์
ข้อเท็จจริง มีบุคคลกระทำการลักลอบดักฟังและบันทึกเสียงการโทรศัพท์ที่บ้านของผู้เสียหายจากหมายเลขโทรศัพท์จำนวน 4 เลขหมาย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของนาย ก. พนักงานองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ซึ่งได้ทำการจดข้อมูลหมุดเลขหมายของหมายเลขโทรศัพท์ทั้ง 4 เลขหมาย โดยไม่มีการแจ้งเหตุโทรศัพท์ขัดข้องจากผู้เสียหายและได้มีบุคคลนำข้อมูลหมุดเลขหมายดังกล่าวไปทำการหาตำแหน่งของหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหายที่ตู้ชุมสายโทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมทำการลักลอบดักฟังและบันทึกเทปการสนทนาทางโทรศัพท์ในขณะที่มีการใช้โทรศัพท์ที่บ้านของผู้เสียหาย
สำหรับนาย ข. หัวหน้าชุมสายโทรศัพท์ ได้กระทำการโดยประมาทในการเก็บรักษากุญแจตู้ชุมสายโทรศัพท์ ที่อยู่ในความรับผิดชอบจนทำให้เกิดการลักลอบดักฟังและบันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ที่บ้านของผู้เสียหาย โดยไม่ระมัดระวังในการเก็บรักษากุญแจและการเข้าออกตู้ชุมสายโทรศัพท์ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. การกระทำของนาย ก. มีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ส่วนการกระทำของนาย ข. มีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงตามข้อบังคับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย
------------
สัปดาห์หน้าจะมีคดีสำคัญๆ เกี่ยวกับการพิจารณาหรือดำเนินการขัดต่อระเบียบกฎหมาย ผลประโยชน์ของทางราชการและประชาชนอะไรอีกบ้าง โปรดติดตามกันต่อไป
อ่านประกอบ :
x-files (1) : พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต รมต.-ผอ.รพ.รัฐ เอื้อปยจัดซื้อจ้างบ.พวกพ้อง
x-files (2) : พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต บทลงโทษ พลเอก 'ก.' เลี่ยงระเบียบซื้อที่ดิน32ล.
x-files (3): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต คดีใหญ่รถดับเพลิง-นายกอบจ.งาบมุ้งไข้เลือดออก
x-files (4):พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริตที่ปรึกษารมต.จัดซื้อยา-เชือดอธิบดีงาบเรือขุด
x-files (5):พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต อบต.ตรวจงานเท็จ -ประปาร้อยเอ็ดเรียกเงินผู้รับจ้าง
x-files (6):พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต ร.ต.อ.ยักยอกATM ผู้ต้องหาคดียาบ้ากดเงินใช้ 7 แสน
x-files (7):พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต พันเอก พ. อมค่าโฆษณาวิทยุกองทัพภาคที่ 2
x-files (8): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต สจ. 'ข.' เอารถหลวงจำนำร้านคาราโอเกะ
x-files (9): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต พ.ต.ต. แก้ใบเสร็จยักยอกเงินซื้อรองเท้า 3แสน
x-files (10): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต ดาบตำรวจ ‘ก.’ เรียกรับเงินงบซ่อมถนน 7 แสน
x-files (11): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต บิ๊กตำรวจ ‘ก.’ รับเคลียร์หนี้พนันละเว้นจับกุม
x-files (13): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต จ.ส.ต. ‘ส.’ รับสินบนละเว้นตรวจหนังสือเดินทางปลอม
x-files (14): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต เจ้าพนักงานเรียกรับเงิน ช่วยลดโทษผู้ต้องหายาเสพติด
x-files (15): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต ร.ต.อ. ‘ก’ แจ้งข้อกล่าวหาคดีเช็คไม่ครบถ้วน
x-files (16): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต นาง ‘จ’ จนท.ปกครอง ช่วยคนไร้สัญชาติทำบัตรประชาชนเท็จ
x-files (17): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต นายอำเภอ-ปลัด ปลอมใบเกิดช่วยต่างด้าวได้สัญชาติไทย
x-files (18): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต นาย ‘ก’ จนท.ทะเบียน เรียกเงินช่วยเปลี่ยนชื่อ-สวมเลขปชช.
x-files (19): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต การสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรม กรรมการ-ผู้สอบ รวม122คน
x-files (20): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต 3 จนท.กองสลาก ร่วมโกงล็อครางวัลที่1
x-files (23): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต ตร.อารักขานักการเมือง จับกุมผู้ชุมนุมโดยมิชอบ
x-files (24): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต แก้ไขเปลี่ยนแปลงฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง