ศาลปกครองให้ซี 7 กรมพลฯ ชนะคดีถูกไล่ออกคดีสนามกีฬาคลองหก คำสั่งมิชอบ
ชี้คำสั่งมิชอบ! ศาลปกครองกลางให้อธิบดีกรมพลศึกษา-สำนักงาน ก.พ.-นายกฯ แพ้คดี ซี 7 ฟ้อง ถูกไล่ออกจากราชการ คดีสร้างสนามกีฬาคลอง 6 หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตผิดวินัยร้ายแรง ให้คืนสิทธิย้อนหลังถึงปี 50 เสมือนไม่ถูกลงโทษ ก่อนหน้าคดีอาญา ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ไม่มีความผิด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2561 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้นายวิทยา วงษ์สมาน อดีตข้าราชการระดับ 7 สังกัดกรมพลศึกษา เป็นผู้ชนะ คดีกรณีฟ้อง อดีตอธิบดีกรมพลศึกษา (ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (เดิม) ที่ 1 ,สำนักงาน ก.พ. ที่ 2 และ นายกรัฐมนตรีที่ 3 คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( คณะกรรมการ ป.ป.ช. ) เป็นผู้ร้องสอด อันเนื่องมาจากนายวิทยาถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลว่าร่วมกันทุจริตโครงการ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ ใน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี วงเงินรวมประมาณ 2 พันล้านบาท (สนามกีฬาคลอง 6) ถูกหน่วยงานไล่ออกจากราชการ ขณะที่นายวิทยาได้ฟ้องศาลปกครองกลางให้เพิกถอนคำสั่งไล่ออกจากราชการดังกล่าว
ศาลปกครองวินิจฉัยว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า ผู้ฟ้องคดีฐานะกรรมการตรวจการจ้าง ได้รับรองว่า งานงวดที่ 6 แล้วเสร็จถูกต้องตามสัญญาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2541 และรับรองว่า งานงวดที่ 7 และงานงวดที่ 8 (งวดสุดท้าย) แล้วเสร็จถูกต้องตามสัญญาเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2551 โดยที่งานทั้งสามงวดไม่ได้แล้วเสร็จจริง และรับฟังไม่ได้ว่า ผู้ฟ้องคดีในฐานะอนุกรรมการพิจารณาการงดหรือลดค่าปรับให้ผู้รับจ้าง 4 หมวดงาน พิจารณาลดค่าปรับให้แก่ผู้รับจ้าง 4 หมวดงาน โดยไม่ชอบด้วยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 หรือโดยมิชอบ การกระทำของผู้ฟ้องคดีจึงไม่มีมูลเป็นความผิดวินัยร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และหรือฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 ดังที่ผู้ร้องสอดมีมติ การที่ผู้ถูกฟ้องคดที่ 1 ลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการตามมติของผู้ร้องสอด จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อคำสั่งสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการที่ 707/2550 เรื่องลงโทษไล่ออกจากราชการ ลงวันที่ 5 ธ.ค.2550 ที่ลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ที่ยกอุทธรณ์ ของผู้ฟ้องคดี จึงย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
พิพากษาเพิกถอนคำสั่งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ที่ให้ยกอุทธรณ์ ทั้งนี้ ให้เพิกถอนย้อนหลังไปถึงวันที่ 5 ธ.ค.2550 และให้คืนสิทธิและประโยชน์อันพึงมีพึงได้ แก่ผู้ฟ้องคดี โดยถือเสมือนว่าผู้ฟ้องคดีไม่เคยถูกลงโทษไล่ออกจากราชการแต่อย่างใด (คดีหมายเลขแดงที่ 1163/2561)
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า คดีทุจริตก่อสร้างสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2550 ชี้มูลวินัยร้ายแรงและอาญาต่อ นายสุวรรณ กู้สุจริต รองอธิบดีกรมพลศึกษา นายวิทยา วงษ์สมาน เจ้าหน้าที่พัสดุ 7 กับพวก รวมเอกชน 1 ราย คือ นายบุญชู วงศ์กิจรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามอินเตอร์ แอร์ ซัพพลาย จำกัด ทั้งสิ้น 11 คน
ในส่วนของคดีอาญา อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง
ต่อมา 5 ต.ค. 2555 ศาลชั้นมีพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 11 คน
กระทั่ง 8 พ.ค. 2557 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ในส่วนของการลงโทษทางวินัย นายวิทยาถูกกรมพลศึกษาไล่ออกจากราชการตามคำชี้มูลของ ป.ป.ช. ต่อมา นายวิทยา ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ใน 3 ประเด็น
(1) เพิกถอนคำสั่งสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ ที่ 707/2550 เรื่อง ลงโทษไล่ออกจากราชการ ลงวันที่ 5 ธันวาคม 2550
(2) เพิกถอนคำวินิจฉัยการพิจารณาอุทธรณ์ของสำนักงาน ก.พ.
(3) ให้ผู้ฟ้องคดีคืนสิทธิและผลประโยชน์ให้แก่ผู้ฟ้องคดีตามกฎหมาย ตั้งแต่มีสำสั่งไล่ออกจากราชการจนถึงวันที่มีผลการพิจารณาของศาล
กรณีนี้ 4 ก.ย. 57 นายวิทยา ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมพลศึกษาติดตามผลการร้องขอความเป็นธรรม
4 ธ.ค. 57 ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมพลศึกษาติดตามผลการร้องขอความเป็นธรรมอีกครั้ง
24 ธ.ค. 57 ทำหนังสือถึง ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอให้ อ.ก.พ.กระทรวงการท่องเที่ยวฯพิจารณากรณีลงโทษไล่นายวิทยาออกจากราชการใหม่ และทำหนังสือถึงอธิบดี กรมพลศึกษา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกคำสั่งไล่ออกและคืนสิทธิความเป็นราชการ แต่กลับพิจารณาว่าให้รอคำพิพากษาของศาลปกครอง และเคยเสนอวิธีการไกล่เกลี่ยกับหน่วยงาน เพื่อที่จะให้เรื่องต่างๆยุติโดยชนะทั้งสองฝ่าย แต่มิได้รับความเห็นแต่อย่างใด
17 ก.ย. 58 ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมพลศึกษาให้พิจารณาตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
29 ก.ย. 58 ศาลปกครองกลาง มีหนังสือถึงนายวิทยาให้ยื่นคำคัดค้านคำให้การของ ป.ป.ช.
17 พ.ย. 58 ยื่นหนังสือร้องเรียนและขอความเป็นธรรมต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอพิจารณากลับเข้ารับราชการหลังจากศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินยกฟ้องไม่มีความผิดในคดีอาญาและคดีถึงที่สุด
13 ต.ค. 2559 นายวิทยายื่นหนังสือ 2 ฉบับถึงประธานกรรมการ ป.ป.ช. (พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ และ ถึง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ร้องเรียนอ้างว่า เจ้าพนักงาน ป.ป.ช. ปฏิบัติหน้าที่โดยขาดความเที่ยงธรรม หรือ กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีใช้เอกสารปลอมในการไต่สวนคดีทุจริตก่อสร้างสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ (สนามกีฬาคลอง 6) และชี้มูลความวินัยร้ายแรง และคดีอาญาต่อนายวิทยา กระทั่ง หน่วยงานต้นสังกัดมีคำสั่งไล่ออกจากราชการ ทว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นยกฟ้อง นายวิทยากับพวก ไม่มีความผิดในคดีอาญา
กระทั่งศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาดังกล่าว
อ่านประกอบ:
ยื่นประธาน ป.ป.ช. สอบ ‘คน ป.ป.ช.’ ใช้เอกสารปลอมไต่สวนคดีสนามกีฬาคลอง 6
18 ปีคดีทุจริตสร้างสนามกีฬาคลอง 6 เริ่มต้นที่ ป.ป.ช. (ยัง) ไม่จบที่ศาลปกครอง?
เปิดคำให้การ ป.ป.ช.ซัดแหลกซี 7 -ศาล ปค.ไม่มีอำนาจ คดีทุจริตสนามกีฬาคลอง 6
ป.ป.ช.ยก 5 ข้อสู้คดีซี 7 กรมพลฯฟ้องเพิกถอนคำสั่งไล่ออกทุจริตสนามกีฬาคลอง6
เปิดคำพิพากษาคดีสร้างสนามกีฬา 2 พันล. พยานซัดกันนัว-ยกฟ้องอดีตอธิบดีกับพวก
อดีต ขรก.คดีทุจริตสนามกีฬา 2 พันล. ยื่น ‘ประยุทธ์’ ขอกลับรับราชการหลังศาลยกฟ้อง