อดีต ขรก.คดีทุจริตสนามกีฬา 2 พันล. ยื่น ‘ประยุทธ์’ ขอกลับรับราชการหลังศาลยกฟ้อง
1 ใน 11 จำเลยคดีทุจริตก่อสร้างสนามกีฬาฯคลอง 6 วงเงิน 2 พันล. กรมพลศึกษา ยื่นประยุทธ์-รมว.กระทรวงท่องเที่ยว ขอกลับรับราชการ หลังศาลตัดสินยกฟ้องทั้งหมด สวนทางสำนวน ป.ป.ช. ‘สุวรรณ กู้สุจริต’อดีตอธิบดีรอดด้วย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อ 17 พ.ย.58 นายวิทยา วงษ์สมาน 1 ใน 11 จำเลยคดีทุจริตก่อสร้างสนามกีฬาคลองหกของกรมพลศึกษาได้ยื่นหนังสือร้องเรียนและขอความเป็นธรรมต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอพิจารณากลับเข้ารับราชการหลังจากศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินยกฟ้องไม่มีความผิดในคดีอาญาและคดีถึงที่สุด
นายวิทยา ระบุในหนังสือว่า ก่อนหน้านี้ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีความผิดทางอาญา ในการดำเนินการทางวินัยร้ายแรง กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มีคำสั่งไล่นายวิทยาและพวกออกจากราชการ ตั้งแต่วันที 5 ธ.ค.50 ต่อมานายวิทยาได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆแล้ว จนในที่สุดได้นำเรื่องฟ้องต่อศาลปกครอง เมื่อ 20 พ.ค.54 และในการเอาผิดทางอาญา สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดฟ้องเป็นคดีเมื่อ 31 ส.ค.52 บัดนี้ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คดีถึงที่สุดจึงถือว่าไม่มีความผิด
นายวิทยาระบุว่า ได้มีหนังสือถึงกรมพลศึกษา ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกคำสั่งไล่ออกและคืนสิทธิความเป็นราชการ แต่กลับพิจารณาว่าให้รอคำพิพากษาของศาลปกครอง และเคยเสนอวิธีการไกล่เกลี่ยกับหน่วยงาน เพื่อที่จะให้เรื่องต่างๆยุติโดยชนะทั้งสองฝ่าย แต่มิได้รับความเห็นแต่อย่างใด
นายวิทยาระบุว่า ในเมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลในฐานของเรื่องเดียวกัน เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงและเป็นความผิดทางอาญาด้วยแล้วนั้น เมื่อศาลอาญามีคำพิพากษาอย่างละเอียดตามฟ้อง และพิพากษายกฟ้องนายวิทยากับพวกและศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้ฐานความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงของ ป.ป.ช.ก็ย่อมที่จะไม่มีความผิดไปด้วย เพราะเป็นฐานของเรื่องเดียวกัน เพราะกรมพลศึกษาได้ปฏิบัติตามมาตรา 92 ของ ป.ป.ช. โดยไม่มีการสอบสวนใหม่ ถือเอาคำชี้มูลของ ป.ป.ช.เป็นสำนวนด้วย
“เมื่อศาลอาญาได้พิพากษาโดยละเอียดว่าข้าพเจ้าและพวกไม่มีความผิดตามฟ้อง ก็ย่อมมีผลถึงเรื่องของวินัยด้วย จึงขอให้ทาง คสช.ช่วยดำเนินการพิจารณาด้วย”หนังสือร้องเรียนระบุ
นายวิทยาเปิดเผยสำนักข่าวอิศรายอมรับว่าได้ยื่นร้องเรียนต่อหัวหน้า คสช. ในกรณีดังกล่าวและได้ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมพลศึกษา ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอให้พิจารณากลับเข้ารับราชการ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกลับคืนมา แต่ขณะนี้ไม่มีความคืบหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนเมื่อ 8 พ.ค.57 ยกฟ้องจำเลย 11 คน (คดีหมายเลขแดงที่ 7688/2557) ได้แก่
1.นายสุวรรณ กู้สุจริต รองอธิบดีกรมพลศึกษา ต่อมาเป็นอธิบดีกรมพลศึกษา (จำเลยที่ 1)
2.นายสมเกียรติ ตงศิริ เจ้าหน้าที่ออกแบบก่อสร้าง (จำเลยที่ 2)
3.นายบัณฑิต ปลีจินดา เจ้าหน้าที่พัสดุ 7 (จำเลยที่ 3)
4.นายวิทยา วงษ์สมาน เจ้าหน้าที่พัสดุ 7 (จำเลยที่ 4)
5.นายประพันธ์ ไพรอังกูร นายช่างไฟฟ้า 5 (จำเลยที่ 5)
6.นายปกรณ์ ปั้นจั่น นายช่างเขียนแบบ 4 (จำเลยที่ 6)
7.นายสมศักดิ์ อยู่คง ผู้อำนวยการวิทยาลัยพลศึกษากรุงเทพ (จำเลยที่ 7)
8.นายสมพงษ์ ผาสุก นายช่างโยธา 5 (จำเลยที่ 8)
9.นายพีชเรข พิริยหะพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการกีฬา (จำเลยที่ 9)
10.นายพีระพงศ์ สุวรรณราช เจ้าหน้าที่พลศึกษา 6 (จำเลยที่ 10)
11.นายบุญชู วงศ์กิจรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามอินเตอร์ แอร์ ซัพพลาย จำกัด (จำเลยที่ 11)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ชี้มูลวินัยร้ายแรงและดำเนินคดีอาญาข้าราชการ 11 คนกระทำผิดฐานทุจริตกรณีก่อสร้างโครงการสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 2 โครงการใน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี วงเงินรวมประมาณ 2 พันล้านบาท เป็นที่มาของการร้องเรียนต่อหัวหน้า คสช.ดังกล่าว