ป.ป.ช.ยก 5 ข้อสู้คดีซี 7 กรมพลฯฟ้องเพิกถอนคำสั่งไล่ออกทุจริตสนามกีฬาคลอง6
ป.ป.ช.ร่าย 5 ข้อยันศาลปกครองไม่มีอำนาจพิจารณา คดีอดีตข้าราชการระดับ 7 กรมพลศึกษา จำเลยคดีทุจริตก่อสร้างสนามกีฬาคลอง 6 ฟ้องเพิกถอนคำสั่งลงโทษไล่ออกหลังถูกชี้มูลวินัยร้ายแรง
กรณีนายวิทยา วงษ์สมาน อดีตข้าราชการระดับ 7 สังกัดกรมพลศึกษา ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้เพิกถอนคำสั่งสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (กรมพลศึกษา) ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ที่มีคำสั่งไล่ออกจากราชการตามคำวินิจฉัยชี้มูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) คดีทุจริตก่อสร้างสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ (สนามกีฬาคลอง 6 ) กรมพลศึกษาโดยมีคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ยื่นคำร้องสอด และศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องสอดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไว้พิจารณา นั้น
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช.ผู้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ยื่นคำร้องสอดต่อศาลปกครองกลาง 5 ข้อ ทั้งในข้อเท็จจริงคืออธิบายความเป็นมาพฤติการณ์การกระทำความผิดจนเป็นเหตุให้ตั้งอนุคณะกรรมการไต่สวน และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลผู้ฟ้องคดี และสู้คดีในข้อกฎหมายที่ชี้ว่าผู้ฟ้องคดีไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งลงโทษของผู้ถูกฟ้องคดี และคดีนี้ไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครองกลางที่จะรับฟ้องของผู้ฟ้องคดีไว้พิจารณาหรือขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งยกฟ้องของผู้ฟ้องคดี
“ผู้ร้องสอดเห็นว่า ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครอง แต่อำนาจดังกล่าวไม่รวมถึงการใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงของผู้ร้องสอด ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ศาลปกครองจึงไม่อาจเพิกถอนมติของผู้ร้องสอด ในฐานะที่เป็นการใช้อำนาจโดยตรงตามรัฐธรรมนูญของผู้ร้องสอด และผู้ฟ้องคดีไม่อาจฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ลงโทษทางวินัยแก่ผู้ฟ้องคดีตามมติของผู้ร้องสอด และคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (สำนักงาน ก.พ. สำนักพิทักษ์ระบบคุณธรรม) ที่ยกอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยของผู้ฟ้องคดีได้ เพราะการดำเนินการทางวินัยกรณีเช่นนี้เป็นคนละกรณีกับการดำเนินการทางวินัยโดยผู้บังคับบัญชาทั่วไป” คำให้การของ กรรมการ ป.ป.ช.
ก่อนหน้านี้ นายวิทยา เปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า เหตุที่ยื่นฟ้องศาลปกครองเพิกถอนคำสั่งไล่ออกจากราชการของกรมพลศึกษา เนื่องจากเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ใช้ข้อเท็จจริงเดียวกันกับการชี้มูลให้ดำเนินคดีอาญา ซึ่งการดำเนินคดีอาญานั้นศาลชั้นมีพิพากษายกฟ้องเมื่อ 5 ต.ค.55 และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนเมื่อ8 พ.ค. 2557 และคดีถึงที่สุดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิทยา วงษ์สมาน นายสุวรรณ กู้สุจริต รองอธิบดีกรมพลศึกษา ต่อมา เป็นอธิบดีกรมพลศึกษา กับพวกรวม 11 คน ถูกกรมพลศึกษาไล่ออกตามคำชี้มูลวินัยร้ายแรงและดำเนินคดีอาญาฐานกระทำผิดฐานทุจริตกรณีก่อสร้างโครงการสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ 2 โครงการใน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี วงเงินรวมประมาณ 2 พันล้านบาท
ต่อมา นายวิทยาได้ยื่นหนังสือร้องเรียนและขอความเป็นธรรมต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล นางกอบกาญจน์วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงกีฬา ฯ และอธิบดีกรมพลศึกษา เพื่อขอพิจารณากลับเข้ารับราชการหลังจากศาลอุทธรณ์ตัดสินยกฟ้องไม่มีความผิดในคดีอาญาและคดีถึงที่สุด แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
อ่านประกอบ: