กลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง เหตุกองทัพพบศพชาวฮินดูในยะไข่
องค์กรสิทธิฯ เรียกให้กองทัพเมียนมารับผิดชอบความรุนแรงในรัฐยะไข่ กดดันยูเอ็นคว่ำบาตร ล่าสุดพบหลุมศพชาวฮินดู คาดเป็นผลงานของกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญา ด้าน ARSA ปฏิเสธความรับผิดชอบในครั้งนี้
เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2560 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า องค์กรฮิวแมนไรซ์วอชช์ (HUMAN Rights Watch - HRW ) และ เเอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ระบุถึงปฏิบัติการทางทหารของกองทัพเมียนในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐยะไข่ รวมถึงกลุ่มชาวพุทธหัวรุนแรงที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาถึงการทำร้ายร่างกาย ฆ่าข่มขืน และเผาบ้านเรือน ต้องรับผิดชอบต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อกลุ่มชาติพันธุ์โรฮิงญา อันเป็นอาชญากรรมร้ายแรงในการละเมิดสิทธิมนุษยชน
นายเจมส์ รอส ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายและนโยบายของ HRW กล่าวว่า ปฏิบัติที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรงต่อร่างกาย และการเผาทำลายบ้านเรือน อันเป็นเหตุให้ชาวโรฮิงญาจำนวนมากต้องหนีตาย ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นการอาชญากรรมร้ายแรงที่ละเมิดสิทธิมนุษย์ การออกมาระบุร่วมกันในครั้งนี้เพื่อกดดันให้เกิดกระบวนการจัดการทั้งจากองค์กรภายนอกไม่ว่าจะเป็น องค์การสหประชาชาติ และรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อยุติปัญหานี้โดยเร็ว
ทั้งนี้ที่ผ่านมา องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนได้พยายามเรียกร้องให้ กรรมาธิการสหประชาชาติ ทำการคว่ำบาตรกองทัพเมียนมาโดยไม่ห้ามขายอาวุธ ยุทโธปกรณ์ให้ อันนำไปสู่ปฏิบัติการล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้น
ในรายงานของ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration – IOM) ระบุว่า จำนวนผู้อพยพชาวโรฮิงญาในบังคลาเทศขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 429,000 คน นับตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา
แม้ว่าทางนางอองซาน ซูจีจะระบุว่าปฏิบัติการต่างๆ ทางทหารได้ยุติลงไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่องค์กร HRW กลับยืนยันว่าพบการเผาบ้านเรือนประชาชน ซึ่งถ่ายจากดาวเทียม ( อ่านประกอบ : สวนแถลงซูจีฮิวแมนไรซ์ฯเผยภาพดาวเทียมชุดใหม่พบบ้านโรฮิงญา 214 ชุมชนโดนเผาเรียบ )
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้เผยแพร่รายงานผลการตรวจร่างกายผู้อพยพชาวโรฮิงญาจากพื้นที่ค่ายอพยพในฝั่งบังคลาเทศ ซึ่งพบว่า ผู้หญิงหลายรายมีร่องรอบการถูกข่มชืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งครบรอบหนึ่งเดือนของเหตุความรุนแรงในรัฐยะไข่ ทางกองทัพเมียนมา ได้เปิดเผยว่ามีการพบหลุมศพ ซึ่งปรากฏเป็นศพของชาวเมียนมาที่นับถือศาสนาฮินดูจำนวน 17 ราย ถูกฝังรวมกันใกล้กับเมือง Maungtaw ตอนเหนือของรัฐยะไข่ หลังที่ก่อนหน้านี้มีการพบศพผู้หญิงและเด็กจำนวน 28 ราย โดยทางการระบุว่าศพเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกัลกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญา หรือ ARSA
ซึ่งจากชันสูตรศพเบื้องต้น พบว่า สภาพศพส่วนใหญ่ถูกมัดมือไขว้หลังและปิดตา พร้อมทั้งพบรอยฉีดขาดบริเวณลำคอหนึ่งในชาวฮินดูที่ช่วยทหารในการขุดศพครั้งนี้ กล่าวกับทาง เอเอฟพีว่า เราได้ทำการค้นหาหลุมศพเหล่านี้พร้อมกับทางตำรวจและทหาร ซึ่งเชื่อว่ามีเหยื่อชาวฮินดูอีกกว่า 100 รายถูกฆ่าตาย
ทางด้าน บีบีซี รายงานว่าจากการพูดคุยกับชาวฮินดูซึ่งอพยพหนีความรุนแรงออกมา โดยอ้างว่าพวกเขาถูกกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาโจมตี โดยกล่าวหาว่าพวกเขาคือสายลับให้กับทางกองทัพเมียนมา
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาหรือ ARSA ได้ประกาศยุติการใช้อาวุธ และได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ ทั้งยังปฏิเสธเหตุฆ่าชาวฮินดูที่ทางการเมียนมาระบุด้วยเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.ยะไข่สลายม็อบขวางกาชาดสากลช่วยโรฮิงญา ด้านรองปธน.เมียนมาย้ำ สถานการณ์ดีขึ้นเเล้ว
ซูจีแถลงครั้งแรกวิกฤติโรฮิงญาขอประณามทุกความรุนแรงย้ำรัฐกำลังแก้ปัญหา
ไม่มี'โรฮิงญา' ในถ้อยแถลงของ ซูจี สิ่งยืนยันว่าพวกเขาไร้ตัวตน
ยูนิเซฟ ประกาศเด็กโรฮิงญา 2แสนคน ต้องการความช่วยเหลือด่วน ทั้งด้านร่างกาย-จิตใจ
ไม่ใช่เบงกาลี แต่คือโรฮิงญา สำนึกร่วม ประวัติศาสตร์บนพื้นที่อาระกัน
โรฮิงญาอพยพเเล้ว3 แสนคนรมต.ต่างประเทศบังคลาเทศชี้นี่คือ’ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’
ยูเอ็นชี้วิกฤตโรฮิงญา เป็นตัวอย่างตำราฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
นักวิชาการชี้ใช้คำ ‘เบงกาลี’ แทนโรฮิงญาเป็นการจงใจทำลายประวัติศาสตร์พื้นที่
นักวิชาการชี้ ‘ซูจี’ ไร้อำนาจเบ็ดเสร็จแก้ปมโรฮิงญา
โรฮิงญาอพยพพุ่ง 90,000 คน - "ซูจี" ถูกนานาชาติกดดันหนัก
หยุดปฏิบัติการทางทหารของพม่าต่อพลเรือนชาวโรฮิงญา
ฮิวแมนไรต์โชว์ภาพดาวเทียม ไหม้วอด 700 หลังบ้านชาวโรฮิงญา
เตือนบทบาทไทยกรณี "โรฮิงญา" รับลูก "เมียนมา" เสี่ยงหลายมิติ
รัฐบาลเมียนมา ปฏิเสธให้ยูเอ็นเข้าตรวจสอบประเด็นฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุโรฮิงยา
กลุ่มผู้หญิงโรฮิงยาเผยกับสื่อ ชาวบ้านโดนทรมานสารพัดช่วงทหารกวาดล้าง