คดีใกล้หมดอายุ!สตง.จี้รมว.คลัง-สรรพากร เก็บภาษีหุ้นทักษิณหมื่นล.-นิ่งเฉยเจอม.157

ผู้ว่าฯ สตง. เปิดแถลงข่าวด่วน จี้ รมว.คลัง -อธิบดีกรมสรรพากร เร่งรัดจัดเก็บภาษี ทักษิณ กรณีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป หลังคำพิพากษาศาลชี้เป็นเจ้าของตัวจริง คดีใกล้หมดอายุความ ระบุหากจำเป็นสามารถเสนอขยายเวลาจัดเก็บได้ ขู่นิ่งเฉยไม่ดำเนินการ ระวังเจอโทษตามประมวล กม.อาญา ม.154,157

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2560 นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดแถลงข่าว ว่า ในวันนี้ (7 มี.ค. 2560) สตง. ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอธิบดีกรมสรรพากร เพื่อขอให้เร่งรัดการประเมินเรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ชินคอร์ป) ตามคำพิพากษาของศาล โดยเฉพาะในส่วนของกรมสรรพากร ที่สามารถใช้อำนาจตามกฎหมาย ขยายระยะเวลาในการจัดเก็บภาษีได้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบจัดเก็บภาษีให้ถูกต้องครบถ้วน

"ที่ผ่านมาได้รับคำตอบจากกรมสรรพากรว่า ยังไม่เคยมีการขยายเวลา และการขยายระยะเวลา ถ้าจะใช้จะต้องใช้ทั่วไปไม่เฉพาะเจาะจงรายใดรายหนึ่ง แต่สตง. ซึ่งยึดตามนโยบายคตง.ที่ต้องการให้ระบบจัดเก็บภาษีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ เห็นว่าการเรียกเก็บภาษีซื้อขายหุ้นดังกล่าว เป็นรายใหญ่ วงเงินภาษีค่อนข้างมีจำนวนมาก แต่ยังจัดเก็บไม่ครบถ้วน จึงเป็นหน้าที่ของสรรพกร ที่ต้องรีบดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ใกล้จะสิ้นสุดอายุความแล้ว ถ้าไม่ทันสามารถใช้อำนาจตามกฎหมายขยายระยะเวลาจัดเก็บได้ "

นายพิศิษฐ์ ยังกล่าวด้วยว่า ภายหลังจากที่ สตง. ส่งเรื่องไปแล้ว หากยังไม่มีการดำเนินการใดๆ และทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียหายในท้ายที่สุด จะถือว่าเป็นการละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผู้เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดความเสียหาย จะมีโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 154 และ 157 ด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเสียภาษีของนายทักษิณกรณีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปดังกล่าว ศาลพิพากษาว่านายทักษิณ เป็นเจ้าของหุ้นตัวจริง นายทักษิณ จะต้องไปยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี ภายในวันที่ 31 มี.ค.2550 เมื่อนายทักษิณ ไม่ได้นำเงินที่ได้จากการขายหุ้น ในฐานะที่เป็นเจ้าของหุ้นตัวจริง จึงถือว่าเป็นการยื่นแบบแสดงรายการไม่ถูกต้อง เจ้าพนักงานประเมิน ย่อมมีอำนาจหน้าที่ประเมินภาษีภายในอายุความ 10 ปี ซึ่งกำลังจะครบกำหนดอายุความภายในวันที่ 31 มี.ค.2560 นี้ สำหรับตัวเลขภาษีที่ต้องเสียในช่วงแรก อยู่ที่ประมาณ 5,800 ล้านบาท แต่ถ้าคำนวณระยะเวลาจนถึงปัจจุบัน จะอยู่ที่ตัวเลขเกือบหมื่นล้านบาท

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายพิศิษฐ์ ผู้ว่าฯ สตง. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า จะเสนอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังใช้อำนาจตามมาตรา 3 อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร โดยให้ขยายกำหนดเวลาการออกหมายเรียกตรวจสอบการเสียภาษีออกไปเกิน 5 ปี คือตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 จนถึงวัน เดือน ปี ใด ๆ ณ ปัจจุบัน เพื่อให้กรมสรรพากรออกหมายเรียกตรวจสอบและทำการประเมินภาษีภายในวันที่ 31 มีนาคม 2560 ได้

"สตง.เห็นว่า รมว.คลัง มีอำนาจที่จะใช้อำนาจตามมาตรา 3 อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร มาดำเนินการในเรื่องนี้ได้ ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ อธิบดีกรมสรรพากร ชี้แจงว่า ไม่อาจจะเรียกเก็บภาษีได้เพราะไม่ใช่เงินของคนทั้งสอง แต่เป็นเงินของอดีตนายกทักษิณที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษา ยึดทรัพย์ไปแล้ว 4.6 หมื่นล้านบาท เมื่อปี 2553 นั้น สตง. ไม่เห็นด้วย และไม่ถูกต้อง เพราะมองว่าเป็นเรื่องคนละส่วนกัน"

อ่านประกอบ :

'สรรพากร' หัก 'สตง.' สั่งยุติเก็บภาษี 'ทักษิณ' กรณีซื้อขายหุ้นชินคอร์ป

ชง'รมว.คลัง'ใช้อำนาจม.3 รัษฎากร! ผู้ว่าฯสตง. เผยแนวทางไล่บี้เก็บภาษีหุ้นชินฯ หมื่นล.

ยกเหตุยึดทรัพย์'แม้ว' 4.6หมื่นล.แล้ว! สรรพากรเลิกหาคนชดใช้ภาษีหุ้นชิน กรณี 'เบญจา'

การไล่ล่าภาษีหุ้นชิน หลังศาลอาญาสั่งจำคุกอดีต รมช.คลัง

หมายเหตุ : ภาพประกอบเรื่อง จาก http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/710395