ยกเหตุยึดทรัพย์'แม้ว' 4.6หมื่นล.แล้ว! สรรพากรเลิกหาคนชดใช้ภาษีหุ้นชิน กรณี 'เบญจา'
อธิบดีกรมสรรพากร ประกาศเป็นทางการ เลิกหาตัวคนชดใช้ภาษีโอนหุ้นชินคอร์ป 'โอ๊ค-เอม' กรณี 'เบญจา' ตอบข้อหารือแล้ว หลังตรวจสอบพบว่าเป็นเงินก้อนเดียวกับที่ศาลสั่งยึดทรัพย์ ทักษิณ 4.6 หมื่นล้าน ระบุทุกอย่างจบแล้ว ไม่รู้จะไปตามเงินอะไรกับใครอีก ส่วน ขรก.-จนท.ที่เกี่ยวข้องก็ถูกตัดสินลงโทษไปแล้ว
จากกรณีศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกนางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยอดีตข้าราชการกรมสรรพากรอีก 3 ราย และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี จากกรณีการตอบข้อหารือว่า นายพานทองแท้ และ นางพินทองทา คุณากรวงศ์ บุตรชายและบุตรสาว นายทักษิณ ไม่ต้องเสียภาษีจากการรับโอนหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของ Ample Rich Investment ในราคาพาร์ 1 บาท
(อ่านประกอบ : คุก3 ปี!'เบญจา-3อดีตขรก.' คดีเลี่ยงภาษีโอนหุ้นชินฯ-คนใกล้ชิดเลขาฯพจมาน โดนด้วย)
เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2559 นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงการหาตัวผู้รับผิดชอบชดใช้ภาษีที่รัฐต้องสูญเสียไปจากกรณีนี้ ว่า ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่า กรมสรรรพากร คงไม่สามารถดำเนินการอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อีก เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า หุ้นที่นายพานทองแท้และนางพิณทองทา ถืออยู่เป็นหุ้นของนายทักษิณ และมีคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้ยึดทรัพย์ จำนวน 4.6 หมื่นล้านบาทของ นายทักษิณ มาเป็นของแผ่นดิน ซึ่งเงินภาษีจำนวนนี้ก็รวมอยู่ในเงินก่อนนี้ด้วย
" เงินภาษีจำนวนนี้ก็รวมอยู่ในเงินก้อน 4.6 หมื่นล้านบาท และมันก็ตกมาเป็นของหลวงหมดแล้ว ตอนนี้เงินทั้งหมดก็อยู่ที่กรมบัญชีกลางแล้ว ไม่รู้จะไปเงินอะไรกับใครอีก ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มข้าราชการที่ไปตอบข้อหารือ ศาลก็มีคำพิพากษาไปแล้วทุกอย่างก็น่าจะจบไปหมดแล้ว"
อธิบดีกรมสรรพากร ยังระบุว่า ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่กรมสรรพากรไม่ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกากรณีที่ศาลภาษีอากรกลางมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ให้นายพานทองแท้ และนางพิณทองทา ชนะคดีที่ยื่นฟ้องกรมสรรพากรซึ่งเรียกเก็บภาษีโอนหุ้นชินคอร์ป นั้น ก็มีคำถามเหมือนกันว่า ทำไมถึงไม่ยื่นเรื่องอุทธรณ์
"แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง ตนก็คงจะไม่เข้าไปทำอะไร เพราะถือว่าเรื่องมันจบไปแล้ว ส่วนหน่วยงานใดจะดำเนินการอะไรก็ว่าไป" อธิบดีกรมสรรพากร ระบุ
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวจากคณะทำงานอัยการที่รับผิดชอบฟ้องร้องคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ละเลยไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ส่งผลรัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท เคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า ภายหลังจากที่ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกนางเบญจา หลุยเจริญ และพวกจากกรณีการตอบข้อหารือว่า นายพานทองแท้ และ นางพินทองทา คุณากรวงศ์ บุตรชายและบุตรสาว นายทักษิณ ไม่ต้องเสียภาษีจากการรับโอนหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของ Ample Rich Investment ในราคาพาร์ 1 บาท
กรมสรรพากร มีหน้าที่ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดเจน ว่า บุคคลใดบ้างที่จะต้องมีส่วนรับผิดชอบชดใช้ภาษีที่รัฐต้องสูญเสียไปจากกรณีนี้ ซึ่งสามารถใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ออกคำสั่งให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับในกรณีโครงการรับจำนำข้าวได้
โดยภาษีเงินได้ที่นายพานทองแท้ และ นางพิณทองแท้ ต้องจ่าย คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรดาที่ได้กำไรจากการขายหุ้นนอกตลาด ทั้งนี้ ครอบครัวชินวัตรขายหุ้นให้กับกลุ่มเทมาเส็กในราคาหุ้นละ 49.25 บาท ขณะที่บุุคคลทั้งสองซื้อมาจากแอมเพิลริชในราคาหุ้นละ 1 บาท จำนวน 329.2 ล้านหุ้น เท่ากับกำไรหุ้นละ 48.25 บาท รวมเป็นกำไรทั้งสิ้น 15,883.9 ล้านบาท
สำหรับอัตราภาษีที่ต้องเสียในส่วนที่เกิน 4 ล้านบาท ต้องจ่ายในอัตรา 37% เมื่อคำนวณโดยประมาณ ต้องจ่ายภาษีประมาณ 5,800 ล้านบาท ยังไม่รวมเบี้ยปรับเงินเพิ่มเป็นระยะเวลาประมาณ 10 ปี
(อ่านประกอบ : การไล่ล่าภาษีหุ้นชิน หลังศาลอาญาสั่งจำคุกอดีต รมช.คลัง)
อ่านประกอบ :
คุก3 ปี!'เบญจา-3อดีตขรก.' คดีเลี่ยงภาษีโอนหุ้นชินฯ-คนใกล้ชิดเลขาฯพจมาน โดนด้วย
ย้อนรอยจุดตาย 'เบญจา-พวก' จำคุก 3 ปี ตอบข้อหารือช่วย'โอ๊ค-เอม'เลี่ยงภาษีหุ้นชิน
อดีตคตส.ยันต้องเรียกเก็บภาษีโอนหุ้น'โอ๊ค-เอม' กรณีเบญจาคืน-ส่งเรื่องสรรพากรนานแล้ว