ประเทศไทยเดินหลงทางในการปราบยาบ้ามานานกว่า 30 ปี

"คนไทย มี 72 ล้านคน มีคนใช้ยาบ้า 2 ล้านกว่าคน คือทุกๆ 100 คน มีคนใช้ยาบ้า 3 คน มีนักโทษยาบ้าอยู่ในเรือนจำสองแสนคน อดีตนักโทษอีกหลายแสนคน สรุป ยิ่งปราบหนัก สถานการณ์ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ เหมือนเดินลงเหว ยิ่งเดิน ยิ่งถลำลึกลงไปเรื่อยๆ"

"นักโทษคดียาเสพติดเป็น 70% ของนักโทษทั้งหมด

คดียาเสพติดทั้งหมด เป็นคดียาบ้า 90%

และ ผู้ต้องขังเรื่องยาบ้าสองแสนคนอยู่ในเรือนจำ"

นายวันชัย รุจนวงศ์ อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ มีมุมมองเรื่องโทษยาเสพติดของไทยสูงที่สุดในโลก ขณะที่โทษของประเทศอื่นก็ไม่ใช่ "ยาบ้า" แต่เป็นเฮโรอิน โคเคน ยาเสพติดชนิดยาแรง 

ส่วนของไทย นายวันชัย เห็นว่า นอกจากเฮโรอิน โคเคน ยาแรงต่างๆ แล้ว ประเทศไทยยังลงโทษยาบ้ารุนแรงเท่าเฮโรอิน โคเคน และยาแรงอื่นๆ อีกด้วย จึงเท่ากับว่า ไทยลงโทษยาบ้า ซึ่งเป็นยากระตุ้นด้วยโทษที่หนักที่สุดในโลก และหนักกว่าทุกประเทศมาก รวมทั้งสหรัฐที่เป็นต้นแบบในการปราบยาเสพติดของไทยด้วย

สหรัฐเน้นที่การปราบยาเสพติดประเภทเฮโรอิน โคเคน และยาเสพติดชนิดรุนแรงอื่นๆ แต่ไม่ได้เน้นยาบ้า ทำให้ยาบ้าไม่แพง หาซื้อได้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ คนขายไม่อยากขายเพราะได้กำไรน้อยมากไม่คุ้ม

ยาบ้าจึงไม่ระบาดที่สหรัฐ

เมื่อไม่ปราบยาบ้ารุนแรง แต่ควบคุมการใช้ภายใต้มาตรฐานทางการแพทย์และสาธารณสุข ทำให้ยาบ้าไม่แพง หาซื้อได้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ คนขายไม่อยากขายเพราะได้กำไรน้อยมาก ไม่คุ้ม เมื่อคนขายน้อย การหาลูกค้าก็มีน้อยลง ประเทศเหล่านั้นจึงมีคนเสพยาบ้าน้อยมาก

วิธีคิดและเหตุผลแบบนี้อาจขัดความรู้สึก แต่เป็นความจริง และผลออกมาอย่างนั้นจริงๆ

จนบัดนี้ สหประชาชาติเองก็เปลี่ยนนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติด และประเทศทั่วโลกก็เริ่มเปลี่ยนแนวจากการปราบแบบทำลายทรัพยากรคน มาเป็นการประคอง ดูแล บำบัดรักษาแทนการเอาคนไปติดคุกรุนแรงและทำลายคุณภาพคนๆ นั้นไปเลย เป็นการพยายามรักษาคนคนนั้นให้เป็นคนที่มีคุณค่าในสังคมต่อไป

แม้แต่สหรัฐในหลายๆ รัฐ ก็เริ่มเปลี่ยนนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติด จากนโยบายปราบรุนแรง มาเป็นการแก้ปัญหาผู้เสพด้วยมาตรการทางการแพทย์แทนคุกแล้ว

ประเทศไทยเดินหลงทางในการปราบยาบ้ามานานกว่า 30 ปี

ยาบ้าเป็นยากระตุ้น ไม่ใช่ยาเสพติดอย่างเฮโรอิน โคเคน ซึ่งเป็นยาแรง ที่เรียกว่า hard drugs

ยาบ้าไม่ใช่ hard drug แต่เป็นยากระตุ้น ที่เรียกว่า stimulant drug

ยิ่งปราบรุนแรงแบบเฮโรอิน ยาบ้ายิ่งแพง กำไรยิ่งสูงมาก ต้นทุนผลิตแค่เม็ดละห้าสิบสตางค์ ขายได้สองร้อย ทำให้คนหันมาขายยาบ้า เพราะกำไรเยอะมากทำแล้วคุ้ม เมื่อคนขายมากก็ต้องไปเผยแพร่หาลูกค้ามาใช้ยา
ให้มากที่สุดจะได้ขายได้มาก กำไรก็จะมากตาม

เมื่อมีคนใช้มาก แต่ยาแพง ก็ต้องเสพด้วยขายด้วยเพื่อให้ได้ยาบ้ามาเสพ เรียกว่า ขายสิบเม็ด ได้กินเองสองเม็ด พอถูกจับก็จะกลายเป็นคนขาย ถูกจำคุกนานมาก ออกมาก็หมดอนาคต ก็ไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ต้องไปขายยาบ้าและกลายเป็นผู้ค้าที่รายใหญ่ขึ้น เพราะไปรู้จักกับพวกผู้ค้ายาบ้าที่อยู่ในเรือนจำ และกลายเป็นเครือข่ายผู้ค้า ทำให้มีผู้ค้ามากขึ้น รายใหญ่ขึ้น เป็นเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้นและแน่นหนาขึ้น

เมื่อมีผู้ค้ามากขึ้น ก็ต้องไปเผยแพร่ชักชวนคนมาเสพ เพื่อให้มีลูกค้ามากขึ้น และได้กำไรมากขึ้น การปราบก็รุนแรงขึ้น ราคาก็เพิ่มขึ้น กำไรมากขึ้น ผู้ค้าเข้ามาขายมากขึ้น วงจรอุบาทก์ก็ดำเนินต่อไป

"คนไทยมี 72 ล้านคน มีคนใช้ยาบ้า 2 ล้านกว่าคน คือทุกๆ 100 คน มีคนใช้ยาบ้า 3 คน มีนักโทษยาบ้าอยู่ในเรือนจำสองแสนคน อดีตนักโทษอีกหลายแสนคน สรุป ยิ่งปราบหนัก สถานการณ์ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ เหมือนเดินลงเหว ยิ่งเดิน ยิ่งถลำลึกลงไปเรื่อยๆ"

จนบัดนี้ โทษยาเสพติดไทยสูงที่สุดในโลก สูงกว่าสหรัฐที่มาสอนเราเรื่องการปราบยาเสพติด แต่สหรัฐและประเทศพวกนั้น ไม่ได้เน้นการลงโทษยาบ้ารุนแรง ที่อื่นเน้นการลงโทษเฮโรอิน โคเคนและยาแรง (hard drugs) อื่นๆ แต่ของไทยไปยกระดับยาบ้ามาเท่ากับเฮโรอินและโคเคน ทั้งที่เป็นยาคนละประเภท และปราบรุนแรง ยาบ้าเลยแพงและทำให้คนขายได้กำไรสูงมาก ก็ดึงดูดให้คนมาขายมากขึ้น และต้องไปขยายตลาดมากขึ้น

เราจะแก้ด้วยวิธีที่ทำมาแล้ว 30 ปี แต่สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงทุกที แล้วเราจะไม่เปลี่ยนแนวทางในการแก้ปัญหาใหม่กันเลยหรือ ทั้งๆ ที่มีตัวอย่างประเทศที่เคยปราบรุนแรงแล้วไม่ได้ผล หันกลับมาใช้วิธีทางการแพทย์ด้วยการควบคุมแทนการปราบปรามรุนแรง

ลองเปิดใจพิจารณากันด้วยเหตุผล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ปธ.ศาลฎีกา ชี้ชัดผู้เสพยาต้องได้รับโทษที่เหมาะสมแก่สภาพกระทำความผิด

ยาบ้าเล็กน้อย ของกลาง 1 - 2 เม็ด และสินบนนำจับ บอกอะไรกับสังคม ?

TIJ ชูโปรตุเกสโมเดลแก้ยาเสพติดชะงัด ไม่เอาโทษทางอาญามาใช้กับผู้เสพ

เมื่อสังคมไทยสุดโต่ง 2 ข้าง กับแนวคิดแก้ปัญหา 'ยาเสพติด'

ถึงเวลาเปลี่ยนเมทแอมเฟตามีน จากบัญชียาเสพติด หรือยัง ?

ค้นทางออกของปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก "ผู้ต้องขังล้นคุก"

เข้าคิวรอ...พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ ปี 2522 ขัดหลักนิติธรรม ?

ยาไอซ์-ยาบ้าระบาด! ‘พล.อ.ไพบูลย์’ ชี้ศูนย์ฟื้นฟูล้มเหลว ลั่นควรถูกยุบ