ก.ศป.แถลงทางการ ปิดคดีจม.น้อย อวสาน "หัสวุฒิ" พ้นบัลลังก์ ปธ.ศาลปกครอง
"..พยานหลักฐานก็รับฟังได้ว่า นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล มีส่วนรู้เห็นเป็นใจและรับทราบในกรณีที่นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม กระทำการดังกล่าว อันเป็นการกระทำผิดวินัย ฐานไม่รักษาชื่อเสียงของตน และไม่รักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน มิให้เสื่อมเสีย โดยไม่กระทำการใดๆ อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ซึ่งถือว่าเป็นการประพฤติตนไม่สมควร.."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : ภายหลังจากที่สำนักข่าวอิศรา นำเสนอข่าว ผลการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง(ก.ศป.) ลงมติผลการพิจารณาวาระสอบสวนทางวินัย นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด กรณี นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการศาลปกครอง ได้ทำบันทึกส่วนตัวหรือ "จดหมายน้อย" 2 ฉบับถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และ รอง ผบ.ตร. โดยอ้างว่า นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด มีความประสงค์สนับสนุนนายตำรวจยศ พ.ต.ท. โดยอ้างว่า เป็นเพื่อนกับหลานชายนายหัสวุฒิให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้กำกับการ
ที่ประชุมมีการพิจารณาในสองประเด็น คือ หนึ่ง การกระทำของนายหัสวุฒิ มีความผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ ที่ประชุม ก.ศป.พิจารณาแล้วมีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 เสียง เห็นว่า นายหัสวุฒิมีความผิดตามข้อ 11 ประกาศ ก.ศป. เรื่องวินัยแห่งการเป็นตุลาการศาลปกครอง ที่ระบุว่า ตุลาการศาลปกครองต้องรักษาชื่อเสียงของตนและรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย โดยไม่กระทำการใดๆ อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว
การประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง
สอง การพิจารณาลงโทษนายหัสวุฒิ ที่ประชุม ก.ศป. ซึ่งเหลืออยู่ 6 เสียง เนื่องจากนายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช กรรมการ ก.ศป. ได้ติดภารกิจจึงออกจากที่ประชุมไปก่อน ได้มีมติเอกฉันท์ 6 ต่อ 0 เสียง ให้นายหัสวุฒิออกจากราชการ และพ้นจากตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุดไปด้วย แต่ยังคงมีบำเน็จบำนาญอยู่
(อ่านประกอบ : ก.ศป. มติเอกฉันท์ เชือด "หัสวุฒิ" ให้ออก-พ้นปธ.ศาลปค. คดีจม.น้อยฝากตร.)
ล่าสุด ในช่วงเวลา 22.00 น วันที่ 23 ก.ย. 2558 สำนักงานศาลปกครอง ได้เผยแพร่ข่าวศาลปกครอง แถลงมติ ก.ศป. เรื่อง ผลการสอบสวนประธานศาลปกครองสูงสุด กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองและประธานศาลปกครองสูงสุด กรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ เป็นทางการ
ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) ในการประชุมครั้งที่ ๑๘๒ – ๓/๒๕๕๘ เมื่อวันพุธที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ได้พิจารณาเรื่อง รายงานผลการสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองและประธานศาลปกครองสูงสุด กรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยที่ประชุม
เสียงข้างมากเห็นพ้องด้วยกับความเห็นของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฝ่ายข้างมาก โดยเห็นว่า กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองและประธานศาลปกครองสูงสุด กรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ เป็นกรณีมีมูลที่อาจเข้าข่ายตามที่กำหนดในข้อ ๓ (๑) แห่งระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครองซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง พ.ศ. ๒๕๔๔ และถึงขั้นที่จะให้ตุลาการศาลปกครองผู้นั้นพ้นจากตำแหน่ง และให้ดำเนินการตามมาตรา ๒๔ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบข้อ ๕ วรรคสอง และข้อ ๖ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครองซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวนกรณีดังกล่าว ซึ่ง ก.ศป. ได้มีคำสั่ง ก.ศป. ลับ ที่ ๗/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๘ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีดังกล่าว ซึ่งระหว่างการสอบสวน ก.ศป. ได้เห็นชอบและอนุมัติให้คณะกรรมการสอบสวนขยายระยะเวลาการสอบสวนตามระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครอง ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง พ.ศ. ๒๕๔๔
ก.ศป. ในการประชุมครั้งที่ ๑๙๓ – ๑๔/๒๕๕๘ เมื่อวันพุธที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๘ ได้พิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนตามคำสั่ง ก.ศป. ลับ ที่ ๗/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๘ กรณีนายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด ถูกกล่าวหาว่า มีกรณีตามข้อ ๓ ของระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครองซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง พ.ศ. ๒๕๔๔ แล้ว มีมติว่า
แม้ไม่ปรากฏชัดว่า นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ได้มีการมอบหมายให้นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง มีหนังสือสองฉบับแจ้งความประสงค์ของนายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ว่าจะสนับสนุน พ.ต.ท.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงกุล รอง ผกก.ป.สน.หัวหมาก ให้ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้กำกับการต่อรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามลำดับ ปรากฏตามหนังสือของนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ลงวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๖ และวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๗
แต่พยานหลักฐานก็รับฟังได้ว่า นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล มีส่วนรู้เห็นเป็นใจและรับทราบในกรณีที่นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม กระทำการดังกล่าว อันเป็นการกระทำผิดวินัย ฐานไม่รักษาชื่อเสียงของตน และไม่รักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน มิให้เสื่อมเสีย โดยไม่กระทำการใดๆ อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ซึ่งถือว่าเป็นการประพฤติตนไม่สมควร ตามข้อ ๕ และข้อ ๑๑ วรรคหนึ่ง ของประกาศ ก.ศป. เรื่อง วินัยแห่งการเป็นตุลาการศาลปกครอง ลงวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๔๔ ก.ศป. จึงมีมติโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๒๒ วรรคสอง (๑) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบกับข้อ ๒๐
ของประกาศ ก.ศป. เรื่อง วินัยแห่งการเป็นตุลาการศาลปกครอง ลงวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๔๔ และข้อ ๒๔ วรรคหนึ่ง (๒) ของระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครองซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ออกจากราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ก.ศป. มีมติ
จึงเรียนสื่อมวลชนมาเพื่อทราบ
สำนักงานศาลปกครอง
วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๘
อ่านประกอบ :
ร้อง คสช.สอบ ก.ศป.ปม จม.น้อย-ยันยึดเสียงข้างมากคืนตำแหน่ง“หัสวุฒิ”
กก.สอบสวนวินัยร้ายแรง ชง ก.ศป.ชี้ชะตา"หัสวุฒิ"คดี จม.น้อยฝาก ตร.23 ก.ย.
23 ก.ย.วันชี้ชะตา"หัสวุฒิ" ก.ศป. นัดลงมติคดีจม.น้อย "พ้นผิด-ให้ออก-ไล่ออก"
"ก.ศป." โต้ "หัสวุฒิ"รอบสอง! ข้ออ้างศาลถูกฝ่ายการเมืองยึด ไม่มีมูลความจริง
“หัสวุฒิ”แถลงซ้ำ! อ้างการเมืองภายใน -คดีความมั่นคง โดนแกล้งปม จม.น้อย
"หัสวุฒิ"รอดคดีคลั่งพลังจิต! ศาลปค.แจงตั้งกก.สอบทุกกรณีทำตามขั้นตอนกม.
"หัสวุฒิ"เจอคดีที่สอง! ก.ศป.ลงมติสั่งตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง กรณียกยอดฉัตร
เปิดทุกคดี! ชะตากรรม“หัสวุฒิ”ในศาล ปค.หลังขอความเป็นธรรมปม จม.น้อย
“หัสวุฒิ”ขอความเป็นธรรมคดี จม.น้อย อ้างถูกเลื่อยขาเก้าอี้-เงินบาทเดียวยังไม่โกง(มีคลิป)
ก.ศป.ออกระเบียบเปิดช่องตุลาการศาลปค.สูงสุด เป็นกก.สอบคดี"หัสวุฒิ" ได้