"หัสวุฒิ"เจอคดีที่สอง! ก.ศป.ลงมติสั่งตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง กรณียกยอดฉัตร
"หัสวุฒิ"เจอคดีที่สอง! ก.ศป.ลงมติสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เบิกค่าใช้จ่ายเดินทางไปเป็น ปธ.พิธียกยอดฉัตร ส่วนกรณีจม.น้อยฝากตร. ถูกเรียกตัวสอบปากคำเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranew.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2558 ได้มีการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) เพื่อพิจารณา 2 วาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด คือ 1. ผลสอบสวนทางวินัย นายหัสวุฒิ กรณี นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการศาลปกครองได้ทำบันทึกส่วนตัวหรือ "จดหมายน้อย" 2 ฉบับถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และ รอง ผบ.ตร. โดยอ้างว่า นายหัสวุฒิ มีความประสงค์สนับสนุนนายตำรวจยศ พ.ต.ท. ซึ่งเป็นเพื่อนกับหลานชายให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้กำกับการ และ 2. ผลการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีความไม่โปร่งใสในการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเป็นประธานพิธีอัญเชิญยอดฉัตรทองคำลูกแก้วมงคลนิมิต ประดิษฐานบนพระธาตุเจ้าจอมล้านนา วัดพิพัฒน์มงคล ต.ทุ่งเสลี่ยม อ.ทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย ในช่วงเวลาเดียวกับการไปปฏิบัติราชการ ที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตร ซึ่งในการประชุม ก.ศป.ครั้งนี้ ใช้เวลาในการประชุมค่อนข้างยาวนานเป็นอย่างมาก
โดยในส่วนการพิจารณาวาระผลสอบสวนทางวินัยนายหัสวุฒิ กรณีจดหมายน้อยฝากตำรวจ ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนมีมติเสียงข้างมาก 3 ต่อ 2 เสียงเห็นว่า นายหัสวุฒิ ไม่มีความผิด เนื่องจากไม่มีส่วนรู้เห็นกับนายดิเรกฤทธิ์ ในการทำจดหมายน้อยดังกล่าว ที่ประชุม ก.ศป.พิจารณาแล้ว เห็นสมควรมอบหมายให้คณะกรรมการสอบสวน ไปดำเนินการสอบปากคำนายหัสวุฒิเพิ่มเติม เนื่องจากสำนวนที่เสนอมายังไม่ได้มีการสอบปากคำนายหัสวุฒิ เพื่อให้มีข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้าน และนำกลับมาเสนอให้ที่ประชุม ก.ศป.พิจารณาอีกครั้ง
ส่วนกรณีความไม่โปร่งใสในการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเป็นประธานพิธีอัญเชิญยอดฉัตร นั้น คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ได้ลงมติเสียงข้างมาก 2 ต่อ 1 เสียง เห็นสมควรกล่าวหาว่ามีการกระทำผิดวินัยร้ายแรง โดยคณะกรรมการฯ สองเสียงข้างมาก ประกอบไปด้วย นายสมชาย งามวงศ์ชน นายวราวุธ ศิริยุทธ์วัฒนา ส่วนนายสุเมธ รอยกุลเจริญ เป็นคณะกรรมการฯ เสียงข้างน้อยเห็นว่าไม่มีความผิด
เบื้องต้น ที่ประชุม ก.ศป. ได้เห็นชอบตามมติคณะกรรมการสอบสวน และได้สั่งให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนทางวินัยต่อ ซึ่งมีจำนวนคณะกรรมการ 5 คน โดยตาม ระเบียบก.ศป.ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครองซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2558 เปิดช่องให้สามารถแต่งตั้งตุลาการศาลปกครองสูงสุดเข้ามาทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสอบสวนได้ ในกรณีที่ขาดแคลนตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสอบสวนในคดีนี้
(อ่านประกอบ : ก.ศป.ออกระเบียบเปิดช่องตุลาการศาลปค.สูงสุด เป็นกก.สอบคดี"หัสวุฒิ" ได้)
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนความคืบหน้าคดีที่นายหัสวุฒิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชาญชัย แสวงศักดิ์ รองประธานศาลปกครองสูงสุดคนที่ 2 และนายวิษณุ วรัญญู ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ต่อศาลอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีเกี่ยวเนื่องจากการทำหน้าที่ในคณะกรรมการสอบสวนวินัยนายหัสวุฒิ คดีจดหมายน้อยฝากตำรวจ โดยอ้างว่ามีการถ่วงเวลาดึงเรื่องการสอบสวนให้ล่าช้าออกไป นั้น ล่าสุดคดีอยู่ระหว่างการนัดไต่สวนมูลฟ้อง
อ่านประกอบ :
เปิดทุกคดี! ชะตากรรม“หัสวุฒิ”ในศาล ปค.หลังขอความเป็นธรรมปม จม.น้อย
“หัสวุฒิ”ขอความเป็นธรรมคดี จม.น้อย อ้างถูกเลื่อยขาเก้าอี้-เงินบาทเดียวยังไม่โกง
"หัสวุฒิ"อ่วม!ก.ศป.สั่งสอบเพิ่ม 4คดีรวด"ยกฉัตร-ใกล้ชิดคู่ความ-รถ-ญาติ"
ก.ศป.มีมติ 8:3 สั่งพักราชการ “ปธ.ศาลปกครองสูงสุด"คดีจม.น้อยฝาก ตร.