อาจารย์สาวเหยื่อคดีทำร้ายผวา!“ถูกคุกคามหนัก”วอนผู้บังคับบัญชาย้ายกลับภูมิลำเนา
อาจารย์สาววิทยาลัยฯพิจิตร เหยื่อคดีทำร้าย ผวาร้อง ป.ป.ท.ขอเข้าโครงการคุ้มครองพยาน หลังจากคู่กรณีพ้นโทษ-ฟ้องผู้บริหาร มรภ.นครสวรรค์คดีลอกงานวิจัย วอนผู้บังคับบัญชาพิจารณาย้ายกลับภูมิลำเนา หลังมีสัญญาณถูกคุกคามหนักขึ้น
นางปณิชา ศรีจักร์ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ครู สังกัดวิทยาลัยชุมชนพิจิตร สำนักบริหารวิทยาลัยชุมชน และอดีตอาจารย์ช่วยราชการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ (มรภ.นครสวรรค์) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมานับจากปี 2552 ได้ทำเรื่องถึงผู้บังคับบัญชาเพื่อขอโอนย้ายกลับภูมิลำเนาเดิมอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เนื่องจากวิตกในเรื่องความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินเพราะเคยถูกข้าราชการเพื่อนร่วมงานพยายามทำร้ายทางเพศต่อมาคู่กรณีซึ่งถูกศาลตัดสินจำคุกได้พ้นโทษออกมา และตัวนางปณิชายังได้ฟ้องร้องดำเนินคดีผู้บริหาร มรภ.นครสวรรค์ ในข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีไม่จัดชั่วโมงให้สอนที่ มรภ.นครสวรรค์ ทำให้ต้องเดินทางกลับต้นสังกัดและกลับไปเผชิญกับความหวาดกลัวในพื้นที่จังหวัดพิจิตรอีกครั้ง ได้ร้องเรียนหลายครั้งแต่ทว่าจนถึงขณะนี้คำร้องขอย้ายกลับภูมิลำเนายังไม่ได้รับการพิจารณาจากผู้บังคับบัญชาแต่อย่างใด
“เมื่อวันที่ 10 มี.ค.58 ดิฉันได้ทำเรื่องถึงเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อขอเข้าโครงการคุ้มครองพยานตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพยานในคดีอาญาเพราะมีบุคคลน่าสงสัยขับรถติดตามเป็นจำนวน 2 ครั้ง ระหว่างเดินทางกลับจากวิทยาลัยชุมชนพิจิตรไปยังภูมิลำเนาที่ จ. นครสวรรค์ และปรากฎว่ายางรถเกิดรั่วจนล้อยางติดกับกระทะล้อโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจ อ.โพทะเล จ.พิจิตร”นางณิชากล่าวและว่า
เคยร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรีฯ สภาผู้แทนราษฎร และปัจจุบันได้นำเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. )โดย คสช.ได้ให้ความร่วมมือติดตาม หลายครั้งหลายคราว กับหน่วยงาน สำนักงานคณะกรรมาการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบและมีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการพิจารณาสั่ง แต่ สกอ. ก็เพิกเฉย มิได้มีการตอบกลับตามข้อทวงถามของ คสช. แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นางปณิชาได้ร้องเรียนต่อ ป.ป.ท. ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเอาผิดต่อคณบดีและรองคณบดี คณะวิทยาการจัดการ มรภ.นครสวรรค์ มีพฤติกรรมลอกงานวิจัยของบุคคลอื่นแล้วมารับเงินสนับสนุนการทำงานวิจัยจากทางมหาวิทยาลัย จำนวน 40,000 บาท เรื่องอยู่ระหว่างสอบสวน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นายสมศักดิ์ ตันติแพทยางกูร ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน ถึงกรณีดังกล่าว แต่นายสมศักดิ์แนะนำว่าให้ติดต่อไปสอบยังนางปาณิชาโดยตรง เพราะเกรงว่าจะให้ข้อมูลได้ไม่รอบด้าน และพยายามติดต่อผู้บริหาร สกอ.แต่ไม่สามารถติดต่อได้
(ดูหนังสือประกอบ)
อ่านประกอบ:
ป.ป.ท.รับสอบ “คณบดี-รอง” มรภ.นครสวรรค์ลอกงานวิจัยรับ 4 หมื่น
อธิการฯมรภ.นครสวรรค์ตั้งกก.สอบ“คณบดี-รอง”ปมลอกงานวิจัย รับ 4 หมื่น
อาจารย์สาวเหยื่อคดีล่วงละเมิด ร้องนายกฯขอย้ายหนี ผวา!ไม่ปลอดภัย
เลื่อนไต่สวนคดีอดีตอาจารย์สาวฟ้องอธิการฯ-คณบดี มรภ.นครสวรรค์
อดีตอาจารย์สาว มรภ.นครสวรรค์เปิดศึกฟ้อง“อธิการ-คณบดี”ไม่จัดตารางให้สอน