อาจารย์สาวเหยื่อคดีล่วงละเมิด ร้องนายกฯขอย้ายหนี ผวา!ไม่ปลอดภัย
อาจารย์สาว จ.พิจิตรเหยื่อคดีล่วงละเมิดส่งหนังสือถึงนายกฯ-เลขาคณะกรรมการการอุดมศึกษาเร่งพิจารณาย้าย หลังเดือดร้อนหนักไกลบ้าน ครูคู่กรณีพ้นโทษยังอยู่ในพื้นที่ ซ้ำถูกบุคคลลึกลับติดตามเกรงไม่ปลอดภัย ทำเรื่องหลายหนแล้วไม่คืบหน้า
นางปณิชา ศรีจักร์ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2558 ที่ผ่านมาได้ทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมเร่งรัดการตัดโอนตำแหน่งและเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนให้ช่วยปฏิบัติราชการต่อ และ วันที่ 29 มกราคม 2558 ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ขอความอนุเคราะห์พิจารณาคำสั่งให้ช่วยราชการ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า
สืบเนื่องจาก นางปณิชา มีตำแหน่งข้าราชการครู ระดับ ค.ศ.1 เดิมสังกัดวิทยาลัยชุมชนพิจิตร สำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เคยช่วยราชการที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.52 ต่อมาปลายปี 2557 ทางมหาวิทยาลัยฯได้ส่งตัวกลับต้นสังกัดเมื่อ 24 ธ.ค.57 โดยอ้างว่าไม่มีชั่วโมงให้สอน ทำให้จะต้องกลับไปรับราชการในพื้นที่ตามเดิม ขณะที่นางปณิชาไม่ต้องเดินทางกลับไปรับราชการในสังกัดวิทยาลัยชุมชนพิจิตรเนื่องจากยังหวาดกลัวในความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน เพราะพื้นที่ดังกล่าวเคยถูกครูอัตราจ้างทำร้ายร่างกายและพยายามล่วงละเมิดซึ่งศาลตัดสินให้ผู้กระทำผิดมีโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ได้พ้นโทษออกมาแล้วและปัจจุบันครูคนดังกล่าวและบุคคลที่เป็นพยานเท็จทั้ง 3 คนยังปฏิบัติราชการอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ จ.พิจิตร ขณะที่นางปณิชามีภูมิลำเนาใน จ.นครสวรรค์ต้องเดินทางไปกลับเป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร จึงประสงค์ขอโอนย้ายไปสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์หลายครั้งแต่ไม่สามารถโอนย้ายได้จนกระทั่งปัจจุบัน
นางปณิชากล่าวว่า ได้ทำเรื่องขอช่วยปฏิบัติราชการที่ วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.) วันที่ 22 ธ.ค.57 ซึ่งวิทยาลัยสงฆ์ดังกล่าวก็ได้ให้ช่วยปฏิบัติราชการเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน และเมื่อครบกำหนดระยะเวลาช่วยราชการแล้วจึงขอช่วยราชการต่อแต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
เมื่อ 19 ก.พ.58 นางปณิชาแจ้งความลงบันประจำวันที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ว่าถูกบุคคลขับขี่รถยนต์ไม่ตดแผ่นป้ายทะเบียน ขับรถติดตาม 2 ครั้งเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 ก.พ.52 นางปณิชาถูกครูอัตราจ้างสถานศึกษาแห่งเดียวกันทำร้ายร่างกายและพยายามล่วงละเมิด แต่นางปณิชาขัดขืนทำให้รอดตัวมาได้อย่างปลอดภัย ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกคู่กรณี 2 ปี 12 เดือน จำเลยสารภาพ ลดโทษเหลือ จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลฎีกาพิพากษายืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปณิชา ได้ร้องเรียนต่อสำนักข่าวอิศราหลายครั้ง และพร้อมเปิดเผยตัวเองเนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม
(ดูเอกสารประกอบ)