ป.ป.ท.รับสอบ “คณบดี-รอง” มรภ.นครสวรรค์ลอกงานวิจัยรับ 4 หมื่น

อธิการฯ มรภ.นครสวรรค์รับคดี“คณบดี-รอง”ปมลอกงานวิจัยรับ 4 หมื่น ยังไม่เสร็จ อ้างคณะกรรมการสืบสวนไม่รายงานผล ด้านผู้ร้องเผยถูกเรียกไปสอบถามครั้งเดียวแล้วเงียบ ขณะที่ ป.ป.ท.รับเรื่องแล้ว

กรณี ผศ. ปราณี ตปนียวรวงศ์ อาจารย์สังกัดคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ ทำหนังสือร้องเรียน ผศ.นิตยา ชนินทยุทธวงศ์ คณบดีคณะวิทยาการจัดการ และ น.ส.เพชรอำไพ สุขารมณ์ รองคณบดีฯ มีพฤติกรรมลอกงานวิจัยของบุคคลอื่นแล้วมารับเงินสนับสนุนการทำงานวิจัยจากทางมหาวิทยาลัย จำนวน 40,000 บาท ต่อมา ผศ.ดร.บัญญัติ ชำนาญกิจ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน

(อ่านประกอบ:อธิการฯมรภ.นครสวรรค์ตั้งกก.สอบ“คณบดี-รอง”ปมลอกงานวิจัย รับ 4 หมื่น)

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามไปยัง ผศ.ดร.บัญญัติ ชำนาญกิจ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ถึงกรณีดังกล่าว โดย ผศ.ดร.บัญญัติกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะว่าในตอนแรกนั้นมีกำหนด 180 วัน แต่ ผศ.ดร.บัญญัติ ได้ขอให้เร่งรัดการสอบส่วนให้เหลือเพียง 45 วัน แต่ว่าจนถึงขณะนี้เรื่องยังไม่เสร็จสิ้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ได้ติดต่อกับ ผศ. ปราณี ตปนียวรวงศ์ อาจารย์สังกัดคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ ผู้เสียหายบ้างหรือไม่ ผศ.ดร.บัญญัติ เปิดเผยว่าได้สั่งให้ลูกน้องทำรายงานความคืบหน้าการสอบส่วนส่งให้ตลอดหากมีความคืบหน้า

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง ผศ. ปราณี ตปนียวรวงศ์ โดยสอบถึงความคืบหน้าในกรณีเดียวกัน แต่ ผศ. ปราณี โดย ผศ. ปราณี กล่าวว่า ทางคณะกรรมการเคยเรียกเข้าไปสอบถามถึงกรณีนี้แค่เพียงครั้งเดียวเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน แต่เหมือนว่าเรียกไปเพื่อดูท่าที แต่ไม่ได้ถามอะไร และยังไม่เคยได้รับการติดต่อจากทาง ผศ.ดร.บัญญัติ ชำนาญกิจ เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 26 ม.ค.58 ผศ.ดร.บัญญัติ ชำนาญกิจ ได้มีคำสั่งมหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ที่ 107/2558 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง จำนวน 4 คน ดังนี้

1. รศ. ธานี เกสทอง ตำแหน่งรองอธิบดี เป็นประธานกรรมการ
2. ดร.พิสิษฐ์ จอมบุญเรือง ตำแหน่งคณบดี เป็นกรรมการ
3. ดร.พรสิริ เอี่ยมแก้ว ตำแหน่งผู้ช่วยอธิการบดี เป็นกรรมการ
4. นายรังสรรค์ คำแสน ตำแหน่งนิติกร เป็นกรรมการและเลขานุการ

ในท้ายคำสั่งระบุว่าให้คณะกรรมการสืบสวนดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเสนอผลการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีการลอกงานวิจัยนอกจากถูกร้องเรียนต่ออธิการบดีฯได้ถูกนางปณิชา ศรีจักร์ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ครู สังกัดวิทยาลัยชุมชนพิจิตร สำนักบริหารวิทยาลัยชุมชน ยื่นเรื่องต่อเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเอาผิดบุคคลที่เกี่ยวข้อง และนายพงษ์ศักดิ์ เพชรประดับ ผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ป.ป.ท. ได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องทราบเมื่อวันที่ 2 ก.พ.58 ว่ารับเรื่องไว้ดำเนินการแล้ว

นางปณิชา ศรีจักร์ เปิดเผยว่าตั้งข้อสังเกตว่าการสอบสวนของคณะกรรมการฯที่ได้รับคำสั่งจากอธิการบดีไม่เป็นไปตามกรอบระยะเวลา 45 วันตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชนก่อนหน้านี้

(ดูคำสั่งประกอบ)