ฟ้าหลังฝนของ "ฮามีด๊ะ" หญิงไทยเหยื่อค้ามนุษย์มาเลย์
การรวมตัวกันของชาวบ้านเจาะกลาดี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เพื่อร่วมในงานบุญที่จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น จุดประสงค์หลักก็เพื่อเป็นการจัดพิธีศพตามหลักอิสลามให้กับสามีของ ฮามีด๊ะ สาและ ที่เสียชีวิตเมื่อปลายปีที่แล้ว
เพราะด้วยความยากจน มีหนี้สินรุงรัง และขาดสมาชิกคนสำคัญของบ้านอย่างฮามีด๊ะ ทำให้ครอบครัวไม่มีโอกาสได้ได้ประกอบพิธีทางศาสนา
ย้อนกลับไปในช่วงที่สามีของฮามีด๊ะเสียชีวิต ช่วงนั้นฮามีด๊ะไม่ได้อยู่บ้าน แต่เธอเดินทางไปทำงานขายข้าวเกรียบที่ประเทศมาเลเซียตามคำชักชวนของนายหน้า จากนั้นก็ถูกทางการมาเลเซียจับกุมและกักตัว ทำให้ขาดการติดต่อกับครอบครัวไปนานหลายเดือน และกลายเป็นสาเหตุให้สามีของเธอซึ่งเจ็บออดๆ แอดๆ อยู่แล้ว ต้องตรอมใจจนเสียชีวิต
ภายหลังการพยายามช่วยติดตามหาตัวโดยสื่อมวลชนบางสำนักและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จึงทราบว่าฮามีด๊ะกับเพื่อนๆ ซึ่งเป็นหญิงสูงอายุจากสามจังหวัดชายแดนใต้รวม 21 คน ถูกเจ้าหน้าที่มาเลเซียกักตัวไว้เป็นพยานในคดีค้ามนุษย์ เพื่อเอาผิดกับนายหน้าผู้นำพาพวกเธอไปใช้แรงงานขายข้าวเกรียบในลักษณะขอทานไกลถึงรัฐยะโฮร์ ดินแดนใต้สุดของคาบสมุทรมลายู ติดกับสิงคโปร์
เมื่อคดีที่มาเลเซียเสร็จสิ้น หญิงไทยกลุ่มแรก 12 คนที่ให้การเป็นพยานในศาลเรียบร้อยแล้ว ได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านท่ามกลางอ้อมกอดอันอบอุ่นของครอบครัว แต่หนึ่งในหญิงไทยกลุ่มนี้คือฮามีด๊ะ กลับต้องมาเจอเรื่องสะเทือนใจซ้ำอีก เมื่อต้องรับรู้ความจริงอันโหดร้ายว่าสามีของเธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
แต่ความทุกข์ยากลำบากไม่แบ่งเชื้อชาติและศาสนา ชะตากรรมของฮามีด๊ะจึงได้รับความเห็นใจจากเพื่อนบ้านทุกคน รวมถึงชาวบ้านไทยพุทธและทหารพรานที่รับผิดชอบรักษาความสงบในพื้นที่ ทุกคนพากันมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ และจัดงานบุญให้สามีของเธอ แต่ละคนรวมทั้งทหาร พากันหิ้วไก่ หิ้วปลา และข้าวสารนำมามอบให้ และล้อมวงรับประทานอาหารร่วมกัน
จินดา จินากุล ชาวบ้านตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา บอกว่า มาให้กำลังใจฮามีด๊ะ เพราะสงสาร ตั้งแต่ตอนที่ทราบข่าวว่ามีผู้หญิงไทยถูกจับเป็นพยานในดคีค้ามนุษย์ที่รัฐยะโฮร์ก็รู้สึก ตกใจ พอเห็นรูปในทีวียิ่งตกใจมากขึ้น หนำซ้ำยังมารู้ว่าสามีของฮามีด๊ะเสียชีวิตเพราะช็อคอีกก็ยิ่งสงสาร วันนี้ก็เป็นอีกวันที่พาลูกๆ มาเยี่ยมและให้กำลังใจ นึกถึงใจเขาใจเรา
"รู้จักครอบครัวนี้มานาน พวกเราอยู่ด้วยกันก็พึ่งพากัน มีอะไรก็แบ่งปั่นกัน ช่วยเหลือกันมาตลอด จนถึงทุกวันนี้สามีเขาเสียแล้ว ก็ยังไปมาหาสู่กันเป็นปกติ" จินดา บอก
พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 กล่าวว่า ได้เข้ามาเยียวยาจิตใจให้กับครอบครัวของฮามีด๊ะ โดยการจัดงานทำบุญให้สามีของเธอ หลังจากนี้จะเป็นการดูแลอาชีพและติดตามเงินจำนวน 7 หมื่นบาทที่ทางครอบครัวเสียให้กับนายหน้าจนต้องกลายเป็นหนี้ เพื่อให้ได้เงินกลับคืนมา
เรื่องทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมามักมีแง่งามแทรกอยู่เสมอ แม้แต่เรื่องเลวร้ายที่สุดอย่างที่ฮามีด๊ะต้องเผชิญ เพราะสิ่งดีๆ ที่ได้รับกลับมาก็คือความสัมพันธ์อันแนบแน่นของผู้คนในชุมชน ทั้งพุทธ มุสลิม รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ และทหารพราน
ทั้งหมดนี้ทำให้ ฮามีด๊ะ ยิ้มได้บ้าง แม้จะเป็นการยิ้มหลังจากต้องเสียน้ำตาก็ตาม...
"ไม่คิดเลยว่าทหารจะมาจัดงานบุญให้สามีจริงๆ จนกระทั่งวันนี้ที่ทหารได้นำของทุกอย่างมาให้ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่มาช่วยงานอีก รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ลูกๆบอกว่ารู้สึกเหมือนทหารพรานชุดนี้เป็นญาติสนิทคนหนึ่งเลย"
สำหรับเรื่องอาชีพที่หน่วยงานรัฐอย่างศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. กำลังเร่งผลักดันโครงการสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนนั้น ฮามีด๊ะบอกว่า เธอไม่รู้จัก และคงเลือกขายขนม เพราะเป็นการที่ถนัดกว่า
"ทำอย่างอื่นคงไม่ถนัดเท่าขายขนม ส่วนโครงการของรัฐ มั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน ไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยินเลย ไม่อยากทำงานตามที่คนอื่นอยากให้ทำ เพราะมันยากเรื่องตลาดมันยากเวลาทำอาชีพที่เราไม่ถนัด ขอขายขนมดีที่สุด"
นอกจากงานบุญที่ทหารพรานและชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันจัดขึ้นให้กับฮามีด๊ะแล้ว การดำเนินคดีกับนายหน้าผู้นำพาก็เป็นไปตามที่ฮามีด๊ะหวังเอาไว้ คือมีการออกหมายจับนายหน้า 4 คนในข้อหาค้ามนุษย์ แม้ว่าขณะนี้จะจับกุมตัวได้เพียง 1 คน เพราะที่เหลือข้ามฝั่งไปอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย แต่เจ้าหน้าที่ก็ให้สัญญากับเธอว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการติดตามเงินกู้ก้อนใหญ่ที่สูญเสียไประหว่างที่ครอบครัวตามหาตัวเธอ
พ.ต.ต.วีระ แก้วมณี สารวัตรสืบสวน สภ.จะนะ จ.สงขลา บอกว่า ศาลจังหวัดนาทวีอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 4 คนในคดีค้ามนุษย์ ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ คือ นายอับดุลนาเซะ หรือ นาเซ วาเด็ง, นางรอสือนะ ลาเต๊ะ หรือ "ก๊ะนี" นายอับดุลเลาะห์ ดอเลาะ และ นายสาแฮะอัลลียะห์ เหมหมะ ล่าสุดเจ้าหน้าที่จับกุม นายสาแฮะอัลลียะห์ได้แล้ว อยู่ระหว่างฝากขังศาลจังหวัดนาทวี ส่วนอีก 3 คนทราบว่ายังอยู่ในมาเลเซีย ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานกับทางการมาเลย์ ถ้าทั้ง 3 คนออกมาจ๊อบพาสปอร์ตที่ด่านพรมแดน เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองก็จะควบคุมตัวทันที
ฮามีด๊ะหวังว่าเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเธอในครั้งนี้ จะเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้หญิงชายแดนใต้ได้คิดทบทวนเมื่อถูกชักชวนไปทำงานผิดกฎหมายในมาเลเซีย อีกทั้งเป็นบทเรียนให้ภาครัฐได้ตระหนักและเร่งงานพัฒนาที่ตรงกับความต้องการของชาวบ้าน เพื่อให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจนเสียที...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ฮามีด๊ะ กับครอบครัว
2 งานบุญเล็กๆ ที่มีเพื่อนบ้านทุกศาสนามาร่วม
3 ทหารพรานลงมือทำกับข้าว
อ่านประกอบ :
ร้องช่วย 21 หญิงชราชายแดนใต้ หวั่นถูกหลอกไปขอทานมาเลย์
พบแล้ว21หญิงชราถูกกักบ้านพักฉุกเฉินรัฐยะโฮร์ – แฉเส้นทางค้ามนุษย์ชายแดนใต้
เปิดรายชื่อ 21 หญิงชายแดนใต้ถูกกักในมาเลย์ จนท.ทูต-ศอ.บต.รุดเยี่ยม
ปากคำ 21 หญิงไทยในมาเลย์...ขอทานในคราบขายข้าวเกรียบ!
21 หญิงไทยปลอดภัย แต่ป่วย 13 คน - ครอบครัวเตรียมแจ้งจับ "นายหน้า"
นายกฯสั่งคุ้มครองพยานคดี21หญิงถูกลวงขายแรงงาน – ยอดผู้เสียหายพุ่งนับร้อย
ครอบครัว 21 หญิงไทยแจ้งจับ"นายหน้า" ลุ้นกลับกลุ่มแรกก่อนปีใหม่
โทรศัพท์ลึกลับอ้างเป็น จนท.สถานทูต ขอพบญาติ บอกจะพาเยี่ยม 21 หญิงไทย!
จนท.ป้องนายหน้า-วิบากกรรม21หญิงไทย แฉให้ทำงานถึงตี2 – เอ็นจีโอยันค้ามนุษย์
21 หญิงไทยยังไม่ได้กลับบ้าน...
หญิงไทยกลุ่มแรกได้กลับบ้าน...อุทาหรณ์ถูกลวงขายแรงงาน – นายหน้าลอยนวล!
พบอีก! 177 หญิงไทยเหยื่อค้ามนุษย์ในมาเลย์ – 53 คนร่วม Thai Festival ถูกรวบ
ไม่สงบ ไม่มีเงิน ไม่มีงาน...ชะตากรรมหญิงชาวบ้านต้องไปขายแรงงาน-ขอทานมาเลย์
นายกฯไม่ปิดช่องเอาผิด "นายหน้า" พาหญิงชายแดนใต้ทำงานผิดกฎหมายมาเลย์
ฮามีด๊ะ สาและ...วิบากกรรมขายข้าวเกรียบมาเลย์ "แบกหนี้-สามีตาย-ไร้อิสรภาพ"
พม.ฟันธง 21 หญิงไทยเข้าข่าย"ค้ามนุษย์" ตำรวจจะนะลุยดำเนินคดีนายหน้า!
หมายจับ 3 นายหน้าค้ามนุษย์ พาหญิงชายแดนใต้ทำงานผิดกฎหมายในมาเลย์
เทียบบ้าน"นายหน้า"กับบ้าน"เหยื่อค้ามนุษย์" คฤหาสถ์กับกระต๊อบ?
รวบแล้วหนึ่ง! ขบวนการนายหน้านำพาหญิงชายแดนใต้ขายแรงงานมาเลย์
เปิดตัวเลข 3 กลุ่มหญิงไทยถูกจับในมาเลย์ ศอ.บต.เดินสายเยี่ยม-มอบเงินช่วยเหลือ