21 หญิงไทยปลอดภัย แต่ป่วย 13 คน - ครอบครัวเตรียมแจ้งจับ "นายหน้า"

ครอบครัวของหญิงไทยจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ 21 คนที่ถูกจับกุมและกักตัวอยู่ที่รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย เนื่องจากเดินทางเข้าไปทำงานโดยผิดกฎหมาย ได้เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับนายหน้าค้าแรงงาน หลังจากโดนข่มขู่และเรียกร้องเงินอย่างต่อเนื่อง 

          ครอบครัวของหญิงไทย 21 คน ไปรวมตัวกันที่บ้านเจาะกลาดี ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันอังคารที่ 15 พ.ย.59 เพื่อร่วมงานทำบุญครบ 7 วันให้กับ นายอับดุลเลาะ สุหลง สามีของ นางฮามิด๊ะ สาและ หนึ่งในหญิงไทยที่ถูกจับกุมในมาเลเซียซึ่งตรอมใจจนเสียชีวิต เนื่องจากไม่ทราบข่าวคราวของภรรยาที่หายไปนานนับเดือน

          นายมะสุกรี เจ๊ะเหาะ สามีของ นางซิติอาซิเสาะ ลาเต๊ะ หนึ่งในหญิงไทยที่ถูกจับกุม บอกว่า กำลังเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับนายหน้า เนื่องจากทุกวันนี้ยังถูกข่มขู่คุกคามและเรียกร้องเงินอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย

          ก่อนหน้านี้ กลุ่มญาติของหญิงทั้ง 21 คน เคยยืนยันว่าจะไม่แจ้งความ เพราะเกรงกลัวอิทธิพลของกลุ่มนายหน้า แต่ล่าสุดได้เปลี่ยนท่าที และตกลงกันว่าจะพากันไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในภูมิลำเนาของตนเอง

21 หญิงไทยเป็นพยาน – จนท.สถานทูตให้โทรกลับบ้าน

          อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ พร้อมด้วยผู้แทนของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้เดินทางเข้าเยี่ยมหญิงไทยทั้ง 21 คน ที่บ้านพักฉุกเฉินสตรี รัฐยะโฮร์ และพบว่าทั้งหมดมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีพอสมควร แต่มี 13 คนที่มีโรคประจำตัว จึงได้ประสานครอบครัวให้ส่งยาไปให้

          นายดำรงค์ ใคร่ครวญ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เปิดเผย “ทีมข่าวอิศรา” ว่า บรรยากาศการเข้าเยี่ยมเป็นไปด้วยดี เจ้าหน้าที่สถานทูตฯได้นำของใช้จำเป็นเข้าไปมอบให้ รวมทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง และได้เลี้ยงอาหารกลางวันทุกคนด้วย

          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับหญิงไทยทั้ง 21 คนว่า ทั้งหมดพำนักอยู่ในบ้านพักฉุกเฉินสตรีในฐานะพยาน ไม่ใช่จำเลย และทางเจ้าหน้าที่สถานทูตฯได้ให้ใช้เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินของสถานทูตฯ โทรหาญาติที่ไทยด้วย

มาเลย์ชี้เข้าข่ายค้ามนุษย์ – ต้นปีหน้าลุ้นคดีจบ

          ขณะที่ นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ ศอ.บต.ที่ร่วมคณะไปเยี่ยมว่า ทางการมาเลเซียมองว่าเรื่องนี้เข้าข่ายค้ามนุษย์ มีการจับกุมผู้นำพา 2 คน ส่วนหญิงไทยทั้ง 21 คนที่ถูกจับ จะถูกกันตัวไว้เป็นพยาน และจะขึ้นศาลในวันที่ 17 พ.ย.จำนวน 3 คนก่อน ส่วนที่เหลือจะทยอยขึ้นศาลต่อไป คาดว่าคดีมีโอกาสพิพากษาเร็วที่สุดในช่วงเดือน ม.ค.ปีหน้า

          สำหรับการทำงานที่รัฐยะโฮร์ ได้ข้อมูลจากหญิงไทยทั้งหมดว่า เถ้าแก่จะขับรถพาไปส่งตามถนนสายต่างๆ และธนาคารตอน 8 โมงเช้า ทำงานจนถึง 5 ทุ่ม จัดหาอาหารให้ 2 มื้อ คือมื้อเช้ากับมื้อค่ำ และจัดที่พักให้อยู่อาศัย งานก็คือให้ขายข้าวเกรียบถุงละ 10 ริงกิต เถ้าแก่หักไป 8 ริงกิต แบ่งให้คนขาย 2 ริงกิต การมีผู้จัดหาเช่นนี้ ในมาเลเซียถือว่าเข้าข่ายค้ามนุษย์แล้ว แม้จะไม่ได้มีการบังคับแรงงานก็ตาม 

กรรมการสิทธิฯจี้ดำเนินคดีนายหน้าคนไทย

          นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า รัฐบาลไทยควรประสานมาเลเซียขอให้มีการสืบพยานล่วงหน้าโดยเร็ว และให้มีการรับประกันเรื่องความปลอดภัย รวมถึงให้มีการฟื้นฟูจิตใจในฐานะที่เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ด้วย

          นอกจากนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการสืบสวน สอบสวน และดำเนินคดีกับผู้นำพาหญิงทั้ง 21 คนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้ความคุ้มครองความปลอดภัยแก่ญาติและพยานผู้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดี

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ :

1 และ 4 : บรรยากาศขณะเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ และ ศอ.บต.เข้าเยี่ยมหญิงไทย 21 คนที่บ้านพักฉุกเฉินสตรี รัฐยะโฮร์

2 ครอบครัว 21 หญิงไทยร่วมงานทำบุญครบ 7 วันการเสียชีวิตของ นายอับดุลเลาะ สุหลง สามีของ นางฮามีด๊ะ สาและ หนึ่งใน 21 หญิงไทย

3 บ้านพักฉุกเฉินสตรีในรัฐยะโฮร์

อ่านประกอบ :

ร้องช่วย 21 หญิงชราชายแดนใต้ หวั่นถูกหลอกไปขอทานมาเลย์

พบแล้ว21หญิงชราถูกกักบ้านพักฉุกเฉินรัฐยะโฮร์ – แฉเส้นทางค้ามนุษย์ชายแดนใต้

เปิดรายชื่อ 21 หญิงชายแดนใต้ถูกกักในมาเลย์ จนท.ทูต-ศอ.บต.รุดเยี่ยม