- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ผู้พิพากษาข้างน้อยชี้‘สมชาย-บิ๊กจิ๋ว’ สั่ง ตร.เปิดทางเข้าสภาชนวนใช้แก๊สน้ำตาทำคนเจ็บ-ตาย?
ผู้พิพากษาข้างน้อยชี้‘สมชาย-บิ๊กจิ๋ว’ สั่ง ตร.เปิดทางเข้าสภาชนวนใช้แก๊สน้ำตาทำคนเจ็บ-ตาย?
“…ขณะเดียวกันนายสมชาย และคณะรัฐมนตรีทราบว่า ผลการสลายการชุมนุมช่วงเช้าเป็นเช่นใด แต่กลับปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังและระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมอีกในช่วงบ่าย และช่วงกลางคืน จนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ บาดเจ็บสาหัส จนมีผู้เสียชีวิต โดยมิได้ห้ามปรามหรือมีมติคำสั่งระงับยับยั้งการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำเกินกว่าความจำเป็น…”
ยังคงเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเกรียวกราว
กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโจทก์ อุทธรณ์ผลคำพิพากษาคดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อปี 2551 แค่เพียงรายเดียว คือ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. (จำเลยที่ 4) เพราะเห็นว่า อยู่ในฝ่ายปฏิบัติ และไม่ยอมระงับยับยั้งนายตำรวจระดับล่างที่ใช้แก๊สน้ำตาสลายชุมนุม
ส่วนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. (จำเลยที่ 1-3) คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเสียงข้างมาก 7 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ควรอุทธรณ์ เนื่องจากอยู่ในฝ่ายนโยบาย และไม่ได้มีเจตนาในการสั่งสลายการชุมนุมแต่อย่างใด
โดยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวล พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. และนายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการ ป.ป.ช. อ้างว่า ยึดตามคำพิพากษากลาง และคำวินิจฉัยของผู้พิพากษาเสียงข้างน้อยในคดีนี้ (อ่านประกอบ : ‘สมชาย-บิ๊กจิ๋ว-พัชรวาท’รอด!ป.ป.ช. ยื่นอุทธรณ์คดีสลาย พธม.แค่‘สุชาติ’รายเดียว, ‘สมชาย-บิ๊กจิ๋ว-พัชรวาท’ฝ่ายนโยบาย! เหตุผลป.ป.ช.อุทธรณ์แค่‘สุชาติ’ไม่ยับยั้งใช้แก๊สน้ำตา)
สำหรับกรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างน้อยเพียงรายเดียว คือ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.ชวลิต คือผู้ที่สั่งการให้ พล.ต.อ.พัชรวาท และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดทางให้คณะรัฐมนตรีเข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภาให้ได้ตั้งแต่เวลา 05.00 น. จนเป็นเหตุให้ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา ขณะที่นายสมชาย เมื่อแถลงนโยบายเสร็จแล้ว ถือว่ามีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินเต็มตัว แต่กลับไม่ระงับยับยั้งเหตุการณ์ ส่วน พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นผู้รับคำสั่ง พล.อ.ชวลิต และไปสั่งการ พล.ต.ท.สุชาติ อีกที จึงถือว่าอยู่ในฝ่ายปฏิบัติด้วย (อ่านประกอบ : ขีดเส้นตีห้าต้องเปิดทาง!เบื้องหลัง‘สุภา’ ป.ป.ช.หนึ่งเดียว ควรอุทธรณ์‘สมชาย-บิ๊กจิ๋ว-พัชรวาท’)
เหตุผลของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ดังกล่าว สอดคล้องกับความเห็นของผู้พิพากษาเสียงข้างน้อยเพียงรายเดียวเช่นกัน ในคดีนี้คือ นายปริญญา ดีผดุง ที่เห็นว่า จำเลยทั้ง 4 ราย มีความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
อย่างไร ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปรายละเอียดเบื้องต้น เฉพาะกรณีนายสมชาย และ พล.อ.ชวลิต ให้สาธารณชนทราบ ดังนี้
นายปริญญา ได้อ้างถึงรายงานของคณะอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ประกอบกับคำเบิกความของ พล.ต.อ.พัชรวาท พล.ต.อ.สุชาติ และพยานที่เป็นนายตำรวจระดับสูง ให้ถ้อยคำสอดคล้องต้องกันว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อคืนวันที่ 6 ต.ค. 2551 จะต้องประชุมรัฐสภาในวันที่ 7 ต.ค. 2551 ให้ได้ โดยมอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต เป็นผู้รับผิดชอบ
นอกจากนายสมชายจะสั่งการให้ พล.ต.อ.พัชรวาท โดยตรงแล้ว เมื่อ พล.อ.ชวลิต ไปเป็นประธานในการประชุมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้สั่งการและแจ้งที่ประชุมด้วยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติว่า พรุ่งนี้ (7 ต.ค. 2551) จะต้องไปประชุมเพื่อแถลงนโยบายที่รัฐสภาให้ได้ กลับสั่งการให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 05.00 น. จึงเชื่อว่า นายสมชาย ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) รับผิดชอบ ดำเนินการผลักดันประชาชนผู้ร่วมชุมนุมที่ปิดล้อมรัฐสภาออกไป เพื่อให้มีการประชุมแถลงนโยบายในวันที่ 7 ต.ค. 2551
สตช. โดย พล.ต.อ.พัชรวาท จำต้องปฏิบัติตามคำสั่งของนายสมชาย โดยมี พล.อ.ชวลิต เป็นผู้รับผิดชอบ เมื่อมีการปฏิบัติการสลายการชุมนุมโดยใช้ระเบิดแก๊สน้ำตาจากประเทศจีน จนเป็นเหตุให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ และบาดเจ็บสาหัส เป็นจำนวนมากในช่วงเช้า ทั้ง ๆ ทีเป็นที่ประจักษ์ชัดอยู่แล้วว่า การสลายการชุมนุมในช่วงเช้าเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ และบาดเจ็บสาหัส
นายสมชาย ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล แทนที่จะออกคำสั่งห้ามการระเบิดใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายฝูงชน หาได้กระทำเช่นนั้นไม่ ยังคงปล่อยให้มีการใช้กำลังและยิงระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมอีก เพื่อเปิดทางให้สมาชิกรัฐสภา และคณะรัฐมนตรีเดินทางออกจากรัฐสภาภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว
แม้การแถลงนโยบายจะเสร็จสิ้นแล้ว ก็ยังคงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมยิง และขว้างระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าใส่ประชาชนที่กำลังจะเดินทางเข้าไปช่วยประชาชนที่ถูกล้อมอยู่ที่บริเวณรัฐสภา และที่กำลังเดินทางกลับไปยังสะพานมัฆวาน จนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และเสียชีวิตด้วยที่บริเวณหน้า บช.น. และลานพระบรมรูปทรงม้า
ที่นายสมชาย กล่าวอ้างว่า เข้าไปรัฐสภาโดยใช้ประตูด้านข้างเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ขณะนั้นไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด ขณะที่แถลงนโยบายนายสมชายได้ยิน ส.ว. พูดประท้วง แต่เป็นการตะโกนโดยไม่ได้ทำตามระเบียบของรัฐสภา จับความไม่ได้ว่า ส.ว. ผู้นั้น ประท้วงเรื่องใดบ้าง นอกจากนี้ระหว่างแถลงนโยบาย ไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด กระทั่งแถลงเสร็จแล้วจึงมีผู้รายงานให้ทราบ
เห็นว่า ขณะนายสมชายเดินทางเข้ารัฐสภาแม้จะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอย่างไรแล้วก็ตาม แต่หากสังเกตสภาพพื้นถนนย่อมจะพบร่องรอยของการสลายการชุมนุมที่พื้นถนนเต็มไปด้วยขวดน้ำตกเกลื่อนกลาดไปหมด และน่าจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้น หรือหากไม่ทราบก็สามารถสั่งการให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องรายงาน นอกจากนี้ระหว่างการแถลงนโยบาย มี ส.ว. 2 ราย ลุกขึ้นประท้วง ทำนองว่า ข้างนอกรัฐสภามีการสลายการชุมนุมอยู่
อย่างไรก็ดีเมื่อนายสมชาย ให้ถ้อยคำว่า แถลงนโยบายเสร็จแล้วจึงมีผู้รายงานให้ทราบ ก็อนุมานได้ว่า นายสมชาย ทราบดีแล้วว่า เหตุการณ์เกิดในช่วงเช้า ประกอบกับ พล.อ.ชวลิต ได้ขอลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นจากการสลายการชุมนุมในช่วงเช้าด้วยแล้ว เชื่อว่า นายสมชาย ในฐานะผู้สั่งการ พล.อ.ชวลิต ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในการสลายการชุมนุม รวมทั้งรัฐมนตรีที่อยู่ด้วยในคณะรัฐมนตรีมิได้คัดค้านการใช้กำลังและระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในการสลายการชุมนุม ถือเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อสิทธิมนุษยชน และละเมิดต่อกฎหมาย
ขณะเดียวกันนายสมชาย และคณะรัฐมนตรีทราบว่า ผลการสลายการชุมนุมช่วงเช้าเป็นเช่นใด แต่กลับปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังและระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมอีกในช่วงบ่าย และช่วงกลางคืน จนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ บาดเจ็บสาหัส จนมีผู้เสียชีวิต โดยมิได้ห้ามปรามหรือมีมติคำสั่งระงับยับยั้งการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำเกินกว่าความจำเป็น
การกระทำของนายสมชาย และ พล.อ.ชวลิต เข้าข่ายการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
----
ส่วนความเห็นของผู้พิพากษาเสียงข้างน้อยคดีนี้ กรณีของ พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.สุชาติ สำนักข่าวอิศราจะนำเสนอในตอนถัดไป
อ่านประกอบ :
ชัด ๆ กก.ป.ป.ช.อธิบายเหตุผลทำไมอุทธรณ์แค่‘สุชาติ’คดีสลาย พธม.
ดูเหตุผลศาลฎีกาฯยกฟ้อง‘สมชาย-บิ๊กจิ๋ว-พัชรวาท-สุชาติ’ก่อน ป.ป.ช. อุทธรณ์แค่รายเดียว?
‘สมชาย-บิ๊กจิ๋ว-พัชรวาท’รอด!ป.ป.ช. ยื่นอุทธรณ์คดีสลาย พธม.แค่‘สุชาติ’รายเดียว
อุทธรณ์เฉพาะประเด็นที่ประสบความสำเร็จ!ปธ.ป.ป.ช.ปัดอุ้ม‘พัชรวาท’คดีสลาย พธม.
พธม. เล็งฟ้องเอาผิดมาตรา 157 ป.ป.ช. ไม่อุทธรณ์ พัชรวาท-ชวลิต-สมชาย
ข้อต่อสู้‘สมชาย-บิ๊กจิ๋ว-พัชรวาท’คดีสลายพธม.ไขคำตอบ ป.ป.ช.อุทธรณ์ ‘สุชาติ’รายเดียว?
ป.ป.ช.ถกอุทธรณ์คดีสลาย พธม. 29 ส.ค. -ขอ 'วัชรพล'ถอนตัวหวั่นถูกวิจารณ์มีส่วนได้เสีย
เจาะคำวินิจฉัยผู้พิพากษาเสียงข้างน้อยคดีสลาย พธม. แก๊สน้ำตารุนแรงทำคนเจ็บ-ตายได้?
ผู้ชุมนุมขว้างน็อต-มีระเบิดปิงปอง!คำพิพากษาฉบับเต็มชี้ใช้แก๊สน้ำตาสลาย พธม.ชอบแล้ว
'สมชาย-ชวลิต-พัชรวาท-สุชาติ' รอด! ศาลฎีกาฯ ยกฟ้องคดีสลายพันธมิตรฯปี 51
คลอดคำวินิจฉัย 40 หน้า คดีสลายพันธมิตรฯ-ไม่มีเจตนาพิเศษให้ ตร.ทำร้ายผู้ชุมนุม
‘วัชรพล’รับสัมพันธ์‘วงษ์สุวรรณ’คือจุดอ่อนชีวิต! ยันตอบสังคมได้ปมอุทธรณ์คดีสลาย พธม.
ยื่น ป.ป.ช.อุทธรณ์คดีสลาย พธม.-‘วีระ’ ย้อน’บิ๊กตู่’คสช.เคยฉีก รธน.ผิดไหม
7 ส.ค.พธม.ยื่น ป.ป.ช.จี้อุทธรณ์คดีสลายชุมนุม-‘วิชา’ยันศาล ปค.ชี้แล้ว จนท.รัฐทำโดยมิชอบ
9ปีรูดม่านคดีสลาย พธม. เจาะคำพิพากษาศาลไฉนยกฟ้อง‘สมชาย-บิ๊กจิ๋ว-พัชรวาท-สุชาติ’?
'สมชาย-ชวลิต-พัชรวาท-สุชาติ' รอด! ศาลฎีกาฯ ยกฟ้องคดีสลายพันธมิตรฯปี 51
เคารพคำพิพากษาแต่ไม่เห็นพ้อง!มติ พธม.ยื่น ป.ป.ช.อุทธรณ์คดีสลายชุมนุมปี'51
ยังไม่ได้ข้อสรุปอุทธรณ์คดีสลาย พธม.!ป.ป.ช.สั่ง จนท.ดูคำพิพากษา-เชื่อทันกรอบ รธน.
‘สมชาย’แถลงปิดคดีปัดสั่งสลายชุมนุม เผย‘พัชรวาท-สุชาติ’ออกหน้าดูเอง–พิพากษา 2 ส.ค.
เบื้องหลัง!ความพยายามสู้นอกศาลของ ‘สมชาย-พวก’ก่อนรูดม่านปิดคดีสลาย พธม.?