- Home
- Investigative
- การทำผิดของเอกชน
- อดีตคตส.ยันต้องเรียกเก็บภาษีโอนหุ้น'โอ๊ค-เอม' กรณีเบญจาคืน-ส่งเรื่องสรรพากรนานแล้ว
อดีตคตส.ยันต้องเรียกเก็บภาษีโอนหุ้น'โอ๊ค-เอม' กรณีเบญจาคืน-ส่งเรื่องสรรพากรนานแล้ว
กรณี'เบญจา-พวก'ตอบข้อหารือช่วยเลี่ยงภาษีโอนหุ้นชินยังไม่จบ! 'สัก กอแสงเรือง' อดีต คตส. ยัน 'อิศรา' ต้องตามเรียกเก็บภาษีคืนจาก 'โอ๊ค-เอม' เผยส่งเรื่องให้สรรพากรนานแล้ว ไม่รู้ทำถึงขั้นตอนไหน ด้าน อธิบดี ประสงค์ ยังไม่สะดวกตอบคำถาม เหตุติดประชุมอยู่
กรณี ศาลอาญา ได้พิพากษาจำคุก นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังคลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร, น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย, น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย, นายกริช วิปุลานุสาสน์ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ช่วยนายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา คุณากรวงศ์ บุตรนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลี่ยงภาษีโอนหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
(อ่านประกอบ : คุก3 ปี!'เบญจา-3อดีตขรก.' คดีเลี่ยงภาษีโอนหุ้นชินฯ-คนใกล้ชิดเลขาฯพจมาน โดนด้วย, ย้อนรอยจุดตาย 'เบญจา-พวก' จำคุก 3 ปี ตอบข้อหารือช่วย'โอ๊ค-เอม'เลี่ยงภาษีหุ้นชิน)
เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2559 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ติดต่อไปยังนายสัก กอแสงเรือง อดีตกรรมการและโฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพื่อสอบถามความเห็นต่อกรณีนี้ ว่า ภายหลังจากที่ศาลอาญา มีคำพิพากษาดังกล่าว ใครจะต้องรับผิดชอบเงินภาษีส่วนนี้ที่ไม่ได้จัดเก็บ และทำให้รัฐเสียหาย
นายสัก กล่าวว่า "เป็นเรื่องของกรมสรรพากร ที่จะต้องไปติดตามเรียกภาษีส่วนนี้คืน คงต้องไปสอบถามทากรมสรรพากร ว่าติดตามเรื่องนี้ไปถึงไหนแล้ว"
เมื่อถามว่า ในส่วนการพิจารณาคดี ของคตส. ได้สั่งให้กรมสรรพากร เรียกคืนภาษีของบุคคลทั้ง 2 ด้วยหรือไม่ นายสัก ตอบว่า "ได้แจ้งผลไปนานแล้ว ว่าให้ติดตามภาษีส่วนนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้สรรพากรดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง"
นายสัก ยังกล่าวด้วยว่า กรณีการตอบข้อหารือ ของนางเบญจา เพื่อช่วยเหลือไม่ให้บุตรชายและบุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องเสียภาษีจากการขายหุ้น ถือเป็นหนึ่งในหลายกรณีที่คตส.ตรวจสอบเรื่องการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ป ซึ่งนำไปสู่การตรวจสอบเรื่องร่ำรวยผิดปกติ ของนายทักษิณ เป็นผลทำให้มีการอายัดทรัพย์จำนวน 4 หมื่นล้าน กลับมาเป็นสมบัติของแผ่นดินได้ ถือว่าการทำหน้าที่ของคตส.คุ้มค่าแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีการตอบข้อหารือของ นางเบญจา และพวก นั้น คตส.ได้ตั้งข้อกล่าวหา นางเบญจา หลุยเจริญ ในฐานเป็นผู้ที่ตอบข้อหารือเรื่องการไม่ต้องเสียภาษีการขายหุ้นของบริษัทแอมเพิลริช นางสาวโมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย นายกริช วิปุลานุสาสน์ นิติกร 9 น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีที่กรมสรรพากรไม่จัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของนายพานทองแท้ กับ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ที่ซื้อหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยการซื้อหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด ผลต่างระหว่างราคาเข้าลักษณะเงินพึงได้ประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้ซื้อหุ้นต้องนำไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ 28/2538
ส่วน น.ส.ปราณี ถูกตั้งข้อกล่าวหา เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด เพราะเห็นว่า การที่ น.ส.ปราณี ได้ทำหนังสือสอบถามการประเมินเสียภาษีไปยังกรมสรรพากร แต่กรมสรรพากรกลับมีหนังสือยืนยันว่าไม่ต้องเสียภาษี และไม่เข้าเกณฑ์ประมวลกฎหมายรัษฎากรมาตรา 39 ซึ่งการกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ และเกิดช่องโหว่ที่ไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ รวมถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากมีผู้นำกรณีดังกล่าวไปใช้ปฏิบัติตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้เช่นกัน แต่นายประสงค์แจ้งว่า "ติดประชุมอยู่ ยังไม่สะดวกที่จะตอบคำถามถึงกรณีนี้"